Skip to main content
sharethis

ประยุทธ์ สวนชาวประมงปัตตานี "อย่ามาส่งเสียงกับผม" ย้ำกดดันตนไม่ได้ หลังเข้าแจงปัญหาประมงต่อหน้า ระหว่างลงพื้นที่ จ.ปัตตานีเพื่อพบปะประชาชน 

ภาพ พล.อ.ประยุทธ์ ทำพิธีเปิดป้าย “ตลาดกลางปศุสัตว์จังหวัดชายแดนภาคใต้” และพบประชาชน ณ ตลาดกลางปศุสัตว์จังหวัดชายแดนภาคใต้ ต.บางเขา อ.หนองจิก จ.ปัตตานี (ที่มาภาพ เว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาล)

27 พ.ย. 2560 มติชนออนไลน์ รายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมคณะ ลงพื้นที่ จ.ปัตตานีเพื่อพบปะประชาชน พร้อมกล่าวประเด็นติดตามความก้าวหน้าของโครงการ “สามเหลี่ยม มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” และติดตามประเด็นปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน รับฟังความคิดเห็นจากกลุ่มผู้นำท้องถิ่น ภาคเอกชนและประชาชนในพื้นที่และสร้างการรับรู้เกี่ยวกับนโยบายและการดำเนินแผนงานโครงการของรัฐบาล ในรอบ 3 ปี รวมทั้งสร้างขวัญและกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่รัฐและประชาชนในพื้นที่ โดย พล.อ.ประยุทธ์ ได้เดินทักทายประชาชน และเยี่ยมชมตลาดปลา ก่อนจะมีชายคนหนึ่งเข้ามาร้องเรียนกับ พล.อ.ประยุทธ์ว่า ตนเดือดร้อนเรื่องจำนวนวันในการทำประมง

พล.อ.ประยุทธ์ ตอบกลับชายคนดังกล่าวว่า "ใจเย็นๆ อย่ามาส่งเสียงกับผม เข้าใจหรือเปล่า ผมฟังคุณนี่ พูดดีๆ ก็ได้" จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ ได้บอกกับคณะผู้ติดตามให้รับเรื่องไป พร้อมกล่าวขอบคุณและกล่าวด้วยว่า "กดดันผมไม่ได้ทั้งนั้นล่ะ" 

มติชนออนไลน์ รายงานเพิ่มเติมว่า พล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และ เอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอหนอกจิก จ.ปัตตนา ก็ได้เข้ามาพูดคุยกับชายคนดังกล่าว ที่ทราบชื่อต่อมาคือ ภรัณยู เจริญ เพื่อทำความเข้าใจ และได้พาไปร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมที่มีการตั้งเต็นท์บริเวณในงาน ของกระทรวงมหาดไทย โดย ภรัณยู เปิดเผยว่า ตนเคยรวมตัวกับผู้ประกอบการประมงไปยื่นหนังสือต่อรัฐบาลมาแล้วครั้งหนึ่งที่ลานพระราชวังดุสิต แต่วันนี้ก็ยังคงได้รับความเดือดร้อน โดยมีประเด็นเพิ่มเติม คือ เรื่องวันทำประมงที่กฎหมายอนุญาตให้ทำเพียง 220 วัน ซึ่งตนได้รับความเดือดร้อนมาก เพราะว่าไม่เพียงพอและไม่คุ้มกับทุนที่ลงไป เนื่องจากในหนึ่งปีที่อนุญาตให้ทำประมงได้ 220 วัน จริงๆก็ไม่สามารถทำได้เต็มที่ 220 วัน เนื่องจากสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย ทำให้ธุรกิจประมงเดือดร้อนมาก เมื่อมาวันนี้ได้ฟังที่นายกฯพูด แต่ไม่มีประเด็นนี้ จึงอยากบอกให้นายกฯพูด รับรู้ ไม่ได้ขู่หรือตะคอก เพียงแต่บรรยากาศเสียงดัง และอยากพูดให้นายกได้ยิน ก็เลยกลายเป็นตะคอก และอยากให้นายกฯช่วยเหลือ ทบทวนแก้ไข เพื่อให้ธุรกิจประมงอยู่ได้ต่อ
 
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลงพื้นที่ ของ พล.อ.ประยุทธ์ ในครั้งนี้ เว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาล รายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวระว่างพบปะกับประชาชนตอนหนึ่งว่า พื้นที่ภาคใต้ชายแดนมีภูมิศาสตร์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีความโดดเด่นทางวัฒนธรรม ทางสังคม มีประเพณีที่สืบทอดกันมาอย่างงดงาม มีเสน่ห์ที่แตกต่างไปจากที่อื่น รวมไปถึงความแตกต่างทางเชื้อชาติ และศาสนา ซึ่งไม่ว่าจะเชื้อชาติ ศาสนาไหน ทุกคนล้วนเป็นคนไทย มีสิทธิมีความเท่าเทียมบนแผ่นดินไทย ขออย่าให้นำความแตกต่างเหล่านี้มาสร้างความขัดแย้ง สร้างความไม่สงบเพราะว่าเป็นแผ่นดินไทยของพวกเราทุกคน และอย่าให้ใครแบ่งแยกประเทศไทยได้ ไม่ว่าจะแตกต่างกันแค่ไหนทุกคนก็สามารถอยู่ร่วมกันได้ ปัญหาความไม่สงบจะสงบได้ขึ้นอยู่กับความร่วมมือของทุกคนและทุกภาคส่วน โดยรัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่เพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านั้น
 
สำหรับเรื่องการแก้ไขปัญหาสินค้าเกษตร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ว่าจะเป็นยางพารา ปาล์มน้ำมัน และผลไม้จะต้องส่งเสริมการเพาะปลูกให้เหมาะสมกับพื้นที่และความต้องการของตลาด โดยเฉพาะยางพารา รัฐบาลจะส่งเสริมให้เกิดการใช้ยางพาราให้เกิดประโยชน์ภายในประเทศมากขึ้น ทั้งนี้ ปัญหาสินค้าเกษตรเป็นปัญหาที่ซับซ้อนมายาวนาน รัฐบาลไม่ต้องการให้ใครเดือดร้อน แต่ต้องการจะช่วยเหลือและให้เกิดการกระจายรายได้อย่างสมดุลตามพื้นที่

ส่วนเรื่องโครงสร้างพื้นฐานที่จังหวัดชายแดนใต้ทั้งทางบกและทางน้ำ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รัฐบาลจะเร่งส่งเสริมให้เกิดการลงทุนในพื้นที่ และลงทุนโครงการสำคัญต่างๆ แต่อาจต้องใช้เวลาในการศึกษาผลกระทบ และผู้มีส่วนได้เสียด้วย

ทางด้านการศึกษา พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่าเป็นเรื่องสำคัญในการพัฒนาศักยภาพของบุคคลากรในประเทศ ซึ่งเป็นส่วนช่วยให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดี โดยภาคใต้ชายแดนเป็นสังคมพหุวัฒนธรรมมุ่งเน้นให้การศึกษาที่แตกต่างกัน สามารถเรียนรู้และแลกเปลี่ยนเพื่อให้เกิดทักษะที่จำเป็น รวมถึงนำเทคโนโลยีมาช่วยเรื่องการเรียนรู้ ใช้ในการค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติม และนำมาใช้ส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวในแต่ละชุมชน ให้เกิดความเชื่อมโยง สร้างรายได้ต่อไป

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net