เลขาฯ ป.ป.ช. ไม่ทราบคดีประกันราคาข้าวของอภิสิทธิ์ ไต่สวนถึงขั้นไหนแล้ว

เลขาฯ ป.ป.ช. เผยการชี้มูลความผิด กรณีกล่าวหา ยิ่งลักษณ์ และครม. อนุมัติจ่ายเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมือง ใกล้เสร็จสิ้น ระบุไม่ทราบคดีประกันราคาข้าวของอภิสิทธิ์ ดำเนินการไต่สวนถึงขั้นไหนแล้ว อัยการชี้ยึด รธน.ให้สิทธิอุทธรณ์คดีจำนำข้าว

แฟ้มภาพ

เมื่อวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา เนชั่นรายงานว่า สรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. เปิดเผยถึงกรณีเตรียมชี้มูลความผิด กรณีกล่าวหา ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี รวม 34 ราย กรณีอนุมัติการจ่ายเงินเยียวยาให้กับผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมืองปี 2548-2553 โดยไม่มีกฎหมายรองรับ ภายในเดือน ก.ย.นี้ว่า ปัจจุบันคดีดังกล่าวอยู่ระหว่างการไต่สวน ใกล้เสร็จสิ้นแล้วตามที่ สุภา ปิยะจิตติ กรรมการป.ป.ช. ระบุ และวันนี้ในที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้หารือกันถึงประเด็นที่ วิญญัติ ชาติมนตรี กลุ่มนักกฎหมายอาสาเพื่อสิทธิมนุษยชน ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อติง สุภา ว่า การกระทำดังกล่าวอาจสร้างกระแสสอดรับช่วงเวลาที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะพิพากษาคดีจำนำข้าวที่มี "ยิ่งลักษณ์ เป็นจำเลย ทั้งนี้ ตามข้อเท็จจริงแล้วไม่เกี่ยวกัน การไต่สวนของ ป.ป.ช. ดำเนินการไปตามกฎหมาย

 

สรรเสริญ กล่าวว่า ตนไม่ขอพูดถึงคดีเกี่ยวกับข้าวในช่วงนี้ คงต้องรอให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำตัดสินออกมาก่อน ส่วนคดีประกันราคาข้าวของ อภิสิทธิ์ ไม่ทราบว่าดำเนินการไต่สวนถึงขั้นไหนแล้ว ทราบแค่ว่า อยู่ในชั้นคณะอนุกรรมการไต่สวนฯ ดำเนินการอยู่ 

ต่อกรณีคำถามถึงความคืบหน้าคดีอื่นๆ ของ ยิ่งลักษณ์ ที่ ป.ป.ช. ไต่สวน 13 คดี  เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.  กล่าวว่า ที่พ้นจาก ป.ป.ช. ไปแล้ว 2 คดี ได้แก่ คดีโครงการรับจำนำข้าวที่ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดไปแล้ว ปัจจุบันอยู่ระหว่างรอฟังคำตัดสินของศาลฯ และคดีขอให้ถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ กรณีละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ที่กำหนดให้หน่วยงานของรัฐทุกแห่งต้องจัดทำข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้าง และประกาศราคากลางในระบบข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่ง ป.ป.ช. มีมติยกคำร้องไปแล้ว ส่วนอีก 11 คดีที่เหลืออยู่ระหว่างการไต่สวนต่อไป
 

อัยการชี้ยึด รธน.ให้สิทธิอุทธรณ์คดีจำนำข้าว

วานนี้ (28 ก.ค.60) Voice TV รายงานว่า ธนกฤต วรธนัชชากุล อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงสิทธิในการยื่นอุทธรณ์คดี ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในคดีโครงการรับจำนำข้าว ที่ศาลจะพิพากษาในวันที่ 25 ส.ค.นี้ว่า ตามรัฐธรรมนูญปี 2560 มาตรา 195 วรรค 4 บัญญัติให้คู่ความสามารถอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่อที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาได้ภายใน 30 วันนับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษา โดยไม่ต้องมีพยานหลักฐานใหม่ 

แม้ว่า พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการประกาศใช้  แต่การพิจารณาจะต้องยึดถือรัฐธรรมนูญปี 2560 ที่เป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศเป็นหลัก จะไปตีความกฎหมายตัดสิทธิคู่ความในคดีว่าไม่สามารถยื่นอุทธรณ์ อันเป็นการใช้สิทธิโต้แย้งคัดค้านคำพิพากษาของศาลไม่ได้ 

คู่ความในคดีจึงมีสิทธิในการอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่อที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาได้ ตามที่รัฐธรรมนูญปี 2560 มาตรา 195 วรรค 4 บัญญัติไว้

 วิษณุ เตือนให้กำลังใจระวังละเมิดอำนาจศาล

ขณะที่ วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงคนที่จะมาให้กำลังใจ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในวันตัดสินคดีจำนำข้าว 25 ส.ค.นี้ ระวังละเมิดอำนาจศาล

รายงานข่าวระบุด้วยว่า ส่วนวันพรุ่งนี้ วัฒนา เมืองสุข อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะชี้แจงผ่านเฟซบุ๊ก หลังมีรายงานว่าตำรวจเตรียมแจ้งความดำเนินคดี  ฐานความผิดยุยงปลุกปั่น ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 จากกรณีโพสต์ให้กำลังใจยิ่งลักษณ์
 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท