เตือนแรงงานไทยในไต้หวันต่อสัญญากับนายจ้างได้เลยไม่ต้องกลับไทย

สำนักแรงงานไทย ณ เมืองเกาสง เตือนแรงงานไทยหากต่อสัญญากับนายจ้างให้ต่อได้ที่ไต้หวันก่อนหมดสัญญา 2-4 เดือน ไม่ต้องกลับไทย หากกลับมาพักที่ไทยให้ไปรายงานตัวที่จัดหางานจังหวัด ต่ออายุบัตรสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ มิฉะนั้นด่านตรวจคนเข้าเมืองจะไม่ให้กลับไต้หวัน พบนายจ้างธุรกิจขนาดใหญ่ในไต้หวันยังนิยมแรงงานไทย ยื่นความจำนงรับแรงงานไทยกว่า 200 ราย
 
 
 
20 พ.ค. 2560 หลังจากที่ไต้หวันได้ บังคับใช้ กม. แรงงานต่างชาติในไต้หวัน ครบสัญญา 3 ปีไม่ต้องเดินทางออกนอกประเทศแล้ว ตั้งแต่เดือน พ.ย. 2559 ที่ผ่านมา สำนักแรงงานไทย ณ เมืองเกาสง ได้ออกประกาศ เรื่อง กฎหมายการจ้างงาน มาตรา 52 ฉบับแก้ไข ระบุว่าตามที่กฎหมายจ้างงาน มาตรา 52 ฉบับแก้ไข มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 พ.ย. 2559 โดยยกเลิกข้อบังคับให้แรงงานต่างชาติทำงานครบ 3 ปีจะต้องเดินทางกลับประเทศอย่างน้อย 1 วัน ซึ่งเป็นผลให้นายจ้างขอยื่นเอกสารต่อสัญญาจ้างแรงงานต่างชาติต่อกระทรวงแรงงานไต้หวันได้ทันทีโดยก่อนที่จะครบสัญญา 2-4 เดือน นายจ้างและลูกจ้างจะต้องตัดสินใจว่าจะต่อสัญญาใหม่หรือไม่หากต้องการต่อสัญญาใหม่ ให้นายจ้างยื่นคำร้องต่อศูนย์บริการจ้างตรงซึ่งต้องใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ หลังได้รับอนุญาตแล้ว ให้นำใบอนุญาต ไปประกอบการยื่นขอต่ออายุใบถิ่นที่อยู่หรือ ARC ส่วนแรงงานหรือนายจ้างที่ไม่ประสงค์จะต่อสัญญาใหม่ แต่แรงงานยังต้องการทำงานกับนายจ้างรายใหม่ต่อไป ให้นายจ้างเดิมยื่นต่อศูนย์บริการจ้างตรงก่อนครบกำหนดสัญญา 2-4 เดือนเช่นกัน 
 
ทั้งนี้สำนักแรงงาน ณ เมืองเกาสง ได้กำหนดแนวปฏิบัติในการตรวจรับรองเอกสารสัญญาจ้างแรงงานไทยดังนี้ 1. กรณีที่นายจ้างประสงค์ที่จะจ้างแรงงานไทยรายเดิม ขอความร่วมมือให้ต่อสัญญาจ้างใหม่ในไต้หวันทันทีซึ่งสำนักแรงงาน ณ เมืองเกาสงพิจารณาเห็นว่า กรณีที่ส่งแรงงานไทยรายเดิมกลับไปต่อสัญญาจ้างที่ประเทศไทยเป็นการแสวงประโยชน์จากค่าบริการจัดหางานโดยไม่เป็นธรรม 2. กรณีที่แรงงานไทยขอโอนย้ายนายจ้างใหม่เมื่อได้รับอนุญาตแล้วนายจ้างใหม่ต้องนำเอกสารการจ้างแรงงานจำนวนสองชุดยื่นต่อสำนักแรงงานไทยณเมืองเกาสงภายในเวลา 1 เดือน และ 3. กรณีที่แรงงานไทยขอกลับไปพักที่ประเทศไทยหลังนายจ้างได้ต่อสัญญาจ้างใหม่ในไต้หวันแล้ว ขอความร่วมมือให้บริษัทจัดหางานประชาสัมพันธ์ให้แรงงานไทยไปรายงานตัวที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกแห่ง เพื่อขอต่ออายุบัตรสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ มิฉะนั้นด่านตรวจคนเข้าเมืองจะไม่อนุญาตให้เดินทางออกจากประเทศไทยกลับมาไต้หวันได้
 
นายจ้างธุรกิจขนาดใหญ่ในไต้หวันยังนิยมแรงงานไทย ยื่นความจำนงรับแรงงานไทยกว่า 200 ราย
 
 
แรงงานไทยในไต้หวัน (แฟ้มภาพกระทรวงแรงงาน)
 
นอกจากนี้นายวรานนท์ ปีติวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า กรมการจัดหางาน ร่วมกับสำนักงานแรงงาน ณ กรุงมะนิลา (ส่วนที่ 2) ไทเป เข้าพบหารือกับบริษัทที่ไต้หวันซึ่งจ้างแรงงานไทยผ่านการจัดส่งโดยกรมการจัดหางาน เป็นบริษัทประกอบธุรกิจประเภทผลิตแผงวงจรไฟฟ้า ผลิตเฟอร์นิเจอร์ (ม่าน มู่ลี่) ผลิตชิ้นส่วน/ประกอบจักรยาน ผลิตอลูมิเนียมอัดหรือรีดเป็นรูป (กรอบประตู/หน้าต่าง) ผลิตเฟอร์นิเจอร์อลูมิเนียม (เตียง ตู้ โต๊ะ) จากการหารือบริษัทมีความสนใจใช้บริการจัดส่งโดยรัฐ เนื่องจากมีความเห็นว่าระบบการจัดส่งโดยรัฐจะเป็นการช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของคนงาน  โดยนายจ้างแจ้งความต้องการแรงงานไทยให้กรมการจัดหางานจัดส่งทันทีจำนวน 233 อัตรา ทำงานในโรงงานอิเล็กทรอนิกส์ 130 คน และช่างเชื่อม ช่างประกอบ จำนวน 103 คน คาดว่าจะจัดส่งได้ภายในเดือนมิถุนายนศกนี้ และยังได้จัดหาตำแหน่งงานให้กับแรงงานไทยเพิ่มขึ้นอีกจำนวน 220 อัตรา เป็นโครงการก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ จำนวน 160 อัตรา งานช่างเชื่อมและช่างประกอบท่ออีกจำนวน 60 อัตรา กับนายจ้างบริษัทอุตสาหกรรมหนักขนาดใหญ่อันดับหนึ่งของไต้หวัน ซึ่งกรมการจัดหางานจะประสานงานกับสำนักงานแรงงาน ณ กรุงมะนิลา (ส่วนที่ 2) ไทเป และสาขาเมืองเกาสง เพื่อประสานในการจัดส่งแรงงานไทยให้กับนายจ้าง/สถานประกอบการ และเตรียมประสานคนงานเก่าและประกาศรับสมัครคนงานใหม่ให้นายจ้างรายอื่นๆที่จะแจ้งความต้องการแรงงานให้กรมการจัดหางานจัดส่ง ทั้งนี้ จากการสอบถามนายจ้างและสมาคมจัดหางานไถจงแจ้งว่านายจ้างไต้หวันมีความต้องการแรงงานไทยจำนวนมาก แต่อย่างไรก็ตามคนงานไทยยังมีปัญหากลับก่อนกำหนด  ซึ่งหากแก้ปัญหาได้ก็จะสามารถขยายตลาดแรงงานไทยได้ เนื่องจากนายจ้างยังมีความต้องการแรงงานไทยมากกว่าแรงงานชาติอื่นๆ ซึ่งกรมการจัดหางานจะนำประเด็นปัญหาดังกล่าวหารือในที่ประชุมคณะกรรมการร่วมหารือไทย-ไต้หวัน ซึ่งกำหนดจัดประชุมในเดือนมิถุนายนศกนี้
 
นายวรานนท์ กล่าวอีกว่าการไปพบนายจ้าง/สถานประกอบการและสมาคมจัดหางานไต้หวันครั้งนี้ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี และตลาดแรงงานไทยยังเป็นที่นิยมของนายจ้างไต้หวัน รวมทั้งเป็นโอกาสอันดีที่ได้รับแจ้งความต้องการจ้างแรงงานไทยจากนายจ้างไต้หวันให้กรมการจัดหางานช่วยจัดหาคนงานให้เป็นจำนวนมาก ซึ่งกรมการจัดหางานได้มีการปรับลดระยะเวลาการดำเนินการจัดส่งแรงงานไทยให้นายจ้างได้ภายในระยะเวลา 30 วัน โดยกำหนดกระบวนงานการจัดส่งคนหางานไปทำงานไต้หวันโดยรัฐ เป็น ๓ ขั้นตอน คือ (1) การเตรียมคนหางาน (2) การคัดเลือกคนหางาน และ (3) การจัดส่งให้นายจ้าง ทั้งนี้เพื่อให้นายจ้างไต้หวันติดต่อใช้บริการจัดส่งแรงงานไทยโดยรัฐเพิ่มมากขึ้น เพราะการจัดส่งโดยรัฐ เป็นบริการของรัฐที่ส่งคนหางานไปทำงานต่างประเทศ โดยไม่ต้องเสียค่าบริการ นอกจากค่าใช้จ่ายที่จำเป็นเช่น ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าวีซ่า ค่าภาษี สนามบิน ค่าสมาชิกกองทุนฯ ค่าที่พักสำหรับเตรียมตัวก่อนเดินทาง ซึ่งช่วยสร้างโอกาสให้คนหางานที่มีรายได้น้อยได้มีโอกาสไปทำงานต่างประเทศได้มากขึ้น และไต้หวันยังคงเป็นตลาดแรงงานยอดนิยมของแรงงานไทยสูงกว่าทุกประเทศ โดยในปี 2560 (ม.ค. – เม.ย. 2560) คนหางานได้รับอนุญาตให้เดินทางไปทำงานต่างประเทศ จำนวน 39,028 คน โดยไปทำงานไต้หวันมากที่สุดจำนวน 11,881 คน ลำดับที่สองสาธารณรัฐเกาหลี 4,963 คน ลำดับที่สามญี่ปุ่น จำนวน 2,897 คน หากคนหางานใดประสงค์จะไปทำงานไต้หวัน ขอให้มาลงทะเบียนได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 หรือกองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ กรมการจัดหางาน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมการจัดหางาน โทร.1694
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท