'สุเทพ' นำ 23 กปปส.ขึ้นศาล ร้องอย่าเหมารวมพิจารณาคดีกบฏ

'กปปส.' ร้องขอศาลอาญา ส่งศาลรัฐธรรมนูญชี้สิทธิอัยการฟ้องคดีเหมารวมคลุมทุกข้อหาไม่แยกจำเลยตามพฤติการณ์ อีกทั้งการฟ้องดำเนินคดีของอัยการได้กล่าวหาร่วมกันกบฏ โดยศาลอาญานัดพร้อมและตรวจพยานหลักฐานอีกครั้งในวันที่ 25 มิ.ย.นี้

19 มี.ค.2561 รายงานข่าวระบุว่า วันนี้ เมื่อเวลา 08.45 น. ที่ศาลอาญา สุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย (มปท) ถาวร เสนเนียม อดีตแกนนำ กปปส. อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และอดีต ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์  สาทิตย์ วงศ์หนองเตย อดีตแกนนำ กปปส. อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย อดีต ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์  อัญชะลี ไพรีรัก อดีตพิธีกรเวทีชุมนุม กปปส. และแนวร่วม กปปส. จำนวนหนึ่ง ซึ่งเป็นจำเลยคดีร่วมกันกบฏ , สนับสนุนกบฏ , ขัดขวางการเลือกตั้งฯ และข้อหาอื่น รวม 8-9 ข้อหา พร้อมด้วยทนายความ  เดินทางมาที่ศาลอาญา เพื่อตรวจหลักฐาน คดีที่อัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 ยื่นฟ้องไว้ 2 สำนวน คือ หมายเลขดำ อ.247/2561 ยื่นฟ้อง สุเทพ และแกนนำ กปปส. รวม 9 คน และคดีหมายเลขดำคดีหมายเลขดำ อ.832/2561 ที่อัยการยื่นฟ้อง อัญชะลี พระพุทธอิสระ อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม และแนวร่วม กปปส. รวม 14  คน

สุเทพ ให้สัมภาษณ์ ก่อนเข้าห้องพิจารณาว่า พวกตนและบรรดาจำเลย ทั้ง 2 รุ่น รุ่นแรก คือ แกนนำ 9 คน ที่อัยการยื่นฟ้อง เมื่อวันที่ 24 ม.ค. และจำเลยรุ่นที่ 2 รวม 14 คน ที่อัยการเพิ่งยื่นฟ้อง เมื่อวันที่ 14 มี.ค. ที่ผ่านมา ศาลได้นัดให้มาตรวจหลักฐานพร้อมกันในวันนี้  รวมจำเลยทั้งหมด 23 คน ฐานเป็นกบฏต่อแผ่นดิน, เป็นอั้งยี่, ซ่องโจร, ทำผิด พ.ร.ก.บริหารราชการแผ่นดินในสถานการณ์ฉุกเฉิน, บุกรุกสถานที่ราชการ, ขัดขวางการเลือกตั้ง ฯลฯ 

สุเทพ กล่าวว่า โดยข้อเท็จจริงแล้ว ผู้ที่ฟ้องเป็นจำเลยทุกคน ไม่ได้มีพฤติกรรมตามที่ถูกกล่าวหา บางคนเพียงแค่ขึ้นเวทีปราศรัยให้ความรู้กับประชาชน บางคนก็เพียงแค่ไปชุมนุมเป็นครั้งคราวตามโอกาสเท่านั้น ดังนั้น วันนี้ พวกผมก็จะยื่นคำร้องต่อศาล ขออย่าได้นำคดีทั้ง  2 สำนวน หรื อเอาจำเลยทั้ง 23 คน มารวมพิจารณาเป็นคดีเดียวกันเลย เพราะจะไม่เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดี และต่อกระบวนการยุติธรรม จึงให้ศาลแยกพิจารณาเป็นคดีๆ ไป แต่หากสุดท้ายศาลมีคำสั่งว่า เพื่อความสะดวกให้รวมพิจารณาเป็นคดีเดียวกัน หรือมีคำสั่งใด เราก็ต้องยอมรับเช่นนั้น  

"แน่นอนว่า ผมและแกนนำ กปปส. รวม 9 คน เราต้องรับผิดชอบทุกข้อหาอยู่แล้ว และยินดีที่จะเข้ารับการพิจารณาเป็นชุดแรก แต่บรรดา 14 คนที่ยื่นฟ้องมาชุดหลัง อยากให้ศาลได้พิจารณาว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่จะให้อัยการถอนฟ้องไปก่อน เพื่อสอบสวนใหม่ให้ชัดเจนว่า พฤติกรรมของแต่ละที่เกี่ยวข้องในการชุมนุม  ที่แท้จริงแล้วมีอะไรบ้าง ก็ฟ้องไปตามนั้น เช่นถ้าผิดฐานขัดขวางเลือกตั้ง ก็ฟ้องข้อหาขัดขวางการเลือกตั้ง หรือมีพฤติการณ์ไปบุกรุกสถานที่ราชการไหน ก็ฟ้องฐานบุกรุก แต่บางคนแค่มาขึ้นเวทีปราศรัย ผมก็ยังไม่รู้ว่าจะเอาข้อหาอะไร ดังนั้นสมควรที่สำนักงานอัยการ จะพิจารณาว่า หากยังยึดหลักความยุติธรรมอยู่ ควรจะให้โอกาสจำเลย” สุเทพ กล่าว

สุเทพ กล่าวว่า ในทางกฎหมาย หลักการดำเนินคดีอาญา ต้องถือว่า จำเลยด้อยโอกาส เสียโอกาส พนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) อัยการ มีโอกาสทำสำนวนตั้ง 4 - 5 ปี แจ้งข้อหามา ก็ต้องให้จำเลยได้รวบรวมข้อเท็จจริงไปแสดง  จำเลยจะได้ไม่ต้องเสียเวลาในการประกอบอาชีพ การทำหน้าที่ฐานะสื่อมวลชน ครูบาอาจารย์ ซึ่งจะได้ไปทำประโยชน์ให้กับสังคมตามหน้าที่ความรับผิดชอบของเขา แทนที่จะมัดรวมมามัดเดียวกัน แล้วต้องมาศาลทุกคน ทุกนัด ซึ่งหากใครไม่มาสักคนก็พิจารณาคดีไม่ได้

 

ที่มา : สำนักข่าวไทย เพจ Issaradham และ เพจ Suthep Thaugsuban (สุเทพ เทือกสุบรรณ)

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท