Skip to main content
sharethis

สมาชิกสหพันธ์เกษตรกรกรภาคใต้ ร้องกรรมการสิทธิฯ ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยเร่งด่วน กรณีชาวชุมชน ถูกตำรวจจับกุมข้อหาบุกรุกเข้าไปในอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่น ทำให้เสียทรัพย์ และความผิดฐานเป็นซ่องโจร 

ภาพจาก เว็บไซต์ กสม.

25 เม.ย. 2560 ความคืบหน้าสถานการณ์ชุมชนน้ำแดงพัฒนา หมู่ที่ 9 ต.คลองน้อย อ.ชัยบุรี จ.สุราษฎร์ธานี นับตั้งแต่เมื่อวันที่ 20 เม.ย. 2560 จนถึงวันที่ 22 เม.ย. 2560 สมาชิกสหพันธ์เกษตรกรกรภาคใต้ (สกต.) และขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (พีมูฟ) ในพื้นที่ชุมชนน้ำแดง ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมไปแล้ว 8 คน ด้วย 3 ข้อหา คือ บุกรุกเข้าไปในอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่น ทำให้เสียทรัพย์ และความผิดฐานเป็นซ่องโจร นั้น

ล่าสุดวันนี้(25 เม.ย.60) นักข่าวพลเมือง (ThaiPBS) รายงานว่า ขณะนี้ได้รับการประกันตัวไปแล้ว 4 คน ประกอบด้วย 1.นายอดิศร ศิริวัฒน์ วงประกัน 270,000 บาท ได้รับการประกันตัวเมื่อ 21 เม.ย. 2560 2.นายวิจิตร กลดนวล วงประกัน 270,000 บาท ได้รับการประกันตัวเมื่อ 21 เม.ย. 2560 3.นายสมจิตร โอรส วงประกัน 600,000 บาท ได้รับการประกันตัวเมื่อ 24 เม.ย. 2560 และ 4.นายประกอบ อนุภัค วงประกัน 600,000 บาท ได้รับการประกันตัวเมื่อ 24 เม.ย. 2560

ขณะที่ยังมีชาวบ้านถูกศาลฝากขังที่เรือนจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี เนื่องจากญาติไม่สามารถหาหลักทรัพย์มาประกันตัวได้ อีก 4 คน คือ 1.นางวิไลวรรณ กลับนุ้ย 2.นายไพโรจน์กลับนุ้ย 3.นายณรงค์ สิทธิกูล และ 4.นางนงเยาว์ กลับนุ้ย
 
โดยในวันนี้ เวลา 11.00 น. สมาชิก สกต. เข้ายื่นหนังสือต่อ วัส ติงสมิตร ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) และประธานคณะอนุกรรมการด้านสิทธิในที่ดินและการจัดการทรัพยากรป่าไม้ และ อังคณา นีละไพจิตร ประธานอนุกรรมการสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง หลังชาวบ้านชุมชนน้ำแดงพัฒนา จ.สุราษฎร์ธานี สมาชิก สกต.ถูกจับกุมข้อหาบุกรุก ทำให้เสียทรัพย์ และซ่องโจร โดยศาลเรียกวงเงินประกันตัวถึงคนละ 600,000 บาท 

สมาชิก สกต.เป็นตัวแทนยื่นหนังสือของผู้ร้องเรียนคือสมาชิกชุมชนน้ำแดงพัฒนาผู้ได้รับผลกระทบจากการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยหนังสือดังกล่าวระบุข้อเรียกร้องต่อคณะอนุกรรมการด้านสิทธิในที่ดินและการจัดการทรัพยากรป่าไม้ กสม. ดังต่อไปนี้

1. ลงพื้นที่เพื่อสืบสวนและสอบสวนข้อเท็จจริงโดยทันที เพราะการละเมิดสิทธิและความขัดแย้งในที่ดินในพื้นที่ที่ สกต. พยายามจัดทำโฉนดชุมชนมีความซับซ้อน และการตรวจสอบการละเมิดสิทธิจะทำได้จริงก็ต่อเมื่อมีการลงพื้นที่ไปหาข้อเท็จจริงและสอบถามจากสมาชิกของ สกต. ผู้ได้รับผลกระทบโดยตรง ขอให้ท่านตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อสมาชิกของ สกต. ทั้งที่ถูกดำเนินคดีและสมาชิกในชุมชนที่ขณะนี้อยู่อย่างหวาดผวาและหวาดกลัว รวมถึงจัดทำรายงานข้อเสนอแนะทางนโยบาย

2. ประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องเพื่อหาแนวทางในการคุ้มครองสมาชิกของ สกต.

สมาชิก สกต.ยังได้ร้องขอให้มีการลงพื้นที่โดยด่วนเพื่อตรวจสอบ ด้านนายวัส กล่าวในที่ประชุมว่า น่าจะมีการลงพื้นที่เพื่อสอบข้อเท็จจริงและทางคณะอนุกรรมการด้านสิทธิในที่ดินและการจัดการทรัพยากรป่าไม้ได้จัดทำรายงานข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลในหัวข้อที่เกี่ยวกับข้องกับเรื่องที่ดินป่าไม้ โดยมีการเก็บรวบรวมคำร้องจากผู้ได้รับผลกระทบจากนโยบายทวงคืนพื้นป่ากว่า 40 คำร้องเพื่อที่จะนำมาประมวลผล จัดทำเป็นรายงาน

นอกจากนี้ สมาชิก สกต.และตัวแทนผู้เสียหายยังได้ยื่นหนังสือต่อนางอังคณา ในฐานะประธานอนุกรรมการสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง โดยขอให้ลงพื้นที่เพื่อสืบสวนและสอบสวนข้อเท็จจริง ตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน และการข่มขู่คุกคามที่ยังคงมีต่อเนื่อง โดยเฉพาะคดีล่าสุดที่มีการตั้งข้อกล่าวหาว่าสมาชิกในความผิดฐานเป็นซ่องโจร ซึ่งเป็นการตั้งข้อกล่าวหาที่ร้ายแรงและจะส่งผลกระทบต่อชาวบ้านที่ยังอาศัยอยู่ในชุมชนน้ำแดงพัฒนา อีกทั้งยังเป็นการเปิดช่องให้ผู้มีอิทธิพลมาคุกคามและข่มขู่สมาชิกในชุมชนที่ขณะนี้อยู่อย่างหวาดผวา

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net