เครือข่ายคนสงขลา-ปัตตานี ไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา ยื่นสหภาพยุโรป ขอให้ช่วยดำเนินการเพื่
5 ก.พ.2561 รายงานข่าวแจ้งว่า วันนี้ เมื่อเวลา 11.00 น. ดิเรก เหมนคร และคณะผู้แทนเครือข่ายคนสงขลา-
รายลเอียดหนังสือ 2 ฉบับ :
เครือข่ายคนสงขลาปัตตานีไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหิน
73 หมู่ที่ 6 ตำบลปากบาง อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา 90150
ที่พิเศษ 4 /2561
วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2561
เรื่อง ขอให้ช่วยดำเนินการเพื่อคลี่คลายปัญหาโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา
เรียน สหภาพยุโรป
ตามที่เครือข่ายคนสงขลา – ปัตตานี ไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา ได้ขึ้นมาเมืองหลวงในครั้งนี้ เพราะเราต้องการที่จะเรียกร้องกับรัฐบาล และท่านนายกฯประยุทธ์ 2 เรื่อง คือ
· รัฐบาลควรสั่งยุติโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา
· รัฐบาลต้องยุติการดำเนินคดีกับพวกเราทั้งหมด 17 คน
ทั้งนี้ยังได้มีคำถามที่อยากให้รัฐบาลตอบอย่างน้อย 3 เรื่อง คือ
§ รัฐบาลจะอพยบพวกเราที่เป็นประชาชนอยู่ในพื้นที่จำนวน 240 ครัวเรือนนี้ไปไว้ที่ไหน และท่านจะสั่งให้มีการรื้อถอนมัสยิด วัด โรงเรียนปอเนาะ และกุโบร์(สุสาน) ของพวกเรา อันเป็นสิ่งแสดงถึงความเป็นรากฐานของชุมชนพวกเราออกไปกระนั้นหรือ ?
§ ท่านจะปล่อยให้มีการใช้กระบวนการที่ไม่ชอบ ไม่เป็นธรรมที่ กฟผ.และบริษัทที่ปรึกษา ได้นำมาใช้ในการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ หรือ EHIA. ในโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา เสมือนเป็นการฝืนบังคับพวกข้าพเจ้าให้ยอมรับ จนกระบวนการเหล่านี้ดำเนินไปอย่างที่ไม่สนใจในคำทักท้วงใดๆ โดยเฉพาะนักวิชาการที่ต่างออกมาชี้ว่ากระบวนการศึกษาดังกล่าวไม่ได้มาตรฐานตามหลักวิชาการ แล้วท่านยังจะรับรองกระบวนการดั่งกล่าวนี้ต่อไปกระนั้นหรือ ?
§ การสั่งให้มีการสลายการเดินอย่างสงบ สันติ และอหิงสา เพื่อไปยื่นหนังสือให้กับท่านถือเป็นความผิดกระนั้นหรือ ? ท่านถึงได้สั่งให้มีการจับกุมและดำเนินคดีกับพวกเราจำนวน 17 คน
โอกาสนี้จึงได้เดินทางมายื่นหนังสืออันเป็นข้อเรียกร้อง และบอกเล่าถึงสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นให้กับรัฐบาลได้รับทราบตั้งแต่วันที่ 29 มกราคม ที่ผ่านมา และได้นั่งรอคำตอบอยู่ที่หน้าทำเนียบรัฐบาลจนถึงขณะนี้ หากแต่ยังไม่คำตอบอันเป็นที่พอใจ ดังนั้นการเดินทางมาขอพบเจ้าหน้าที่ของสหภาพยุโรป หรือ EU. ในวันนี้ ก็เพื่อที่จะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่สื่อสารถึงความทุกข์ร้อนที่กำลังจะเกิดขึ้นกับพวกเราให้สังคมภายนอกได้รับรู้ พร้อมกันนี้จึงขอเสนอแนวทางเพื่อจะนำไปสู่การดำเนินการช่วยเหลือต่อไป ดังนี้
1. ขอให้ติดตามนโยบายการบริหารจัดการพลังงานของประเทศไทยว่าเป็นไปตามที่ได้ตกลงกันไว้ในคราวที่มีการประชุมเรื่องการลดสภาวะโลกร้อนที่ประเทศฝรั่งเศสเมื่อปี พ.ศ. 2558 ซึ่งรัฐบาลไทยไทยโดยนายกฯประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ร่วมลงนามในครั้งนั้นด้วย
2. ขอให้ตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่ได้เกิดขึ้นแล้วกับพวกเรา 2 เรื่อง คือ เรื่องที่อยู่อาศัย และที่ทำกิน ซึ่งการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยกำลังขอใช้สถานที่ก่องสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพาบนพื้นที่เกือบ 3,000 ไร่ นั้น จะเป็นการอพยบ และโยกย้ายชุมชนครั้งใหญ่ ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในช่วง 20 กว่าปีที่ผ่านมาของประเทศไทย จึงเป็นการละเมิดสิทธิในการอยู่อาศัยอย่างรุนแรง และเรื่องที่สองคือ การจับกุม และสั่งดำเนินคดีกับพวกเราที่ออกมาเดินเพื่อไปยื่นหนังสือให้นายกรัฐมนตรี ที่ท่านเดินทางมาประชุมที่จังหวัดสงขลาเมื่อปลายปีที่แล้วนั้นถือเป็นการกระทำที่เป็นการละเมิดสิทธิในการแสดงออกของประชาชนด้วยหรือไม่ อย่างไร ทั้งที่การกระทำดังกล่าวคือการออกมาปกป้องชุมชน และที่อยู่อาศัยที่ทำกินของพวกเราอย่างเปิดเผย
3. ช่วยเปิดพื้นที่สาธารณะ หรือเป็นกลไกการประสานงานเพื่อให้มีการพูดคุยระหว่างผู้ได้รับผลกระทบ กับรัฐบาล เพื่อให้มีการสื่อสารปัญหา ข้อเท็จจริงและร่วมกันคิดหาทางออกต่อเรื่องนี้อย่างเหมาะสมต่อไป ตลอดถึงการได้ใช้โอกาสนี้ในการสื่อสารกับสาธารณะชนให้เป็นที่รับรู้ในวงกว้างทั้งภายใน และภายนอกประเทศ
การมีโอกาสได้เข้าพบ และนำเสนอปัญหาให้กับผู้แทนสหภาพยุโรปได้รับรู้ในวันนี้ ถือเป็นโอกาสอันสำคัญที่จะทำให้พวกเราได้รับข้อเสนอแนะ และแนวทางที่จะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นนี้ต่อไป จึงขอขอบคุณไปถึงผู้บริหารของท่านในโอกาสนี้ด้วย
จึงเรียนมาเพื่อทราบ และพิจารณาดำเนินการต่อไป
ขอแสดงความนับถือ
(ดิเรก เหมนคร)
เครือข่ายคนสงขลา – ปัตตานี ไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา
สารแสดงความขอบคุณ
ถึง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส
กรณี ประกาศนโยบายยกเลิกโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินทั้งหมดในประเทศฝรั่งเศส
ตามที่นายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ได้ประกาศในที่ประชุมเมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในงาน เวิลด์อีโคโนมิก ฟอรัม 2018 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว “ประเทศฝรั่งเศสจะปิดโรงไฟฟ้าถ่านหินที่มีอยู่ทั้งหมดภายในปี 2021” อีก 3 ปีข้างหน้า ถือเป็นความกล้าหาญชาญชัยของผู้นำรุ่นใหม่ อันถือเป็นสิ่งที่สังคมโลกจะต้องร่วมกันสดุดียกย่อง และจะต้องยึดแนวทางนี้เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติในประเทศต่างๆต่อไป ทั้งนี้แนวทางดังกล่าวนั้นถือว่าสอดคล้องกับประชาคมโลกที่ได้ร่วมกันประกาศที่จะลดกิจกรรม หรือโครงการที่จะทำให้บรรยากาศของโลกร้อนมากไปกว่านี้ ในการประชุมคอป 21 ที่ประเทศฝรั่งเศส เมื่อปี พ.ศ. 2558 ที่ผ่านมา
เครือข่ายคนสงขลา – ปัตตานี ไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพาในภาคใต้ ที่กำลังได้รับความเดือดร้อนจากโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา ที่รัฐบาลกำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ ซึ่งพวกเราเห็นว่าเป็นการดำเนินการที่ขัดแย้งกับข้อตกลงที่รัฐบาลไทยได้เคยไปทำข้อตกลงไว้ในการประชุมในครั้งนั้นด้วย
ดังนั้นแล้วเราเห็นว่าการประกาศดังกล่าวนั้นจะเป็นเครื่องพิสูจน์ให้ผู้นำทั่วโลกได้ยอมรับ และเข้าใจร่วมกันว่าการผลิตพลังงานไฟฟ้าไม่จำเป็นต้องใช้เชื่อเพลิงจากถ่านหินเท่านั้น หากแต่ยังมีทางออกและทางเลือกอื่นที่ดีกว่า ดังที่ท่านประธานาธิบดีฝรั่งเศสได้แสดงวิสัยทัศน์ต่อเรื่องนี้ออกมาให้เป็นที่ประจักษ์โดยทั่วกัน ซึ่งไม่เพียงแค่การทำให้ประเทศของท่านอยู่ในบรรยากาศที่บริสุทธิ์เท่านั้น แต่ท่านกำลังจะช่วยให้โลกใบนี้สะอาดบริสุทธิ์ขึ้นด้วยเช่นกัน พวกเราในนามเครือข่าย และในนามของประชาชนในพื้นที่ภาคใต้หลายจังหวัดที่กำลังประสบชะตากรรมเดียวกัน และอาจจะรวมถึงประชาชนไทยทั้งประเทศด้วย เราจึงขอสนับสนุนและขอยกย่องในความกล้าหาญของท่านมาในโอกาสนี้
ขอแสดงความเคารพ นับถือ
(ดิเรก เหมนคร)
เครือข่ายคนสงขลา – ปัตตานี ไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)