Skip to main content
sharethis

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญการผ่าพิสูจน์ศพจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เบิกความถึงบาดแผลตามร่างกายของ อนัน เกิดแก้ว ที่เสียชีวิตในระหว่างการควบคุมของตำรวจฝ่ายสืบสวนชุดปราบปรามยาเสพติด ระบุว่าเข้าลักษณะการถูกทำร้ายร่างกาย

 
เมื่อวันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา มูลนิธิผสานวัฒนธรรม แจ้งว่าเมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2560 ผู้พิพากษาศาลจังหวัดนครราชสีมาออกนั่งพิจารณาไต่สวนพยานผู้เชี่ยวชาญ ที่ฝ่ายมารดาผู้ตายอ้างนำสืบ ในคดีหมายเลขดำที่ ช.3/2559 คดีไต่สวนการตาย อนัน เกิดแก้ว ซึ่งเสียชีวิตในระหว่างการควบคุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนชุดปราบปรามยาเสพติด ตำรวจภูธรนครราชสีมา พยานผู้เชี่ยวชาญที่เบิกความต่อศาลเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญการผ่าพิสูจน์ศพจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม แพทย์ผู้เชี่ยวชาญฯ ได้เบิกความต่อศาลโดยพิจารณารายละเอียดประวัติการรักษา บันทึก และภาพถ่ายศพตามรายงาน

การชันสูตรพลิกศพของแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลมหาราช จังหวัดนครราชสีมา ที่ทำการผ่าชันสูตรศพ ไว้แล้ว ได้ความว่า บาดแผลที่ปรากฏตามร่างกาย อนัน เกิดแก้ว ผู้ตาย เข้าลักษณะบาดแผลที่เกิดจากการถูกทำร้ายร่างกายมากกว่าเกิดจากอุบัติเหตุจากการวิ่งหกล้มและตกกระแทกของแข็งเพียงหนึ่งถึงสองครั้ง เนื่องจากตามร่างกายผู้ตายมีรอยช้ำจำนวนมาก และเป็นรอยช้ำที่มีลักษณะเกิดจากการกระแทกโดยของแข็งไม่มีคมซ้ำๆ กันหลายครั้งในระยะเวลาติด ๆ กัน ซึ่งปรากฏรอยช้ำแบบวงกลมติด ๆ กันเป็นจำนวนมาก ที่บริเวณใบหน้า ขมับ และศีรษะ ทั้งยังมีรอยช้ำที่หลังใบหูด้วย เป็นเหตุโดยตรงที่ทำให้ผู้ตายได้รับบาดเจ็บกระทบกระเทือนถึงเยื่อหุ้มสมองและเนื้อสมอง จนเกิดการฉีกขาดของเส้นเลือดดำที่บริเวณใต้เยื่อหุ้มสมอง ทำให้ผู้ตายอยู่ในภาวะเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมอง เมื่อเลือดออกจับกันเป็นลิ่มจะเบียดเนื้อสมองให้เคลื่อนผิดตำแหน่งและกดทับก้านสมอง ระยะแรก ๆ ที่เลือดยังออกไม่มาก ผู้ป่วยจะมีอาการซึม มึนงง กระทั่งลิ่มเลือดใหญ่ขึ้นเบียดเนื้อสมองไปกดทับก้านสมองมากขึ้นก็จะทำให้ผู้ป่วยช็อกและหมดสติได้ ยิ่งระยะเวลานานขึ้นโอกาสที่จะรอดชีวิตก็ยากมากยิ่งขึ้น ซึ่งกรณี อนัน ผู้ตาย ไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที จึงเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย

เมื่อพยานผู้เชี่ยวชาญเบิกความต่อศาลเสร็จแล้ว ทนายความมารดาผู้ตายแถลงต่อศาลว่า ยังมีพยานฝ่ายมารดาผู้ตายที่ต้องการนำมาสืบอีกจำนวน 3 ปาก ได้แก่ มารดาผู้ตาย น้องสาวผู้ตาย 2 คน ศาลจึงได้กำหนดนัดไต่สวนพยานทั้งสามปากดังกล่าว ในวันที่ 29 พฤษภาคม 2560 
 
นอกจากคดีชันสูตรพลิกศพ อนัน นี้แล้ว ยังมีคดีที่เกี่ยวเนื่องกับกรณีการตายของ อนัน คือคดีแพ่ง ที่มารดาและบิดาของ อนัน ฟ้องเรียกค่าเสียหายตาม พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 และรัฐธรรมนูญแห่งราชอาญาจักรไทย โดยยื่นฟ้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) ต่อศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ซึ่งสตช. เป็นหน่วยงานต้นสังกัดของเจ้าหน้าที่ตตำรวจผู้จับกุมและควบคุมตัว อนัน จนนำมาซึ่งการตายของ อนัน คดีแพ่งดังกล่าวอยู่ระหว่างรอผลการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ในเรื่องการขอยกเว้นค่าธรรมเนียมศาล หลังจากนั้นศาลแพ่งกรุงเทพใต้จึงจะนัดพร้อมและพิจารณาคดีต่อไป

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net