'ความดันโลหิตสูง' โรคฮิตแรงงานไทยในไต้หวัน สาเหตุหลักไม่ใส่ใจสุขภาพและดื่มสุราจัด ไซต์งานในเถาหยวนแห่งหนึ่ง คนงานไทยเกือบ 1 ใน 4 ป่วยโรคความดันโลหิตสูง ส่วนที่ไซต์งานก่อสร้างแห่งหนึ่งในท่าอากาศยานนานาชาติเถาหยวน มีแรงงานไทยประมาณ 70 คน ช่วงปลายปี 2565 เสียชีวิตจากความดันโลหิตสูงถึง 3 คน

ที่มาภาพ: Radio Taiwan International

Radio Taiwan International รายงานเมื่อช่วงต้นเดือน ม.ค. 2566 ว่าแรงงานไทยที่เดินทางมาทำงานในไต้หวัน อายุโดยเฉลี่ยจะสูงกว่าชาติอื่น โดยเฉพาะในไซต์งานก่อสร้าง ทำให้การพาแรงงานไทยที่ป่วยไปรับการรักษาที่โรงพยาบาล กลายเป็นภารกิจหลักของล่าม ยิ่งในหน้าหนาว โรคภัยไข้เจ็บจะมากเป็นพิเศษ

สาเหตุหลักมาจากแรงงานไทยโดยเฉลี่ยอายุจะสูงกว่าชาติอื่น และส่วนใหญ่ไม่ค่อยใส่ใจสุขภาพของตนเอง ดื่มสุราจัดและรับประทานอาหารรสจัด บางคนป่วยเป็นโรคโดยไม่รู้ตัว และโรคที่แรงงานไทยเป็นกันมากคือ ความดันโลหิตสูง ซึ่งได้รับฉายาว่าเป็นเพชฌฆาตเงียบ ล่ามเคยพาไปพบแพทย์ แต่หลายคนไม่กินยาตามที่แพทย์สั่งและไม่ควบคุมหรือติดตามอาการของตนเอง ยังคงดื่มสุราจัดและพักผ่อนไม่เพียงพอ ต่อเมื่อมีอาการเป็นลมหมดสติ ก็มักจะสายเกินแก้ อาจกลายเป็นอัมพาตหรือเสียชีวิตจากเส้นเลือดแตกหรืออุดตัน

ที่ไซต์งานก่อสร้างแห่งหนึ่งในท่าอากาศยานนานาชาติเถาหยวน มีแรงงานไทยประมาณ 70 คน ช่วงปลายปี 2565 เสียชีวิตจากความดันโลหิตสูงถึง 3 คน และมีอีก 17 คนที่มีประวัติป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูง ล่ามเคยพาไปพบแพทย์ แต่ไม่กินยาเป็นประจำตามแพทย์สั่ง แถมยังดื่มสุราจัดตามปกติ นายจ้างเกรงจะมีปัญหา สั่งให้ล่ามพาไปตรวจสุขภาพซ้ำและต้องกินยาประจำตามแพทย์สั่ง ผู้ไม่ปฏิบัติตาม ขู่ยกเลิกสัญญา

นายจ้างที่เป็นผู้รับเหมาโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ ซึ่งส่วนใหญ่นิยมว่าจ้างแรงงานไทย แต่เนื่องจากหายาก ดังนั้นแรงงานไทยที่มีอายุ 50-55 ปี หากสามารถทำงานได้ นายจ้างยินดีรับเข้าทำงาน แต่สิ่งที่ตามมาคือ ปัญหาสุขภาพของแรงงานไทย ทำให้ปัจจุบัน ภารกิจหลักของล่ามในไซต์งานก่อสร้าง คือพาแรงงานไทยไปรับการรักษาที่โรงพยาบาล

ด้านกระทรวงแรงงานไต้หวัน เป็นห่วงสุขภาพแรงงานต่างชาติ ทำสื่อประชาสัมพันธ์เตือนว่า  ในฤดูหนาวมักจะมีอาการไม่สบายได้ง่าย จึงต้องดูแลสุขภาพของตนดังนี้ :

1) หน้าหนาวอุณหภูมิต่ำ ต้องดูแลสุขภาพด้วยการสวมใส่เสื้อผ้าหนาเพื่อให้ร่างกายอบอุ่น ใช้ผ้าพันคอ หมวก ถุงมือและถุงเท้าให้เป็นประโยชน์

2) เวลาตื่นนอนอย่าเพิ่งลุกขึ้นทันที และควรดื่มน้ำอุ่น

3) หลีกเลี่ยงแช่หรืออาบน้ำทันที หลังรับประทานอาหาร (ผู้มีโรคประจำตัว ควรงดอาบน้ำในช่วงเช้า)

4) ควบคุมอาการป่วย รับประทานยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด