ประณามการจับกุมชาวบ้านดอยเทวดาและแจ้งข้อกล่าวหาเนื่องจาก จัดกิจกรรมให้กำลังใจ “We walk เดิน...มิตรภาพ” เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2561
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2561 กลุ่มเกษตรกรบ้านดอยเทวดา ต.สบบง อ.ภูซาง จ.พะเยา ได้จัดกิจกรรม “We walk เดินมิตรภาพ เดินไปหาเพื่อน เดินไปหาอนาคต” เพื่อสนับสนุนและให้กำลังใจเครือข่าย People Go ที่จัดกิจกรรม We walk เดิน...มิตรภาพ โดยก่อนจัดกิจกรรมหนึ่งวัน ได้โทรศัพท์ไปแจ้งต่อนายอำเภอภูซางเพื่อขออนุญาตจัดกิจกรรมว่า จะเดินจากเทศบาลตำบลสบบง มายังหมู่บ้านดอยเทวดา แต่นายอำเภอไม่อนุญาตให้เดิน อย่างไรก็ดีทางกลุ่มเกษตรกรบ้านดอยเทวดายังยืนยันที่จะทำกิจกรรมต่อไป
เวลาประมาณ 12.00 น. กลุ่มเกษตรกรบ้านดอยเทวดาประมาณ 15 คน ได้ทำกิจกรรมการเดินดังกล่าวจากปลายหมู่บ้านไปยังกลางหมู่บ้าน ระยะทางประมาณ 500 เมตร มีการถือป้ายและธง “สนับสนุน we walk เดินมิตรภาพ”, “สหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ บ้านดอยเทวดา” ก่อนจะมาหยุดที่หน้าศาลาประชาคมหมู่บ้าน เพื่ออ่านแถลงการณ์ที่มีใจความว่า กลุ่มเกษตรกรบ้านดอยเทวดาสนับสนุนการเดินมิตรภาพ we walk และจบกิจกรรมภายในเวลา 10 นาที แต่ต่อมาชาวบ้าน 11 คนและนักกิจกรรม นักศึกษา 3 คน ถูกตำรวจ สภ.ภูซางเรียกตัว ไปสอบปากคำ และควบคุมตัวไว้ตลอดทั้งคืน โดยแยกนักกิจกรรมและชาวบ้านออกจากกัน
วันนี้ (6 กุมภาพันธ์ 2561) เวลาประมาณ 6.00 น. ทั้งหมดถูกตำรวจตั้งข้อกล่าวหา ฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 3/2558 เรื่องการห้ามชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท โดยทั้งหมดให้การปฏิเสธ ตำรวจจึงนำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดเชียงคำ
อีกทั้งระหว่างการควบคุมตัว ชาวบ้าน 1 ใน 11 คนนั้นมีอาการป่วยเป็นโรคประจำตัว (โรคเบาหวาน) ซึ่งจำเป็นอย่างมากที่จะต้องใช้ยา แต่เจ้าหน้าที่ก็มิได้ปล่อยตัวให้ผู้ต้องหาคนนั้นออกไปรับยา อีกทั้งยังเป็นการควบคุมตัวไว้เพื่อการสอบปากคำทั้งคืน จนระยะเวลาล่วงเลยมาถึงเช้าวันถัดไป เท่ากับว่า ผู้ต้องหาทั้งหมดต้องอยู่ที่โรงพักทั้งคืนโดยไม่ได้พักผ่อน ซึ่งการกระทำทั้งหมดที่กล่าวมานี้เป็นการกระทำถือได้ว่าเลวร้าย ขัดต่อหลักการของควบคุมตัวผู้ต้องหาที่จะต้องแจ้งข้อกล่าวหา และให้ผู้ถูกคุมขังมีสิทธิได้รับการรักษาพยาบาลตามสมควร
การกระทำดังกล่าวของเจ้าหน้าที่ขัดต่อหลักการด้านสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง แม้ว่า ที่ผ่านมาทางรัฐบาลไทย ได้เข้าร่วมเป็นรัฐภาคีที่ร่วมลงนาม กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR) ประเทศไทยเข้าร่วมเป็นภาคี โดยการภาคยานุวัติเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2539 และมีผลบังคับใช้กับไทยเมื่อวันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2540 จึงขอประณามการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐที่เลวร้าย ป่าเถื่อน รุนแรง ปราศจากความมีมนุษยธรรมอย่างร้ายแรง
เครือข่ายซึ่งประกอบไปด้วยนักวิชาการ นักพัฒนาเอกชน นักกิจกรรมเพื่อสังคม มีข้อเรียกร้องดังต่อไปนี้
1. ทางรัฐบาลต้องทำตามหลักการกฎหมายระหว่างประเทศที่ทางรัฐบาลไทยได้รับรองไว้ และนำไปสู่ภาคปฏิบัติเพื่อให้เกิดขึ้นจริง
2. ขอเรียกร้องให้ศาลดำเนินกระบวนการยุติธรรมต่อผู้ต้องหาในคดีนี้อย่างเป็นธรรม เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมทางสังคมและประโยชน์ของประชาชนในด้านสิทธิและเสรีภาพที่ประชาชนพึงได้รับจากการรับรองตามกฎหมาย
ด้วยความเคารพในศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์และสิทธิเสรีภาพของประชาชน
แถลง ณ วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2561
รายนามองค์กร
1.กลุ่ม Gen เรา
2.เครือข่ายคนรุ่นใหม่กลุ่มลุ่มน้ำโขงศึกษา
3.กลุ่มพลเมืองคนรุ่นใหม่ (NGC)
4.กลุ่มสองล้อรักษ์บ้านเกิดอาสาสมัครชุมชนด้านทรัพยากร จ.สตูล
5.กลุ่มโกงกาง
6.กลุ่มลูกชาวบ้าน
7.กลุ่มรักษ์เขาชะเมา
8.กลุ่ม Law Long Beach
9.เครือข่ายนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลาและมหาวิทยาลัยทักษิณ
10.เครือข่ายนักกิจกรรมเพื่อประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
11.กลุ่มเสรีมวลชนเพื่อสังคม
12.กลุ่มเผยแพร่กฎหมายสิทธิมนุษยชนเพื่อสังคม (ดาวดิน)
13.เครือข่ายคนรุ่นใหม่เพื่อการเปลี่ยนแปลงสังคม
14.สิงห์ภูพาน
15.ขบวนการอีสานใหม่
16.ศูนย์กฎหมายสิทธิมนุษยชนเพื่อสังคม
รายนามนามบุคคล
1.กรกช แสงเย็นพันธ
2.ชูเวช เดชดิษฐรักษ์
3.ชินภัทร วงค์คม
4.ณัฐวุฒิ กรมภักดี
5.ณรงค์ฤทธิ์ อุปจันทร์
6.บดินทร์ สายแสง
7.งามศุกร์ รัตนเสถียร
8.ธนพล แสงจันทร์
9.นายอัครวินท์ กุลภา
10.นายเกียรติศักดิ์ อุปชา
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)