Skip to main content
sharethis

ไหน? ครม.เพิ่งประกาศสิทธิมนุษยชนร่วมเคลื่อน Thailand 4.0 เป็นวาระแห่งชาติ กสม.ขอรัฐทบทวนการดำเนินคดี 16 แกนนำค้านโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา ขณะที่ จนท.นำตัวฝากขังต่อศาล จ.สงขลา แล้ว ‬ข้อหาขวางจราจร-เจ้าหน้าที่ และทำร้ายเจ้าพนักงาน

ภาพขณะเจ้าหน้าที่ นำตัว 16 แกนนำคัดค้านโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพาไปฝากขังต่อ ศาล จ.สงขลา

28 พ.ย.2560 จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีกีดขวางการจราจร ขัดขวางการจับกุม และทำร้ายเจ้าพนักงาน กับ 16 แกนนำเครือข่ายคนสงขลา-ปัตตานีไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหิน หลังจากจัดกิจกรรมเดินเท้าจากพื้นที่ก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา ตั้งแต่วันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อรณรงค์ถึงความไม่เป็นธรรมและผลกระทบที่ชาวบ้านได้รับจากโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา และยื่นหนังสือต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย อ.เมือง จ.สงขลา ในวันนี้ (28 พ.ย.60) โดยที่วานนี้เวลาประมาณบ่ายโมง เมื่อเครือข่ายฯ เดินทางถึงบริเวณแยกสำโรง อ.เมือง จ.สงขลา ตำรวจประมาณ 1 กองร้อยตั้งจุดสกัดขบวนเดินเท้าของเครือข่าย และเวลาประมาณ 16.20 น เจ้าหน้าที่ได้สลายการชุมนุม มีชาวบ้านได้รับบาดเจ็บและชาวบ้านจำนวนหนึ่งถูกควบคุมตัวไปที่ สภ.เมือง สงขลานั้น

ล่าสุดวันนี้ เมื่อเวลา 11.21 น.ที่ผ่านา ฐปนีย์ เอียดศรีชัย ผู้ประกาศข่าวภาคสนามรายการข่าว 3 มิติ ทางไทยทีวีสีช่อง 3 โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว 'Thapanee Ietsrichai' ในลักษณะสาธารณะว่า เจ้าหน้าที่นำตัว 16 แกนนำคัดค้านโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพาไปฝากขังต่อ ศาล จ.สงขลา แล้ว ‬

ขณะที่ องค์การบริหาร องค์การนักศึกษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตนี (ม.อ. ปัตตานี) ประกาศคัดค้านการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน และให้กำลังใจชาวเทพา ที่ถูกเจ้าหน้าที่รัฐควบคุมตัวด้วย

กสม.ขอรัฐทบทวนการดำเนินคดี-ยึดมั่นต่อหลักสิทธิมนุษยชน

วันเดียวกัน สปริงนิวส์ รายงานว่า เตือนใจ ดีเทศน์ และอังคณา นีละไพจิตร กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) แถลงชี้แจงกรณี ตำรวจจับกุมพร้อมแจ้งข้อหากลุ่ม “เครือข่ายประชาชนสงขลา-ปัตตานี ไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหิน” หลังจากเดินเท้าขัดค้านโครงการดังกล่าวเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 27 พ.ย. ที่ผ่านมา พร้อมเรียกร้องให้ทุกฝ่ายดำเนินการแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้อย่างสันติวิธี โดยเคารพและยึดมั่นต่อหลักสิทธิมนุษยชน

โดย กสม.เห็นว่าการดำเนินกิจกรรมดังกล่าวของกลุ่มคัดค้านโรงไฟฟ้าถ่านหิน ยังอยู่ในขอบเขตของการใช้สิทธิในการแสดงความเห็นและเสรีภาพในการชุมนุมอย่างสงบตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 และกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและการเมือง ซึ่งประเทศไทยเป็นภาคีและมีพันธกรณีที่ต้องปฎิบัติตาม

กสม.จึงขอเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งการให้ตำรวจทบทวนการแจ้งข้อกล่าวหาแก่นักปกป้องสิทธิมนุษยชน และดำเนินการทางกฎหมายอย่างรอบคอบบนพื้นฐานของสิทธิเสรีภาพของประชาชน ตามการคุ้มครองของรัฐธรรมนูญ และเปิดโอกาสให้เครือข่ายฯได้เข้าพบเพื่อนำเสนอข้อห่วงใยและข้อเสนอโครงการในการพัฒนาโครงการ ทั้งนี้ขอให้รัฐบาลและหน่วยงานเจ้าของโครงการยึดมั่นในแนวปฎิบัติของสหประชาชาติว่าด้วย ธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนภายใต้หลักการเคารพคุ้มครอง และเยียวยา รวมทั้งคำประกาศแห่งชาติสิทธิมนุษยชนร่วมขับเคลื่อน Thailand 4.0 เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net