ศิริชัย วัฒนโยธิน ประธานศาลอุทธรณ์ แถลงข่าวลาออกจากราชการ และไม่รับตำแหน่งที่ปรึกษาประธานศาลฎีกา หลังถูกพิจารณาว่าไม่เหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งประธานศาลฎีกา ยันถอยจนไม่รู้จะถอยยังไงถอยจนไม่มีที่ยืน
18 ก.ค. 2560 รายงานข่าวระบุว่า วันนี้ (18 ก.ค.60) เวลาประมาณ 14.00 น. ศิริชัย วัฒนโยธิน ประธานศาลอุทธรณ์ เปิดแถลงข่าวที่อาคารศาลอุทธรณ์เป็นครั้งสุดท้าย ยืนยันจะลาออกจากราชการ และไม่รับตำแหน่งที่ปรึกษาประธานศาลฎีกาที่แต่งตั้งขึ้นใหม่ เพราะเป็นตำแหน่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตั้งขึ้นลอยๆ เป็นครั้งแรก และศักดิ์ศรีไม่เท่ากับตำแหน่งประธานศาลอุทธรณ์ อีกทั้งตามนิติประเพณีผู้ที่เป็นประธานศาลอุทธรณ์จะได้เป็นประธานศาลฎีกา และแม้จะไม่ได้เป็นก็ยังได้อยู่ในตำแหน่งประธานศาลอุทธรณ์เดิม ยืนยันที่ผ่านมาได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริต ขันแข็ง แต่กลับถูกตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ซึ่งตนถอยจนไม่มีที่ยืน ต้องลาออกจากราชการด้วยความเจ็บปวด โดยการแถลงข่าวครั้งนี้มีคณะผู้พิพากษาและเจ้าหน้าที่ของศาลอุทธรณ์มาร่วมรับฟังด้วย
สำหรับการถูกพิจารณาว่าไม่เหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งประธานศาลฎีกา ศิริชัย อธิบายว่า อาจเกี่ยวข้องกับการตัดสินคดีค้ายาเสพติดที่สั่งเพิกถอนการโอนคดียาเสพติดโดยทำให้เกิดการลงโทษคดียาเสพติดในอดีตจำนวน 3 คดีในอดีต ซึ่งจำเลยทั้ง 3 คดีก็ยอมรับคำพิพากษาโดยไม่ยื่นต่อสู้ในชั้นฎีกา ซึ่งตนเองรู้สึกเสียใจที่คณะกรรมการตัดสินเช่นนั้นเพราะตนทำงานมานาน ทางเดียวที่ทำได้คือลาออก และไม่ขอรับตำแหน่งที่ปรึกษา ประธานศาลฏีกาตามมติของคณะกรรมการศาลตุลาการ
"ผมถอยจนไม่รู้จะถอยยังไงถอยจนไม่มีที่ยืน ไม่เคยคิดว่า ชีวิตข้าราชการที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความขยันขันแข็ง" ศิริชัย กล่าว พร้อมระบุว่า ไม่แน่ใจว่าตำแหน่งที่ปรึกษาประธานศาลฎีกามีหรือไม่หลังประชุม กต.เสร็จแล้วก็ให้ผู้ใหญ่มาพบให้พบเลือก 2 อย่างเป็นอาวุโสศาลอุทธรณ์หรือที่ปรึกษาประธานศาลฎีกาว่า ก็แปลกใจว่าไม่เหมือนกับที่ปฏิบัติกันมาก็อยากให้ช่วยคิดต่อว่าเป็นอย่างไร ขณะนี้ได้ยื่นใบลาออกแล้วซึ่งมีผลตั้งแต่วานนี้ (17 ก.ค.60) ซึ่งใบลาออกขึ้นอยู่กับประธานศาลฎีกาจะพิจารณาอนุมัติและการตั้งคณะกรรมการวินัยก็ดำเนินต่อไป
"การ กต.และ อนุ กต.มีหรือ อนุกต. 14-0 เสียง หากเป็นท่านจะคิดอย่างไรในการทำงานตลอดชีวิต ผมเคยคิดจะทูลเกล้าฯถวายฎีกาก็เกรงว่าจะกระทบเบื้องพระยุคลบาท มีคนบอกว่าผมถูกปล้นกลางวันแสกๆ การปล้นครั้งนี้ยังมีการทำร้ายผมด้วย ซึ่งการไม่เลือกผมเพราะไม่ใช่เรื่องอาวุโสแต่เป็นเพราะผมสั่งลงโทษผู้ต้องหาค้ายาเสพติด ผมฝากไปยังหัวหน้า คสช.ด้วยว่าจะยังอยู่ที่ระบบอาวุโสหรือไม่ อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการเป็นธรรมมาดูว่า ผมเลวร้ายแค่ไหนจึงถูกกระทำขนาดนี้ " ประธานศาลอุทธรณ์ ระบุ
ศิริชัย ยังกล่าวว่า ตอนนี้ก็ยังไม่ได้คิดฟ้องร้องใครเพราะฟ้องไปยังประชาชน สื่อมวลชนและหัวหน้า คสช.ให้รับทราบเมื่อตนไม่ได้รับความยุติธรรมก็คิดอยู่ทุกคนคงทราบเพราะเล่าให้ฟังทั้งหมดแล้วและตนคงต้องไป
ที่มา : สำนักข่าวไทย และไทยพีบีเอส