ประยุทธ์ ปิ๊งไอเดีย อาเซียน-ออสเตรเลีย จับมือสร้างความมั่นคงไซเบอร์-ร่วมพัฒนากฎกติกาสากล

พล.อ.ประยุทธ์ เสนอ อาเซียน-ออสเตรเลีย ร่วมมือกันสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้าน ความมั่นคงทางไซเบอร์และมีส่วนร่วมในการพัฒนากฎกติกาสากล ชี้คนหนีคดี อยู่นอก เปลี่ยนพาสปอร์ตคงตามไม่ได้ แต่คงไม่มีความสุข เผย มิ.ย.จะเรียกทุกพรรคมาพูดคุย ว่าจะเอาไงกับประเทศ

ที่มาภาพ เว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาล 

19 มี.ค.2561 รายงานข่าวระบุว่า วานนี้(18 มี.ค.61) เวลา 08.40 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถ้อยแถลงในการประชุม สุดยอดอาเซียน – ออสเตรเลีย สมัยพิเศษ 2018 แบบเต็มคณะ ในหัวข้อ “การส่งเสริมความมั่นคงและความมั่งคั่ง ในภูมิภาค” ณ ศูนย์การประชุมนานาชาตินครซิดนีย์

โดย พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนัก นายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญ ดังนี้ การประชุมสุดยอดอาเซียน – ออสเตรเลีย สมัยพิเศษ 2018 แบบเต็มคณะ ในหัวข้อ “การส่งเสริมความมั่นคงและ ความมั่งคั่งในภูมิภาค แบ่งเป็น 3 วาระ ได้แก่ การมีส่วนร่วมระหว่างอาเซียนกับออสเตรเลีย การส่งเสริมหุ้นส่วน ทางเศรษฐกิจระหว่างอาเซียนและออสเตรเลีย และ ความร่วมมือเพื่อต่อต้านการก่อการร้ายสากลระหว่างอาเซียน-ออสเตรเลีย

สำหรับการเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างอาเซียนกับออสเตรเลีย เพื่อสร้างความมั่นคง และความมั่งคั่งในภูมิภาคให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้นนั้น พล.ท.วีรชน สรุปสิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ตั้งอยู่บนพื้นฐาน 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ (1) ความใกล้ชิด ที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างกันได้พัฒนาเชิงบวกในทุกมิติ (2) อาเซียนและออสเตรเลียมีผลประโยชน์ร่วมกัน เชิงยุทธศาสตร์ในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก โดยกลุ่มประเทศขนาดกลางควรหันหน้าเข้าหากัน เพื่อช่วยให้อินโด-แปซิฟิกเป็นภูมิภาคที่เปิดกว้าง อยู่บนพื้นฐานของกติกาที่จะรักษาผลประโยชน์ และเคารพสิทธิของทุกฝ่าย (3) การส่งเสริมความเชื่อมโยงระหว่างประชาชน โดยเฉพาะความร่วมมือในด้านการศึกษา และความมั่นคงของมนุษย์

การส่งเสริมหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระหว่างอาเซียนและออสเตรเลีย พล.อ.ประยุทธ์ เสนอว่าอาเซียนควรให้ ความสำคัญกับการส่งเสริมความเชื่อมโยงด้านโครงสร้างพื้นฐาน การขนส่ง และด้านดิจิทัล รวมถึงส่งเสริมศักยภาพ และโอกาสของผู้ประกอบการ MSMEs และส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจที่มีความยั่งยืน 

การก่อการร้ายสากลการเผยแพร่ลัทธิและแนวคิดที่ยึดหลักความรุนแรง และแนวคิดสุดโต่งที่นิยมใช้ความรุนแรง ถือเป็นภัยคุกคามข้ามพรมแดนที่สำคัญ โดยไทยเห็นควรส่งเสริมความร่วมมือด้านการแลกเปลี่ยนข่าวกรอง เสริมสร้างระบบการบริหารจัดการชายแดนในอาเซียนและภูมิภาค

นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้เสนอให้ อาเซียนและออสเตรเลียร่วมมือกันสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้าน ความมั่นคงทางไซเบอร์และมีส่วนร่วมในการพัฒนากฎกติกาสากล

รายงานข่าวยังระบุด้วยว่า วันเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวกับตัวแทนชุมชนคนไทยประมาณ 60 คนที่อาศัยอยู่ในออสเตรเลีย โดยขอบคุณที่ทุกคนมีส่วนร่วมในการเผยแพร่วัฒนธรรมไทยในออสเตรเลีย พร้อมขอให้ช่วยกันสร้างการรับรู้ที่ดีในต่างประเทศ แม้จะได้สัญชาติออสเตรเลียก็ขอให้อย่าลืมประเทศไทย ต้องยึดมั่น ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ซึ่งขณะนี้ปัญหาความวุ่นวายในประเทศก็ลดลงไปเยอะ ตั้งแต่ที่ตนเข้ามาแก้ปัญหาพร้อมยืนยันรัฐบาลพยายามดำเนินการเพื่อแก้ปัญหาทุกเรื่องและวางโครงสร้างประเทศไว้โดยจะเห็นชัดใน 4-5 ปีข้างหน้า

“เราต้องลดราวาศอก ในประเทศก็ลดราวาศอกไปเยอะเพราะมีกรรมการใหญ่ คือผมเอง เรื่องในประเทศไม่ต้องกังวล แต่ให้ช่วยดูด้วยว่าใครมาเร่ร่อนแถวนี้ ผมไม่ได้พูดถึงคนใดคนหนึ่ง 4 ปีที่ผ่านมาผมไม่ได้พัก ไม่ได้ไปไหนเลย ไปทำงานแล้วกลับบ้านตามเวลา วันเสาร์อาทิตย์ก็ไม่ได้พัก ไม่เคยไปไหนกับภรรยา ไม่เคยไปเดินห้างครอบครัว เดี๋ยวไปแล้วเกิดมีใครเอาอะไรมาขว้างผมก็เสียชื่อแล้ว ผมก็ยอมเพราะตัดสินใจมาแล้วที่วันนั้นผมตัดสินใจมามันจะเละไปกว่านี้ แต่จากนี้จะเละอีกหรือไม่ ผมก็ไม่รู้ผมทั้งทุกข์ทั้งสุข ทุกข์ที่ทุกคนคาดหวัง ถ้าทุกคนไม่ร่วมมือกี่ร้อยประยุทธ์ก็ทำไม่ได้ ไม่ใช่ผมหลงตัวเอง แต่ประเมินจากต่างประเทศเขาก็ยอมรับ แต่ก่อนเขาคิดว่าผมโง่ ที่ยกขบวนกันมาก็พูดกับเขารู้เรื่อง วันนี้อียูก็ไม่รังเกียจผมแล้ว เว้นคนไทยบางคนที่รังเกียจผมอยู่” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ชี้คนหนีคดี อยู่นอก เปลี่ยนพาสปอร์ตคงตามไม่ได้ แต่คงไม่มีความสุข 

 
หัวหน้า คสช. ยังกล่าวช่วงหนึ่งถึงปัญหาการทุจริตในประเทศไทยว่ามีมานานแล้ว และต้องแก้ไข เพราะเป็นการทุจริตงบประมาณแผ่นดิน ยืนยันส่วนตัวไม่ได้ปกป้องพี่น้อง พร้อมย้ำในโครงการรับจำนำข้าวไม่ได้กลั่นแกล้งใครแต่เป็นการดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม
 
“เรื่องทุจริตมีมานานแล้ว ผมก็รื้อขึ้นมา ดูจากงบประมาณที่โดนโกงและถูกปกปิด ผมจัดการคนโกง เงินหลวงและที่บอกว่าผมปก ปิด ปกป้อง บอกว่ารักพี่รักน้อง อันนั้นเป็นอีกเรื่องเขาเอามาใส่จากไหนก็ต้องตอบคำถาม ป. ป.ช. เองดูแล้วเขาไม่ได้โกงเงินหลวง แต่คนโกงผมก็ต้องจัดการ ส่วนบางคนถ้าไม่ผิดก็คงไม่ต้องหนี ผมไม่ได้แกล้งเขา แต่ให้ดำเนินการตามกระบวนการ ส่วนคนที่หนีคดี อยู่ต่างประเทศ ถ้าเปลี่ยนพาสปอร์ตคงไม่สามารถตามได้ เพราะต่างประเทศอาจมองเป็นเรื่องการเมือง แต่คนหนีคงไม่มีความสุข เพราะกลับบ้านไปหาพี่น้องไม่ได้ แม้จะกลับไปตายประเทศไทยก็ไม่ได้ ส่วนที่ให้อินเตอร์โพลตามต้องให้เขาตอบมาก่อนว่าอยู่ประเทศไหน หากไม่แจ้งก็ทำอะไรไม่ได้ จับเองก็ไม่ได้ จับมาได้น้อยมาก“ พล.อ.ปรยะยุทธ์ กล่าว

เผย มิ.ย.จะเรียกทุกพรรคมาพูดคุย ว่าจะเอาไงกับประเทศ

หัวหน้า คสช. ยังกล่าวว่าช่วงเดือนมิถุนายน จะเรียกทุกพรรคมาพูดคุย และสอบถามทุกพรรคว่าจะมีแนวทางในการพัฒนาประเทศอย่างไร และเห็นว่าการเมืองไทยต่อไปฝ่ายค้านและรัฐบาลต้องเดินไปด้วยกันเชื่อมต่อกัน สลายขั้ว เพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชน เท่าเทียมทั่วถึง พร้อมขอให้เชื่อมั่นในตนเอง เพราะที่ตัดสินใจมาเป็นนายกรัฐมนตรี เนื่องจากสถานการณ์เมื่อปี 2557 เริ่มวุ่นวายมีการสะสมอาวุธ จึงออกมาหยุดทั้ง2 ฝ่ายไม่ให้สถานการณ์บานปลายและขอให้เชื่อมั่นว่าสิ่งที่ตนทำทั้งหมดจะเป็นการวางรากฐานที่ดีให้กับประเทศในอนาคต
 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท