Skip to main content
sharethis

‘อนุสรณ์ ธรรมใจ’ เผยว่า สงครามรัสเซียยูเครนอาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ระบบการค้าโลก การลงทุนระหว่างประเทศและตลาดการเงินโลกอย่างชัดเจน เศรษฐกิจไทยเสี่ยงเจอภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวและเงินเฟ้อปรับตัวขึ้นมาก

25 ก.พ. 2565 อนุสรณ์ ธรรมใจ อดีตกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย และ อดีตคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต เผยว่า สงครามรัสเซียยูเครนอาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ระบบการค้าโลก การลงทุนระหว่างประเทศและตลาดการเงินโลกอย่างชัดเจน  

รัฐบาลรัสเซียจะถูกคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจอย่างหนักจากชาติตะวันตก มาตรการคว่ำบาตรบางส่วนจะส่งผลกระทบต่อราคาพลังงานในตลาดโลกให้ปรับตัวสูงขึ้น และตลาดการเงินโลกและระบบการชำระเงินระหว่างประเทศของรัสเซียมีความปั่นป่วน มีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดภาวะ Stagflation มีเงินเฟ้อสูงควบคู่เศรษฐกิจขยายตัวติดลบหรือชะลอตัวในหลายประเทศ

ราคาน้ำมันดิบเบรนต์ทะเลเหนือขึ้นไปอยู่เหนือระดับ 100 ดอลลาร์ทันทีหลังรัสเซียประกาศรุกรานยูเครน ราคาทองคำจะทดสอบ 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในไม่ช้าและน่าจะส่งผลให้ราคาทองคำรูปพรรณในประเทศทะลุระดับ 32,000 บาทต่อหนึ่งบาททองคำได้ ราคาโลหะ ราคายางพาราในตลาดโลกจะปรับตัวสูงขึ้นเช่นเดียวกัน รัสเซียและยูเครนเป็นผู้ส่งออกก๊าซนีออนบริสุทธิ์เกือบ 70 เปอร์เซ็นต์ให้กับทั่วโลก ซึ่งใช้ในการแกะแบบแผงวงจรให้เป็นแผ่นซิลิคอนเวเฟอร์ (silicon wafer) เพื่อใช้ในการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ เกิดผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานในการผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์ ปัญหาขาดแคลนชิปจะรุนแรงขึ้น ทำให้สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ราคาสูงขึ้น การผลิตรถยนต์ มือถือ คอมพิวเตอร์อาจเกิดการชะงักงันได้ กระทบต่อการส่งออกรถยนต์และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ของไทยและอาเซียนระดับหนึ่ง

ราคาน้ำมันมีโอกาสทดสอบระดับ 120 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลภายในเดือนมีนาคม หากสงครามรัสเซียยูเครนขยายวงและโอเปคไม่เพิ่มกำลังการผลิตราคาน้ำมันอาจทะลุ 150 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลได้ ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ และไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีภาวะเสี่ยงที่จะเกิด Stagflation เนื่องจากประเทศพึ่งพาการนำเข้าพลังงานและน้ำมันในระดับสูง อย่างไรก็ตามจะไม่กระทบมากเท่าประเทศในยุโรปและรัสเซีย ตลาดการเงินโลกปั่นป่วน ตลาดหุ้นในประเทศสำคัญทางเศรษฐกิจปรับฐานล่าสุดยังเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของขาลงรอบใหม่ ตลาดหุ้นนิวยอร์กและตลาดหุ้นในยุโรปมีโอกาสแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปี ขณะที่ตลาดหุ้นในประเทศที่มีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจใกล้ชิดกับรัสเซียจะกระทบหนักจากการทรุดตัวลงของเศรษฐกิจรัสเซียและค่าเงินรูเบิลหรือประเทศที่ต้องพึ่งพานำเข้าพลังงานและน้ำมันจะได้รับผลกระทบมาก  

การทำสงครามแบบผสมผสานหรือ Hybrid Warfare ของรัสเซียจะทำให้เกิดสงครามนอกแบบหลากหลาย สงครามไซเบอร์ที่อาจส่งกระทบต่อความปั่นป่วนในการระบบการสื่อสารโทรคมนาคม ระบบสถาบันการเงินและระบบการชำระเงิน  สงครามพันทางหรือสงครามไฮปริดนี้ จะมีการปะทะกันของกองทหารในแนวหน้าน้อยลง แต่จะมีการผสมผสานวิธีการที่ไม่ใช่ทางทหารเพิ่มขึ้น เช่น การใช้มาตรการทางเศรษฐกิจ มาตรการสงครามข้อมูลข่าวสาร จะมีการปฏิบัติการข่าวสาร (Information Operation: IO) และปฏิบัติการทางจิตวิทยาค่อนข้างมาก มีการสร้างข่าวปลอม ส่งผลต่อความผันผวนในตลาดการเงินมาก ขณะที่การต่อต้านของฝ่ายยูเครนจะทำให้กองทัพรัสเซียจมปลักอยู่ในสงครามยืดเยื้อเช่นเดียวกับสหภาพโซเวียตเคยประสบมาแล้วในอัฟกานิสถาน แต่คราวนี้นอกจากกองทัพรัสเซียจะเผชิญกับกองทัพยูเครนในลักษณะสงครามในแบบ หรือ Conventional War แล้วจะเผชิญกับสงครามกองโจร บวก สงครามอสมมาตร (Asymmetric Warfare) ที่ใช้องค์กรประชาชน และ พลเรือนในการช่วยทำการต่อต้านการรุกรานในรูปแบบต่างๆด้วย      

หากสงครามขยายวงเป็นสงครามในยุโรปผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกแม้นจะไม่รุนแรงเท่าการแพร่ระบาดโควิดและล็อกดาวน์เศรษฐกิจเมื่อปี พ.ศ. 2563 แต่น่าจะส่งผลกระทบทางลบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจของบางประเทศ ทิศทางขาขึ้นอัตราดอกเบี้ยโลกชะลอตัวและธนาคารกลางอาจตัดสินใจไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมีนาคมเพื่อประคับประคองตลาดการเงิน อย่างไรก็ตาม บทบาทของรัสเซียในระบบการค้าโลกและระบบการเงินและการลงทุนโลกยังไม่ได้มีขนาดใหญ่มาก ขนาดเศรษฐกิจและมูลค่าของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศอยู่ในอันดับที่ 11 ของโลกประมาณ 6.37 ล้านล้านดอลลาร์ ขณะที่ยูเครนอยู่ในอันดับที่ 56 ประมาณ 0.15 ล้านล้านดอลลาร์ (จัดอันดับโดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ) ประเทศยุโรป ตะวันออกอย่างโปแลนด์มีมูลค่าส่งออกไปยุโรปตะวันตกมากกว่ารัสเซีย

ประเด็นใหญ่ คือ ปัญหาวิกฤติพลังงานในยุโรปตะวันตก หากรัสเซียเลิกส่งออกพลังงานไปยุโรปเพราะยุโรปตะวันตกต้องพึ่งการนำเข้าพลังงานจากรัสเซียหนึ่งในสามของอุปสงค์ทั้งระบบ ต้องพึ่งพาน้ำมันประมาณ 25 เปอร์เซ็นต์จากรัสเซียและก๊าซธรรมชาติ 44 เปอร์เซ็นต์จากรัสเซีย ราคาข้าวสาลีและราคาขนมปังจะปรับตัวสูงขึ้นในระยะต่อไป       

อนุสรณ์ ยังชี้ต่อว่า ผลกระทบจากสงครามต่อเศรษฐกิจไทยในเบื้องต้นยังอยู่ในวงจำกัด แต่ตลาดหุ้นไทยและค่าเงินบาทยังทรุดตัวได้อีก ตลาดสินค้าส่งออกของไทยโดยภาพรวมอาจชะลอตัวยกเว้นสินค้าเกษตรส่งออกจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกโดยรวม ส่วนผลกระทบโดยตรงจากเศรษฐกิจรัสเซียโดยตรงยังมีจำกัดเพราะมูลค่าการค้าระหว่างรัสเซียกับไทยอยู่ในระดับ 1,000-1,200 ล้านดอลลาร์หรือประมาณ 32,000 ล้านบาทต่อปีเท่านั้น แต่เป็นตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงมาก แต่ในปีนี้คงจะหดตัวแน่นอนและค่าเงินรูเบลก็ดิ่งลงอย่างรุนแรงด้วย ล่าสุดค่าเงินรูเบลดิ่งลงเกือบ 4% เมื่อเทียบกับยูโร และอ่อนค่าลงประมาณ 3.6% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ดัชนีตลาดหุ้นรัสเซียทรุดลงมากกว่า 30% เมื่อเทียบกับจุดสูงสุดเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว และ ทางการรัสเซียได้ประกาศให้หยุดการซื้อขายในทุกตลาดการเงินชั่วคราว            

ราคาข้าว (ข้าวสาลีแพงและอาจขาดแคลน) และราคายางพารา (น้ำมันแพง ยางสังเคราะห์แพง) จะปรับตัวในทิศทางดีขึ้น ส่งผลดีต่อภาคเกษตรกรรมระดับหนึ่ง ขณะที่ทองคำยังอยู่ในช่วงแรกของขาขึ้น สัญญาณของการเกิดภาวะ Stagflation เริ่มชัดเจนขึ้น มีความเสี่ยงมากขึ้นที่เศรษฐกิจไทยอาจเผชิญภาวะ Stagflation คือ ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว เติบโตต่ำและเงินเฟ้อปรับตัวขึ้นมาก สิ่งที่ประชาชนส่วนใหญ่เผชิญอยู่เวลานี้คือ รายได้ชะลอตัว หนี้สินท่วม ค่าครองชีพสูงขึ้น และทำงานต่ำระดับ มีกำลังการผลิตส่วนเกินเหลืออยู่จำนวนมาก การใช้นโยบายการเงินและการคลังแบบผ่อนคลายมีความจำเป็นต่อการประคับประคองการฟื้นตัวของการจ้างงานและการกระเตื้องขึ้นของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ราคาสินค้าอุตสาหกรรมบางส่วนปรับตัวสูงขึ้นจากการขาดแคลนวัตถุดิบ การชะงักงันระบบจัดส่งและค่าระวางเรือปรับตัวสูงขึ้นยังดำรงอยู่ ปัญหาบางส่วนเกิดจากการหยุดดำเนินการผลิตของโรงงาน เกิดการการชะงักงันของระบบจัดส่งโลจีสติกส์ ปัญหาการแพร่ระบาดและการติดเชื้อสูงระลอกใหม่น่าจะทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อในโรงงานภาคการผลิตได้ การจัดเตรียมงบประมาณเพื่อเตรียมใช้มาตรการการคลังกระตุ้นเศรษฐกิจและลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจระยะยาว มาตรการควบคุมเงินเฟ้อและค่าครองชีพ มาตรการสาธารณสุขรับมือกับการระบาดระลอกใหม่ เป็นเรื่องที่มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไป โดยงบประมาณค่าใช้จ่ายต่างๆควรมาจากการเก็บภาษีทรัพย์สินมากกว่าการก่อหนี้สาธารณะเพิ่มเติม

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net