ปล่อยตัว 'จิรัชยา' ผู้ต้องหาหมิ่นศาล หลังถูกจับโดยไม่เคยได้รับหมายเรียก เหตุปราศรัยร้องคืนสิทธิประกัน 'ไบรท์ ชินวัตร' ที่หน้าศาลอาญากรุงเทพใต้ 1 ส.ค. 65 วางหลักทรัพย์เป็นเงิน 14,000 บาท กำหนดเงื่อนไข ติดกำไล EM และ ห้ามกระทำในลักษณะเดียวกันอีก

15 ธ.ค. 2565 วานนี้ (14 ธ.ค) เวลา 18.30 น. จินนี่ จิรัชยา สกุลทอง อายุ 54 ปี ผู้ต้องหาใน คดีดูหมิ่นศาล เหตุปราศรัยหน้าศาลอาญากรุงเทพใต้ ได้รับการปล่อยตัวออกจากทัณฑสถานหญิงกลาง โดยบรรยากาศมีมวลชนมารอต้อนรับ และมอบดอกไม้ให้กำลังใจ หลังเมื่อวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์อนุญาตให้ประกัน "จินนี่ จิรัชยา สกุลทอง” ใน คดีดูหมิ่นศาล เหตุปราศรัยหน้าศาลอาญากรุงเทพใต้ ให้วางหลักทรัพย์เป็นเงิน 14,000 บาท กำหนดเงื่อนไข ติดกำไล EM และ ห้ามกระทำในลักษณะเดียวกันอีก แต่ยังไม่ได้รับการปล่อยตัว เนื่องจากศาลอ้างว่า ต้องไปติดกำไล EM และทำสัญญาการประกันตัว

สำนักข่าวราษฎร รายงานความรู้สึก จิรัชยา ด้วยว่า การเข้าเรือนจำรอบสองทำให้ตัวเองเข้มแข็งขึ้น เพราะรอบแรกยังเป็นเด็กเข้าใหม่ รอบนี้ ตนได้เข้าไปถึงเรือนทับทิม และเจออะไรหลากหลายในเรือนจำ ตั้งแต่ระบบ ระเบียบที่เข้มข้นขึ้น แต่ครั้งนี้ตนก็ไม่มีปัญหา

จิรัชยา กล่าวต่อว่า ตอนที่ตนโดนจับในวันที่ 25 พ.ย.ที่ผ่านมา ตนเดินทางไปหน้าศาลอาญากรุงเทพใต้ เพื่อคัดค้านการยื่นถอนประกันตัวนักกิจกรรมทางการเมืองที่มีสมาชิกกลุ่มปกป้องสถาบันไปเป็นคนยื่น และกลุ่มดังกล่าวก็ได้เดินปรี่เข้ามา และเรียกร้องให้ตำรวจจับกุม เพราะมีหมายจับค้างอยู่

จิรัชยา กล่าวว่า ตนรู้ข่าวว่าได้ประกันตัวเมื่อช่วงเช้า เพราะว่ามีเจ้าหน้าที่ได้มาบอกให้ไปติดกำไล EM ที่ศาล ทั้งนี้ ตนต้องขอขอบคุณพี่น้องทุกคนที่เดินทางมาเยี่ยมและมาให้กำลังใจ ขอขอบคุณทานตะวันตัว ตุลานนท์ ที่ประสานงาน พลอยไพลิน ให้ดูแลตนขณะที่ใช้ชีวิตในเรือนจำ” 

จิรัชยา กล่าวต่อว่า 15 ธ.ค.65 เวลา 10.00 น. ตนก็มีนัดไปรับทราบข้อกล่าวหาจากการถูก อานนท์ กลิ่นแก้ว ฟ้องหมิ่นประมาทที่ สน. พหลโยธิน ทั้งนี้ก็ต้องไปปรึกษาทนายความอีกทีว่าจะสามารถเลื่อนออกไปก่อนได้หรือไม่

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานด้วยว่า จิรัชยา ถูกจับกุมตัวตามหมายจับ เมื่อวันที่ 25 พ.ย. 2565 จากเหตุถูกกล่าวหาว่าดูหมิ่นศาลหรือผู้พิพากษาในการพิจารณาหรือพิพากษาคดี, หมิ่นประมาทโดยการโฆษณาฯ และใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต จากกรณีปราศรัยเรียกร้องให้ศาลคืนสิทธิประกันตัวของ “ไบรท์ ชินวัตร” ที่หน้าศาลอาญากรุงเทพใต้ เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2565

เกี่ยวกับคดีนี้ จิรัชยาถูกจับกุมตามหมายจับโดยไม่เคยได้รับหมายเรียกมาก่อน จากนั้นก็ถูกนำตัวไปควบคุมที่ สน.ยานนาวา 1 คืน ก่อนที่พนักงานสอบสวนได้ยื่นขออำนาจศาลอาญากรุงเทพใต้ฝากขัง พร้อมคัดค้านการประกันตัว และในเวลาต่อมาศาลได้มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ประกัน โดยระบุคำสั่งว่าผู้ต้องหากระทำการโดยไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง ถือเป็นอันตรายร้ายแรงต่อศาลในการปฎิบัติหน้าที่ หากปล่อยตัวไปเกรงว่าจะไปก่อภัยอันตราย หรือสร้างความเสียหาย ทั้งคดีมีอัตราโทษสูง หากปล่อยตัวไปเกรงว่าจะหลบหนี

ต่อมาเมื่อวันที่ 10 ธ.ค. 2565 ทนายความได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งไม่ให้ประกัน และศาลอาญากรุงเทพใต้นัดอ่านคำสั่ง เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 2565

อย่างไรก็ตามจิรัชยาไม่ได้รับการปล่อยตัวทันทีภายในวันที่ศาลอ่านคำสั่ง เนื่องจากเจ้าหน้าที่ศาลอาญากรุงเทพใต้แจ้งว่ายังไม่สามารถติดกำไล EM ในวันนี้ให้ได้ เพราะไม่ใช่เวลาราชการ จึงแจ้งกับนายประกันว่าศาลจะเบิกตัวจิรัชยามาติดกำไล EM ที่ศาล และให้นายประกันมาทำสัญญาประกันในวันที่ 14 ธ.ค. 2565 เวลา 9.00 น.

สำหรับคดีนี้นับเป็นคดี “ดูหมิ่นศาล” คดีที่ 2 ที่จิรัชยาถูกกล่าวหา โดยก่อนหน้านี้เธอเคยถูกจับกุมและคุมขังในคคีดูหมิ่นศาล จากเหตุจากการปราศรัยวิจารณ์การทำงานของศาล ระหว่างกิจกรรมเรียกร้องสิทธิการประกันตัวของ “บุ้ง-ใบปอ” ที่หน้าศาลแพ่งกรุงเทพใต้ เมื่อวันที่ 15 ก.ค. 2565

ทั้งนี้ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนตั้งข้อสังเกตว่า เวลาที่ศาลอ่านคำสั่งอนุญาตให้ประกันตัวจิรัชยายังอยู่ในเวลาราชการ และการอ้างว่าไม่สามารถติดกำไล EM ให้จำเลยในวันที่มีคำสั่งเนื่องจากไม่ใช่เวลาราชการ ก็มิใช่ข้ออ้างในการไม่ปล่อยตัวจำเลยออกจากเรือนจำ เนื่องจากมีหลายกรณีที่เมื่อศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ประกันตัวโดยมีเงื่อนไขให้ติดกำไล EM ศาลก็ให้ปล่อยตัวจำเลยก่อน แล้วค่อยนัดมาติดกำไล EM ในภายหลังได้