Skip to main content
sharethis

ภาคประชาสังคมเผยว่า เมื่อต้น มี.ค. กองทัพพม่ามีการจัดตั้งกองกำลังประชาชนคลั่งชาติ ชื่อว่า ‘ผิ่วซอที’ ซึ่งมีบทบาทในการโจมตีและทำลายหมู่บ้าน ลอบโจมตีฝ่ายต่อต้านรัฐบาล และเผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อ 

 

18 มี.ค. 65 Progressive Voice ซึ่งเป็นองค์กรภาคประชาสังคม และวิจัยนโยบายเกี่ยวกับสิทธิฯ เผยแพร่บทความว่าด้วยการจัดตั้งกลุ่มกองกำลังนักรบประชาชนที่มีแนวคิดอนุรักษ์นิยมอย่าง ‘ผิ่วซอที’ ซึ่งเมื่อต้นเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา กลุ่มนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจมตีกองกำลังปกป้องพลเรือน (PDF) เผาและทำลายหมู่บ้านในตอนกลางของประเทศเมียนมา รวมถึงเรียกร้องให้นานาประเทศให้ความสนใจประเทศเมียนมา 

ภาพซากปรักหักพังของหมู่บ้านต่องโกน ในภูมิภาคสะไกน์ ถูกกองทัพพม่าโจมตีและเผา วานนี้ (17 มี.ค.) เมื่อ 19.30 น. ที่มาภาพ Tachilek News Agency

ช่วงที่ผ่านมา กองทัพพม่าช่วงชิงความได้เปรียบใช้ความรุนแรงและโหดร้ายต่อพลเรือนพม่าในขณะที่ทั่วโลกจับจ้องไปที่สงครามยูเครนและรัสเซีย  โดยล่าสุดคือที่ภูมิภาคสะไกน์ และภูมิภาคมะเกว่ ทางตอนกลางของประเทศเมียนมา เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กองทัพพม่ามีการบุกโจมตีและเผาทำลายหมู่บ้าน และรายงานด้วยว่า กองทัพใช้กองกำลังนามว่า ‘ผิ่วซอที’ ซึ่งเป็นกองกำลังจัดตั้งของกองทัพ และเป็นพวกคลั่งชาตินิยม ก่อการร้ายต่อประชาชนและเด็กๆ ตลอดจนโจมตีกลุ่มปกป้องพลเรือน หรือ PDF ซึ่งเป็นกองกำลังภาคประชาชนของรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (NUG) ในเวลาเดียวกัน เผด็จการทหารพม่ามีการตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตในภูมิภาคสะไกน์และมะเกว่อย่างไม่มีกำหนด พยายามสกัดกั้นไม่ให้ข่าวและการสื่อสารถึงประชาชน เนื่องจากไม่ต้องให้ประชาชนทราบข่าวว่ามีการใช้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ การโจมตีภาคพื้นดิน และปล้นสดมพลเรือนที่ไหนบ้าง

กองทัพพม่ากำลังเปลี่ยนไปใช้ยุทธวิธีแบบดั้งเดิมในการต่อสู้กับกองกำลัง PDF โดยจัดตั้งกองกำลังกลุ่มชาตินิยมสุดโต่ง นามว่า “ผิ่วซอที” มาเป็นกองกำลังทหารรับจ้าง ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวท้องถิ่นภาคภาษาอังกฤษอย่าง “Myanmar Now” เคยรายงานว่า มีเอกสารทางการทหารหลุดออกมา โดยเอกสารดังกล่าวระบุว่า กองทัพพม่ามีการจัดตั้งกลุ่มติดอาวุธ “77 ผิ่วซอที” ในภูมิภาคสะไกน์ 

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่บริหารที่นิยมเผด็จการทหาร ตลอดจนกลุ่ม ‘มะบะทะ’ กลุ่มพระภิกษุหัวรุนแรง จะได้รับการฝึกฝนยุทธวิธีทางการทหารและอาวุธโดยกองทัพ เหตุผลที่ทำให้กองทัพพม่าเลือกใช้วิธีการนี้ เนื่องจากพวกเขาเผชิญการต่อต้านอย่างหนักจากประชาชน มีเจ้าหน้าที่แปรพักตร์จำนวนมาก  ตลอดจนผู้บาดเจ็บฝั่งกองทัพที่พุ่งสูงขึ้น ซึ่งองค์กรประชาชนมองว่า เหมือนเป็นการรีแบรนด์กลุ่มพระชาตินิยมสุดโต่งอย่าง ‘มะบะทะ’

กลุ่มนักรบ ‘ผิ่วซอที’ ประกอบด้วย ทหารผ่านศึกจากกองทัพพม่า พระหัวรุนแรง ผู้สนับสนุนเผด็จการทหาร ซึ่งมีรากเหง้ามาจากกลุ่ม ‘มะบะตะ’ กลุ่มพระที่กองทัพพม่าให้การสนับสนุนทั้งด้านเศรษฐกิจ และการเมือง เพื่อให้กลุ่มนี้เปรียบเหมือนเครื่องจักรที่สามารถควบคุมได้ เพื่อเสริมสร้างความชอบธรรมของเผด็จการทหาร กลุ่ม ‘มะบะทะ’ มีชื่อเสียงฉาวโฉ่ในเรื่องการเผยแพร่ความเกลียดชังต่อกลุ่มชาติพันธุ์โดยเฉพาะชาวโรฮิงญา และชุมชนศาสนาต่างๆ ซึ่งไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของอำนาจแบบพุทธพม่า ก่อนหน้านี้ภาพถ่ายและข่าวที่ถูกเผยแพร่บนโลกออนไลน์จับภาพพระกลุ่มมะบะทะพกอาวุธปืน และมีรายงานหลายชิ้นที่ระบุว่า พระพม่าเหล่านี้พยายามปลุกปั่นให้ประชาชนปราบปรามกลุ่ม PDF 

เผด็จการทหารพม่ามีการใช้กลุ่มผิ่วซอทีเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้พวกเขาเป็นสายลับให้กับทางการ และเก็บรวบรวมข้อมูลผู้ที่มีแนวคิดต่อต้านกองทัพพม่า รวมถึงผู้ประท้วง คนที่สนับสนุน ‘การปฏิวัติผลิบาน’ (Spring Revolution) รัฐบาล NUG และขบวนการอารยขัดขืน หรือที่ชาวพม่าเรียกว่ากลุ่ม CDM กองทัพพม่าเกณฑ์คนเพื่อให้มาเป็นผู้ส่งข่าวของกองทัพ เผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อของกองทัพพม่า และช่วยเหลือครอบครัวของทหารผ่านศึก เป้าหมายสำคัญของกลุ่มนี้คือตอบโต้การต่อต้านของประชาชน เพราะรัฐประหารของกองทัพพม่าล่าสุดล้มเหลวที่จะควบคุมประชาชนเมียนมา 

กลุ่มผิ่วซอที มีการใช้ความรุนแรงและทารุณกรรมเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นคำสั่งจากกองทัพพม่า เมื่อวันที่ 3 มี.ค. 65 ที่หมู่บ้านเลลยา (Lel Yar) ในภูมิภาคมะเกว่ กองทัพพม่าและกลุ่มผิ่วซอทีบุกรุกปล้นสดมและเผาบ้านเรือนของประชาชนกว่า 200 หลังคาเรือน ทำลายทรัพย์สินสิ่งของมีค่าสำคัญไปจนหมด ซึ่งรวมถึงบ้านเรือน อาหารสัตว์ เครื่องสูบน้ำ และพื้นที่ไร่นาและอาหาร 

ราวประชาชน 1,700 คน ในจำนวนนี้มีเด็กจำนวน 500 คน ต้องอพยพหนีออกจากหมู่บ้านเลลยา หลังจากได้ยินเสียงปืน และบ้านเรือนเริ่มถูกเผา ต่อมา เมื่อ 14 มี.ค. 65 เผด็จการทหาร สนธิกำลังกับกลุ่มผิ่วซอที โจมตีหมู่บ้านเล็กปานหล่ะ มีบ้านเรือนถูกเผากว่า 30 หลังคาเรือน และทรัพย์สินถูกทำลาย ซึ่งมีรายงานว่ากองทัพพม่ามีการใช้ปืนใหญ่ยิงถล่มหมู่บ้านอีกด้วย 

สมาชิกกลุ่มผิ่วซอทีมักแต่งกายด้วยเครื่องเสื้อผ้าปกติ และปิดบังตัวตนเพื่อลักลอบเข้าไปบ่อนทำลายประชาชนพม่า และลอบโจมตีกองกำลัง PDF ด้วยการสนับสนุนจากกองทัพพม่า ยกตัวอย่าง กรณีหมู่บ้านเมียวทิต ในภูมิภาคสะไกน์ ซึ่งกองกำลัง PDF ถูกฆ่าตายทั้งสิ้น 14 รายเมื่อกลางเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา พวกเขายังมีส่วนสำคัญในสงครามทางด้านจิตวิทยาของกองทัพพม่า เพื่อใช้ต่อสู้กับประชาชนพม่า ข่มขู่ประชาชนให้ยอมจำนน ไม่นานมานี้ผิ่วซอทีใช้ความรุนแรงมากยิ่งขึ้น เนื่องด้วยกองทัพพม่าให้อำนาจพวกเขาอย่างเต็มที่ เพื่อทำการจับกุมและสังหารกองกำลัง PDF ปล้นและทำลายทรัพย์สิน ตลอดจนสังหารผู้นำทางการเมืองฝ่ายตรงข้าม 

หมู่บ้านทานซิน ในอำเภอยินมาบิน ประเทศเมียนมา ถูกกองทัพโจมตีวานนี้ 17 มี.ค. 65 ที่มาภาพ Tachilek News Agency

ขณะที่ ผิ่วซอที สร้างความอลหม่าน กองทัพพม่าก็มีการตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตทั่วทั้งภูมิภาคสะไกน์อย่างไม่มีกำหนด เว้นไว้เพียงแค่ 4 เมือง และก่อนหน้านี้มีอำเภอ 8 อำเภอในภูมิภาคสะไกน์ ต้องอยู่โดยไม่สามารถเข้าถึงสัญญาณอินเทอร์เน็ตมาตั้งแต่ ก.ย. 64 ได้แก่ เอยาดอ, บูทาลิน, คานี, ก่อลิน, ปะเหล่, ปินเหล่บุ, วุนโท และยินมาบิน 

กองทัพพม่าใช้วิธีปิดสัญญาณอินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือในการทำสงคราม ซึ่งบ่อยครั้งจะมาก่อนเริ่มปฏิบัติการโจมตีขั้นรุนแรง เช่น การโจมตีที่รัฐชินเมื่อเดือน ก.ย. 64 และระหว่างการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวชาติโรฮิงญาเมื่อปี 2560 ยุทธวิธีดั้งเดิมของกองทัพพม่า ซึ่งมีชื่อว่า “ยุทธวิธี 4 ตัด” (4 Cuts Strategy) ถูกนำมาใช้กับพื้นที่ดินแดนชาวชาติพันธุ์ที่อยู่ห่างไกลมานานกว่า 6 ทศวรรษ และตอนนี้กำลังถูกนำมาใช้ในพื้นที่ภูมิภาคสะไกน์ และมะเกว่ ซึ่งอยู่ตอนกลางของพม่า กลวิธีตัดสัญญาณเน็ตยังหวังผลในการขัดขวางการสื่อสารระหว่างนักรบ PDF และคุกคามประชาชนที่ยังตามข่าวเรื่องการโจมตีของกองทัพพม่าไม่ทัน และกองทัพพม่ายังใช้วิธีนี้เพื่อปกปิดความโหดร้ายที่ตัวเองเป็นคนทำ หนึ่งวันหลังสัญญาณเน็ตถูกตัด มีรายงานว่ากองทัพพม่าสังหารประชาชน 9 ราย และลักพาตัวผู้หญิงและเด็กอีก 2 คนระหว่างการบุกที่มินส่วย และหน่ะส่วย และมูกานจี ในภูมิภาคสะไกน์ ย้อนไปเมื่อ 5 มี.ค.ที่ผ่านมา กองทัพพม่าโจมตีหมู่บ้านดันโกน (Dan Kone) อำเภอขิ่นยู ในภูมิภาคสะไกน์ อย่างต่อเนื่อง และทำลายหมู่บ้านแทบทั้งหมด

ปลายเดือน ก.พ. 65 และภายใต้สภาวะที่อินเทอร์เน็ตยังคงถูกตัด กองทัพพม่าใช้เฮลิคอปเตอร์จู่โจม รุ่น Mi-25 โจมตีที่หมู่บ้านชินโพน อำเภอยินมาบิน ภูมิภาคสะไกน์ หลังจากนั้น มีปฏิบัติการโจมตีภาคพื้นดิน ทำให้เด็กจำนวน 80 คน และอาจารย์ 9 คน ถูกจับเป็นตัวประกัน หลังจากที่พวกเขาพยายามหนีไปที่วัดใกล้หมู่บ้าน มีการพบศพผู้เสียชีวิต จำนวน 13 คน และพบร่องรอยการถูกซ้อมทรมานบนร่างกายของศพอีกด้วย หลังจากที่ทหารบุกและเผาหมู่บ้านดังกล่าว ชาวบ้านจากชินโพน (Chin Pone) ราว 5,000 คน และหมู่ละแวกใกล้เคียงต้องอพยพหนีเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง 

ขอประชาคมโลกไม่นิ่งเฉย

Progressive Voice ระบุต่อว่า แม้ว่าจะมีเหตุการณ์เลวร้ายเกิดขึ้นกับชาวพม่าเมื่อต้นเดือน มี.ค. 65 แต่ประชาคมโลกกลับนิ่งเฉย และยังไม่มีท่าทีต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

“ประชาคมโลกให้ความสนใจต่อความโหดร้ายที่เกิดขึ้นกับประชาชนพม่า เพียงเพื่อจะได้เขียนรายงาน เพียงเพื่อการส่งเสริมการก่อการร้ายและการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศโดยไม่ต้องรับผิดของกองทัพพม่า”

องค์กรภาคประชาชนพม่า จึงเรียกร้องให้นานาชาติประณามการกระทำของกองทัพเผด็จการพม่าอย่างพร้อมเพรียง ตลอดจนออกมาตรการห้ามการซื้อ-ขายอาวุธ เงินทุน และต่อความชอบธรรมให้กับกองทัพ และเรื่องนี้ต้องกระทำอย่างเร่งด่วน 

นานาชาติต้องรับฟังเจตจำนง จัดลำดับความสำคัญการเรียกร้องชาวพม่าให้อยู่เหนือสิ่งอื่นใด รวมถึงขบวนการปฏิวัติผลิบาน รัฐบาล NUG และการก่อร่างสหพันธรัฐประชาธิปไตยอย่างเต็มรูปแบบ   

ความโหดร้ายที่กระทำโดยกองทัพพม่า และผิ่วซอทีตอนนี้ นับตั้งแต่การรัฐประหารที่ล้มเหลว เมื่อ 13 เดือนที่แล้ว หรือเมื่อ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา มีแต่จะเพิ่มขึ้น และสถานการณ์จะยิ่งเลวร้ายลง ถ้าประชาคมโลกยังคงหันหลังให้กับประชาชนพม่า การตอบโต้โดยนานาชาติยังคงน้อยเกินไปเมื่อเทียบกับสิ่งกองทัพพม่าทำ มีเพียงแค่ออกแถลงการณ์ประณาม และแสดงความกังวลต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ประชาคมโลกควรยืนเคียงข้างประชาชนพม่า และให้การสนับสนุนเช่นเดียวกับประเทศยูเครน ซึ่งกำลังถูกรัสเซียโจมตีอยู่ตอนนี้ 

“ความเป็นหนึ่งเดียวกับการต่อต้านด้วยความกล้าหาญของชาวพม่า จะสามารถโค่นเผด็จการทหารพม่า และฟื้นคืนประชาธิปไตยขึ้นมาได้” Progressive Voice ทิ้งท้าย 

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net