Skip to main content
sharethis

27 มิ.ย.17.50 น. นักศึกษาและประชาชนสมาชิกขบวนการประชาธิปไตยใหม่ ตั้งโต๊ะแถลงข่าว ยืนยันอีกครั้ง ผู้อยู่เบื้องหลังขบวนการประชาธิปไตยใหม่ คือประชาชน ชี้การที่เพื่อนถูกจับ จุดไฟการต่อสู้ของกลุ่มต่อไป ด้านนักเขียน นักวิชาการศิลปินและประชาชนอีกจำนวนหนึ่งเปิดตัวหนุน

สมาชิกขบวนการประชาธิปไตยใหม่แถลงสู้ต่อไป

 

ในวันเดียวกัน เวลา 18.10 น. ที่สวนเงินมีมา นักเขียนและนักวิชาการบางส่วนได้แถลงข่าว เปิดตัวประชาชนผู้อยู่เบื้องหลัง ขบวนการประชาธิปไตยใหม่  พร้อมอ่านแถลงการณ์ ประณามการจับกุม 14 นักศึกษา นักกิจกรรม พร้อมส่งสารถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ต้องไปตามหาผู้อยู่เบื้องหลังที่ไหน พวกเรายืนอยู่ข้างหลังพวกเขาที่นี่

การแถลงข่าวโดยสมาชิกบางส่วนของกลุ่มประชาชนผู้อยู่เบื้องหลังขบวนการประชาธิปไตยใหม่

ต่อคำถามว่า กลุ่มประชาชนผู้อยู่เบื้องหลัง ได้เข้าไปกำหนดการเคลื่อนไหวของขบวนการหรือไม่ ทางกลุ่มตอบว่า ทุกการเคลื่อนไหวนักศึกษา นักกิจกรรม เป็นคนคิดและตัดสินใจเองทั้งหมด พวกเราเป็นแต่เพียงผู้ที่อยู่ด้านหลัง ส่วนเขาออกไปยืนอยู่ด้านหน้าด้วยความกล้าหาญ

สำหรับรายละเอียดแถลงการณ์ของทั้ง 2 กลุ่มมีดังนี้

 

แถลงการณ์ขบวนการประชาธิปไตยใหม่
27 มิถุนายน 2558


วันที่ 26 มิถุนายน ที่ผ่านมา เพื่อนของพวกเราถูกเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบจำนวนกว่าสามสิบคนเข้าควบคุมตัว เพื่อนำส่งไปยัง สน พระราชวัง – ศาลทหาร – และเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เป็นการเข้าควบคุมตัวในขณะที่เราใช้ชีวิตอย่างปรกติสุขโดยที่ไม่ได้มีการขัดขืนแม้แต่น้อย เพราะเรายืนยันบนหลักการการต่อสู้แบบสันติวิธี ถึงแม้การจับกุมเพื่อนเราครั้งนี้ จะเป็นการละเมิดหลักสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพในการแสดงออกอย่างร้ายแรงเพียงใดก็ตาม

ทั้งนี้ ขบวนการประชาธิปไตยใหม่ยังขอยืนยันตามหลักการกำปั้นห้าเพื่อขับเคลื่อนขบวนฯกันต่อไป ซึ่งประกอบไปด้วย

1. หลักประชาธิปไตย จะต้องให้พลเมืองทุกคนมีสิทธิเสรีภาพเสมอหน้าอย่างเท่าเทียมกัน
2. หลักความยุติธรรม ที่จะช่วยลดความขัดแย้งในสังคม ปราศจากสองมาตรฐานในกระบวนการยุติธรรม
3. หลักการมีส่วนร่วมของประชาชน ในการกำหนดวิถีชีวิตตนเอง รัฐบาลต้องคืนอำนาจให้ประชาชนโดยเร็ว
4. หลักสิทธิมนุษยชน และสิทธิชุมชน ซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ทุกคนต้องเคารพ รัฐบาลต้องหยุดละเมิดสิทธิประชาชน
5. หลักสันติวิธี คือการแก้ไขปัญหาทางการเมืองต้องปราศจากการใช้ความรุนแรง หรือการนำมาสู่เงื่อนไขที่ทำให้เกิดความรุนแรง

หากในสังคมมีหลักการทั้ง 5 ข้อนี้ที่พวกเราโหยหา พวกเราเชื่อเหลือเกินว่าสังคมไทยจะพัฒนาได้ในทางที่ดีขึ้น และจะมีความเท่าเทียมในสังคมมากขึ้น

ทั้งนี้พวกเราขอย้ำอีกครั้งว่า การเคลื่อนไหวของพวกเรา กระทำด้วยมือเปล่า เท้าเปล่า และมีเบื้องหลังคือประชาชนผู้รักในสิทธิและเสรีภาพเท่านั้น มิได้มีกลุ่มผลประโยชน์ทางการเมือง หรือพรรคการเมืองใดๆแอบแฝงทั้งสิ้น

และการที่พวกเขาจับกุมเพื่อนเราไป 14 คนในครั้งนี้ ไม่ได้ทำให้เราหมดพลังใจไปแม้แต่น้อย ในทางกลับกัน มันจะทำให้เรามีไฟในการต่อสู้เพิ่มมากยิ่งขึ้นเสียอีก และจะยิ่งทำให้ประชาชนผู้รักประชาธิปไตย ที่ไม่เห็นด้วยกับระบอบเผด็จการที่กดขี่แบบนี้ ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยเพิ่มขึ้น

ประชาชนผู้รักสิทธิเสรีภาพทั้งหลาย ที่เห็นด้วยในหลักการห้าข้อของพวกเรา เห็นด้วยกับการเปิดพื้นที่ในการแสดงออก และไม่เห็นด้วยกับระบอบเผด็จการอำนาจนิยมที่กำลังกดขี่ประชาชนอย่างไม่ไว้หน้าในขณะนี้ จงอย่ากลัวที่จะเผชิญหน้ากับมัน และร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับเราในการขับเคลื่อนขบวนการประชาธิปไตยใหม่ (NDM) ในการสร้างสรรค์ระบอบประชาธิปไตย ที่อำนาจสูงสุด เป็นของพวกเรา ประชาชน พลเมือง ทุกคน

เผด็จการจงพินาศ ประชาธิปไตยจงเจริญ

 

000

ร่างแถลงการณ์ของประชาชนผู้อยู่เบื้องหลังขบวนการประชาธิปไตยใหม่


ถ้าการต่อสู้ด้วยสันติวิธีกลายเป็นอาชญากรรม
ถ้าการเรียกร้องประชาธิปไตยกลายเป็นความผิด
ถ้าการสนับสนุนสิทธิมนุษยชน สิทธิชุมชนและการมีส่วนร่วมของประชาชนกลายเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ
ถ้าการเพรียกหาความยุติธรรมกลายเป็นการถูกลงโทษทัณฑ์
ประเทศแบบไหนกันที่รัฐบาลทหารและ คสช.กำลังสร้างทิ้งไว้ให้เรา?

ในขณะที่เศรษฐกิจประเทศกำลังทรุดหนัก ภัยแล้งกำลังสร้างความทุกข์ยากเดือดร้อนทั่วทุกหัวระแหง โรค MERS กำลังเป็นภัยคุกคามใหม่ต่อชีวิตประชาชน รัฐบาลทหารของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชากลับมีเวลาว่างมากพอที่จะระดมกำลังออกมาจับนักศึกษา 14 คน ระบบราชการที่ไม่เคยทำงานเกินสี่โมงเย็นกลับสามารถออกหมายจับหมายค้นนอกเวลาราชการ แถมยังเปิดศาลทหารพิจารณาคดีตอนสี่ทุ่มได้ราวกับร้านสะดวกซื้อ

นี่ชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลทหารของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาทำงานเพื่อใคร? พวกเขาไม่ได้ทำงานเพื่อประเทศชาติหรือประชาชนอย่างที่พล่ามปาว ๆ แต่ทำงานเพื่อความมั่นคงของตัวเองและตัวเองเท่านั้น

ทั้งที่มีอำนาจล้นฟ้า มีแสนยานุภาพเต็มอัตราศึก มีมาตรา 44 ในกำมือ มีศาลทหารไว้ข่มขู่ประชาชน มีอันธพาลนอกเครื่องแบบคอยทำร้ายคุกคามคนคิดต่าง แต่รัฐบาลทหารก็ยังรู้สึกไม่มั่นคง พวกเขากลัวนักศึกษาที่ทำแค่ชูป้ายผ้า ตัวสั่นเทาเมื่อได้ยินคำว่า “คสช.ออกไป!” ความกลัวของพวกเขาใหญ่กว่าอำนาจและอาวุธในมือเสียอีก

รัฐบาลทหารของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชากลัวการแสดงความคิดเห็นแตกต่าง เพราะพวกเขารู้ตัวดีว่าบริหารประเทศไม่เป็น ไม่มีปัญญาแก้ปัญหาอะไรได้ แต่พวกเขายังดื้อดึงอยู่ต่อไป เพื่อรักษาอำนาจและรักษาผลประโยชน์ของตัวเองไว้ท่ามกลางความฉิบหายของบ้านเมือง

ถ้าวันนี้เราปล่อยให้รัฐบาลทหารลงโทษนักศึกษาที่ต่อสู้เพื่อประเทศชาติและประชาชน ต่อไปเราก็ต้องยอมก้มหน้าจำนนอยู่ภายใต้อำนาจบาตรใหญ่ของรัฐบาลเผด็จการโง่เง่าไร้ประสิทธิภาพ เราจะปล่อยให้อนาคตของตัวเราอยู่ในกำมือของคนเขลาคลั่งอำนาจหรือ? หรือเราจะลุกขึ้นและทวงการกำหนดชะตากรรมของตัวเราคืนกลับมา?

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาเคยกล่าวเองว่า “ไม่มีใครเรียกผม ผมมาเอง” นั่นเท่ากับยอมรับแล้วว่าเขาไม่เคยมีความชอบธรรมในการบริหารประเทศ แต่การจะนั่งรอให้เขาสำนึกได้เองและยอมสละจากอำนาจนั้นคงยากยิ่งกว่าสอนกบเต้นรำ ประชาชนเท่านั้นที่จะผลักให้เขาลงจากอำนาจได้

อย่าได้วอนขอความเมตตาจากเผด็จการ เพราะนั่นเท่ากับเรายอมรับอำนาจของคนบ้า ประชาชนจงลุกขึ้นและบอกเผด็จการเถิดว่าปล่อยนักศึกษาเดี๋ยวนี้ ปล่อยนักศึกษาออกมาอ่านหนังสือสอบ ออกมาตีปิงปอง ออกมาเล่นเกมส์ฟีฟ่าออนไลน์ ออกมาเปลี่ยนกางเกงใน ออกมาชูป้ายผ้าประชาธิปไตย และออกมาแสดงความคิดเห็นอย่างเสรี

นี่คืออนาคตของเรา ประชาชนต้องการอำนาจตัดสินใจคืนมา คสช.ต้องออกไปและคืนอำนาจให้ประชาชน!

ลงชื่อ

ชาญวิทย์ เกษตรศิริ เกษียร เตชะพีระ สุชาติ สวัสดิ์ศรี
ฝ้ายคำ หาญณรงค์ วิวัฒน์ เลิศวิวัฒน์วงศา ชญานิน เตียงพิทยากร
ณขวัญ ศรีอรุโณทัย วีรพงษ์ สุนทรฉัตราวัฒน์ อภิรดา มีเดช
ทิพย์พิมล เกียรติวาทีรัตนะ คีรีบูน วงษ์ชื่น อารยา คงแป้น
ชินธิป เอกก้านตรง อนุชิต นิ่มตลุง ปองขวัญ สวัสดิภักดิ์
สมฤทธิ์ ลือชัย อนรรฆ สมพงษ์ ยุกติ มุกดาวิจิตร
ไอดา อรุณวงศ์ อาทิตย์ เคนมี เจนวิทย์ เชื้อสาวะถี
อธิคม คุณาวุฒิ รุ่งฤทธิ์ เพ็ชรรัตน์ ธสุธิดา เทศทอง
ขวัญชัย กุลสันติธำรงค์ ประทับจิต นีละไพจิตร ทวีศักดิ์ เผือกสม
เวียงรัฐ เนติโพธิ์ สถาพร เสนาวงค์ อัครพงษ์ ค่ำคูน
วีระพงษ์ ประภา ศิริภาส ยมจินดา พีรเดช ตันเรืองพร
ชานันท์ ยอดหงษ์ ติณณภพจ์ สินสมบูรณ์ทอง ปูนเทพ ศิรินุพงศ์
มาพร เลิศสุริย์เดช พรรณิการ์ วานิช ทวิภัทร บุณฑริกสวัสดิ์
ณฤทธิ์ บุญให้เจริญ เฉลิมสัณห์ เกียรติศรีชาติ ปราชญ์ ปัญจคุณาธร
อุดมศักดิ์ พฤกษเมธาพันธ์ อนุสรณ์ อุณโณ ชลิตา บัณฑุวงศ์
สิขเรศ ศุภปัญญา พวงทอง ภวัครพันธุ์ ศิริพร ฉายเพ๊ชร
จณิษฐ์ เฟื่องฟู สุขุม ชีวาเกียรติยิ่งยง ทองธัช เทพารักษ์
ส ศิวรักษ์ สงวน คุ้มรุ่งโรจน์

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net