Skip to main content
sharethis

ที่ประชุม สนช. เห็นชอบกฎหมายลูกว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้งวาระ 2 และ 3 แล้ว ส่งผลให้เกิดการเซ็ตซีโร่ กกต. ทั้งคณะ หลังกฎหมายประกาศใช้ แต่ให้อยู่ปฏิบัติหน้าที่ไปจนกว่าจะสรรหาคนใหม่มาแทนที่ได้ ด้านภัทระ คำพิทักษ์ระบุ เซ็ตซีโร่ทำตามเจตนารมณ์กฎหมาย ไม่ได้โกรธเกลียดใคร

9 มิ.ย. 2560 มติชนออนไลน์ และ เว็บข่าวรัฐสภา รายงานว่า  ที่รัฐสภา สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ได้มีการประชุมพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย กกต. พ.ศ. ... ในวาระ 2 หลังจากที่คณะกรรมาธิการ(กมธ.) วิสามัญ ฯ พิจารณาเสร็จแล้ว โดยนายตวง อันทะไชย ประธานกมธ. กล่าวชี้แจงว่า ร่างพ.ร.ป.กกต. มีทั้งหมด 78 มาตรา มีการแก้ไขเพิ่มเติม 18 มาตรา อาทิ การสรรหาหรือคัดเลือกกรรมการให้ใช้วิธีลงคะแนนเปิดเผย และให้กรรมการสรรหาแต่ละคนบันทึกเหตุผลในการเลือกไว้ด้วย และกำหนดให้ กกต.ชุดปัจจุบันพ้นจากตำแหน่ง เมื่อกฏหมายประกาศใช้ แต่ยังให้ทำหน้าที่รักษาการในตำแหน่ง กกต.ต่อไปจนกว่ามี กกต.ชุดใหม่เข้ามาทำหน้าที่แทน โดยมีสิทธิได้รับเงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง และประโยชน์ตอบแทนอื่นตามที่ได้รับอยู่ในวันก่อนวันที่กฎหมายประกาศบังคับใช้

โดยที่ประชุมได้มีการอธิปราย เรียงรายมาตรา โดยในมาตรา 12 ในการสรรหากรรมการ โดยกมธ.ได้เปลี่ยนแปลงสาระสำคัญ ให้คณะกรรมการสรรหา เลือก กกต.ด้วยการลงคะแนนแบบเปิดเผย พร้อมบักทึกเหตุผลของคณะกรรมการสรรหาแต่ละคนไว้เป็นหลักฐานด้วย โดยนายธานี อ่อนละเอียด สนช.อภิปรายแสดงความเป็นห่วงว่า จะไม่มีใครกล้าเป็นคณะกรรมการสรรหา เพราะต้องบันทึกเหตุผล เกรงว่าเป็นหลักฐานและถูกดำเนินคดีได้ อีกทั้งยังกังวลว่าจะเป็นบรรทัดฐานให้พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญฉบับอื่นๆยึดแนวทางนี้ จึงเสนอให้ตัดเนื้อหาความดังกล่าวนี้ออกไป

มาตรา 70 บทเฉพาะกาล เกี่ยวกำกับดำรงอยู่ของกกตงชุดปัจจุบัน โดยนายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธานคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ด้านการเมือง สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ในฐานะ กมธ.เสียงข้างน้อย ที่เสนอให้ปรับเปลี่ยนเฉพาะกกต.บางคนที่ขาดคุณสมบัติ อภิปรายว่า ในเรื่องคุณสมบัติ กกต. ต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งกมธ.เสียงส่วนใหญ่เห็นว่าให้ปรับเปลี่ยนกกต.ทั้งหมด หรือเซตซีโร่ โดยให้กกต.ทั้ง 5 คนพ้นจากหน้าที่ไปเมื่อกฎหมายใช้บังคับ และให้ทำหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะได้กกต.ชุดใหม่ ส่วนตัวตนเห็นว่า ควรให้กกต.ชุดปัจจุบันที่มีคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญทำหน้าที่ต่อ เรามองว่าประสิทธิภาพการทำงานของกกต.เป็นเรื่องสำคัญ คนที่มาเป็นต้องมีความรู้ มีประสบการณ์ และมีความเข้าใจในการทำงาน ดังนั้นคิดว่าควรมีกกต.คนเดิมทำหน้าที่ต่อ เพื่อประสิทธิภาพการทำงานน่าจะต่อเนื่องได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญก็มีสูง และคนในกกต.บางคนก็มีคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ จึงยังมองไม่ออกว่ามีเหตุผลอะไรจะไม่ให้เขาทำหน้าที่ต่อไป ส่วนแนวทางที่กมธ.เสียงส่วนใหญ่ที่เสนอไว้เราก็เคารพ แต่ด้วยหลักการเหตุผลที่ คณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ด้านการเมือง สปท.ได้ศึกษาและรวบรวมเสนอมาแล้วน่าจะเป็นหลักการสำคัญที่จะทำให้งานของกกต.ทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป จึงคิดว่าน่าจะเป็นไปตามร่างเดิมของกรธ.ที่เสนอมา

ด้านพ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา รักษาการเลขาธิการกกต. ในฐานะกรรมาธิการฯเสียงข้างน้อยที่ไม่ให้เซตซีโร่ กกต.ยกชุด อภิปรายว่า การทำงานไม่ว่าองค์กรใดย่อมมีความขัดแย้ง ที่ผ่านมาตนอยู่กับกกต. ก็จะทำหน้าที่ได้ดีที่สุด โดยเฉพาะการทำประชามติรัฐธรรมนูญที่ผ่านมา ปัจจุบันความขัดแย้งในกกต.หายไป เราร่วมมือกันทำงานให้เป็นไปได้ด้วยดี จนกระทั่ง พ.ร.บ.ฉบับนี้แก้ไขคุณสมบัติจากเดิม และมีการเสนอญัตติของกมธ.เสียงข้างมาก ให้กกต.ทั้งชุดสิ้นสุดการทำหน้าที่ทันทีที่กฎหมายฉบับนี้ประกาศใช้ ซึ่งตนไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะกกต.ชุดปัจจุบันเข้ามาทำหน้าที่อย่างถูกต้องทุกกระบวนการ มีคุณสมบัติที่อยากให้อยู่ต่อตามวาระ เพราะกกต.ทุกคนกว่าจะมาทำงานวันนี้ต้องสอบเข้ามาและลาออกจากวิชาชีพหลายอย่าง อยากถามว่าหากมีกกต.ใหม่ทั้งชุดเข้ามาทำหน้าที่แล้ว จะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ การทำงานด้านการเลือกตั้งต้องอาศัยเวลาและความชำนาญในการทำงาน ดังนั้นการให้กกต.ทั้งชุดยังคงอยู่เพื่อทำหน้าที่ต่อไป จึงเป็นเรื่องที่ตนเห็นด้วย

นอกจากนี้ยังมีสมาชิก สนช.อีกหลายคนที่ต้องการให้ กกต.อยู่ต่อทั้งชุดจนครบวาระ อาทิ นายกล้านรงค์ จันทิก นายนรนิติ เศรษฐบุตร และนายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ อภิปรายว่า ตนขออภิปรายในแบบที่ชาวบ้านเข้าใจ จึงอยากถามไปที่.กรธและกมธ.ว่า โกรธอะไร กกต.เป็นการส่วนตัวหรือเปล่า ตนไม่แน่ใจ ทำไมกมธ.จึงอยากให้ก๊กนี้ไปทั้งหมด ทั้งที่กกต.ชุดปัจจุบันมาถูกต้องทุกประการ แต่ไปรังแกเขา เพราะกกต.บางคนมีคุณสมบัติถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ และอยากถามว่าจะเซตซีโร่ทุกองค์กรหรือไม่ หรือเซตซีโรเฉพาะที่ไม่ใช่พวกเรา การอ้างปลา 2 น้ำก็ฟังไม่ขึ้น และในสภาฯนี้ก็ปลาหลายน้ำ สนช.ก็ปลาถึง 3 น้ำ ถ้าท่านจะทำเช่นนี้ชาวบ้านจะหาว่าสภาฯเรามีมาตรฐาน ทำงานกันอย่างไร และหากกฎหมายอื่นเข้ามาจะวางมาตรฐานอย่างไรเพราะหากทำอย่างนี้ก็คือหลายมาตรฐาน หากชี้แจงไม่ได้จะรู้สึกอายชาวบ้านหากเดินออกไปข้างนอก

ทั้งนี้ นายตวง อันทะไชย ประธานกมธ.วิสามัญฯ ชี้แจงว่า การตัดสินใจเซตซีโร่กกต. ไม่ได้เกิดจากความโกรธหรือรักใครใครหรือใครได้ประโยชน์หรือเสียประโยชน์ แต่ตัดสินใจเพื่อประโยชน์ประเทศชาติ เจตนารมณ์ของรับธรรมนูญ และเจตจำนงค์เพื่อให้การเลือกตั้งมีประสิทธิภาพ กมธ.จึงเมินเฉยในร่างแรกของกรธ.ที่เสนอให้ตัดคุณสมบัติ กกต.บางคนที่ขัดรัฐธรรมนูญ และต้องการให้คนใหม่มาใช้กติกาใหม่ เพื่อให้การปฏิรูปมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้เรายังให้ความเป็นห่วง กกต. โดยเขียนในวรรคสอง ให้มีการรักษาการ และได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ จนกว่าจะมีกกต.ชุดใหม่เข้ามา เพราะเราคิดใหญ่ในการปฏิรูปประเทศ หากเราปฏิบัติแบบเดิม กลไกแบบเดิม วิธีการทำงานแบบเดิม ไม่มีทางเกิดผลแบบใหม่ได้ ส่วนคำถามที่ว่า กฎหมายองค์กรอิสระอื่น จะเดินตามแนวทางเซตซีโร่หรือไม่ ตนไม่สามารถตอบได้ เพราะกรธ.เป็นผู้ร่างกฎหมาย จึงต้องให้กรธ.ตอบเอง

ด้านนายภัทระ คำพิทักษ์ กรธ. ในฐานะกมธ.วิสามัญฯ ชี้แจงว่า การเสนอกฎหมายลักษณะทำนองเดียงกับกกต. อาจจะเหมือนหรือต่างกันก็ได้ ขึ้นอยู่กับองค์กรนั้นๆ ทั้งโครงสร้าง และสนธิสัญญาต่างประเทศ บางองค์กรอาจจะมีความคล้ายคลึง บางองค์กรอาจจะมีความแตกต่างกัน ยืนยันว่าการเซตซีโร่กกต.ดูเรื่องเจตนารมณ์ คุณสมบัติ และวัตถุประสงค์การปฏิรูป โดยไม่ได้พิจารณาว่าจะโกรธใคร เกลียดใคร และขอยืนยันอีกว่า กรธ.ไม่ได้เสียจุดยืนเพราะเป็นการแก้ไขอยู่ในกรอบของรัฐธรรมนูญ ดังนั้นท่านทั้งหลายมีสิทธิ์พิจารณาตามดุลพินิจของท่าน และทำกฎหมายออกไปตามเจตนารมณ์

นอกจากนี้ สนช.บางคนยังเสนอให้มีการปรับเรื่องเงินบำเหน็จตอบแทนกกต.ที่พ้นสภาพว่าน้อยเกินไป เพราะเขาไม่มีความผิดแต่ถูกให้พ้นตำแหน่ง ขณะที่กมธ.ชี้แจงว่า หากเพิ่มให้มากกว่านี้จะผิดระเบียบการเงินการคลัง

จากนั้น ที่ประชุมลงมติ ในมาตรา 70 เห็นด้วยกับกมธ.เสียงข้างมาก ที่ต้องการให้เซตซีโร่ กกต.ด้วยคะแนน 161 ไม่เห็นด้วย 15 งดออกเสียง 12 เสียง และเมื่อที่ประชุมพิจารณาครบทั้ง 78 มาตรา ได้ลงมติในวาระ 3 เห็นชอบร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวด้วยคะแนน เห็นชอบ 177 เสียง ไม่เห็นชอบ 1 เสียง งดออกเสียง 5 เสียง และดำเนินการตามขั้นตอนตามรัฐธรรมนูญมาตรา 267 ต่อไป

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net