กลุ่มเชียงใหม่เพื่อปาเลสไตน์ (chiangmai for palestine) และองค์กรสังคมนิยมแรงงาน รวมตัวหน้ากงสุลอเมริกา เชียงใหม่ ประณามอิสราเอล “หยุดฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” ชาวปาเลสไตน์ พร้อมตะโกนข้อความ “Free Palestine” ระบุ 11 เดือนที่อิสราเอลเดินหน้าภารกิจฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ถือเป็นความเลวร้ายอย่างร้ายแรง สหรัฐอเมริกาเองมีส่วนสนับสนุนทั้งงบประมาณและกำลังทหาร

5 พ.ค. 2567 เมื่อวันที่4 พ.ค. ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 09.00 – 10.30 น. ที่หน้ากงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกาประจำเชียงใหม่ กลุ่มเชียงใหม่เพื่อปาเลสไตน์ (chiangmai for palestine) และองค์กรสังคมนิยมแรงงานได้รวมตัวกันจัดกิจกรรม เพื่อต่อต้านลัทธิจักรวรรดินิยม ไซออนิสต์ และการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ พร้อมกับเสนอ 6 ข้อเรียกร้อง โดยมองว่าปัญหาชาวปาเลสไตน์เป็นเรื่องสิทธิเสรีภาพของมนุษย์ที่ไม่ควรถูกมองข้าม จึงอยากให้คนออกมาร่วมงานจำนวนมากที่สุด 

บรรยากาศ

ปัจจุบันรัฐไซออนิสต์แห่งอิสราเอลกำลังรุกรานและตั้งอาณานิคมปาเลสไตน์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นการลิดรอนสิทธิขั้นพื้นฐาน เสรีภาพ ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ความยุติธรรมและการดำรงอยู่ของชาวปาเลสไตน์เท่านั้น แต่ยังเป็นการสนับสนุนลัทธิจักรวรรดินิยมที่ฝังแน่นอยู่ในทุกส่วนต่าง ๆ ของโลก กล่าวคือหากไม่มีการสนับสนุนทางทหารและการเมืองจากสหรัฐอเมริกา การยึดครองเวสต์แบงค์ กาซา และดินแดนปาเลสไตน์ของอิสราเอล รวมถึงการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่เกิดขึ้นในฉนวนกาซาจะเป็นไปไม่ได้เลย ดังนั้นเป้าหมายของการชุมนุมในครั้งนี้ก็เพื่อส่งเสียงเรียกร้องต่อสหรัฐอเมริกาให้หยุดสนับสนุนการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์อย่างไร้มนุษยธรรม และแสดงจุดยืนข้างปาเลสไตน์โดยต่อต้านการกดขี่ทุกรูปแบบ

“11 เดือนที่อิสราเอลเดินหน้าภารกิจฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ ความเลวร้ายของอิสราเอลที่เกิดขึ้นนี้สมควรถูกประณาม แต่สหรัฐอเมริกากลับคอยสนับสนุน อัดฉีดงบประมาณและกำลังทหารผ่านนโยบายทางการทูตและการต่างประเทศ องค์กรระหว่างประเทศอย่างสภาความมั่นคงแห่งประชาชาติจะมีประโยชน์อะไรหากพวกเขาไม่สามารถนำผู้ละเมิดอาชญากรรมสงครามมารับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเองได้ เราจึงขอขอบคุณผู้ร่วมชุมนุมทุกคนที่อยู่ ณ ที่นี้ ที่มีมโนธรรมสำนึกและความกล้าหาญต่อการกระทำของตนเองมากกว่าสหรัฐอเมริกา และเราจะไม่หยุดจนกว่าการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์นี้จะจบลงและเสรีภาพกลับคืนสู่ชาวปาเลสไตน์…ถ้าเราละเลยสิ่งนี้แล้ว เท่ากับว่าเราละเลยมนุษยธรรม มนุษยชาติด้วย” ปุณยนุช มหารักษิต ตัวแทนกลุ่มเชียงใหม่เพื่อปาเลสไตน์ กล่าว

                                                           ปุณยนุช มหารักษิต (หมวกสีดำ) เค้ก โกชการ์ (หมวกสีครีม)

เค้ก โกชการ์ หนึ่งในผู้ร่วมงานกล่าวว่า “ตอนนี้ใน 2 ชั่วโมงที่แล้วที่เราอยู่พื้นที่ตรงนี้มีแม่จำนวน 8 คนและเด็กอีก 12 คน ที่เสียชีวิตแล้วจากการถูกฆ่าของอิสราเอล จึงอยากให้หยุดการกระทำที่เลวร้ายนี้ และอยากให้อเมริกาหยุดให้เงินสนับสนุนอิสราเอล”

ปุณยนุชจากกลุ่มเชียงใหม่เพื่อปาเลสไตน์กล่าวเสริมว่า อยากให้คนไทยตื่นตัวมากขึ้นว่าการมีอยู่ของอิสราเอลเป็นเหมือนรัฐเถื่อน อยากให้รับฟังข่าวสารเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพื่อนำความรู้ตรงนี้มาพัฒนาเรื่องสิทธิมนุษยชนและความเป็นมนุษย์ โดยไม่มองว่าสิ่งนี้เป็นปัญหาของชาวมุสลิมและไม่เกี่ยวกับชาวพุทธหรือชาวคริสต์ แต่อยากให้มองว่าสิ่งนี้เป็นปัญหาของมนุษย์ทุกคนและร่วมกันรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น

                                                                                        บรรยากาศ

โดยกิจกรรมเริ่มตั้งแต่แจกกระดาษแถลงการณ์ให้กับผู้ที่มาร่วมชุมนุม มีการร่วมกันติดโปสเตอร์บริเวณกำแพงกงสุลสหรัฐอเมริกาเชียงใหม่ ต่อด้วยการเดินขบวนรอบกงสุล โดยตลอดการเดินขบวนได้มีการชูป้ายและร่วมกันร้องเพลงโต้ตอบกันว่า “Free Free Palestine” ปิดท้ายด้วยการพูดถึงสถานการณ์ในปาเลสไตน์และกล่าวแถลงการณ์ข้อเรียกร้องดังต่อไปนี้

1. หยุดยิงทันทีและถาวร
2. ยุติการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของพวกไซออนิสต์ในดินแดนปาเลสไตน์
3. ยุติการรุกรานชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาและเวสต์แบงก์ โดยกองทัพอิสราเอลไซออนิสต์
4. ลงโทษผู้กระทำความผิดทุกคนที่ก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ รวมถึงรัฐบาลเนทันยาฮู ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐอเมริกา และรัฐบาลของสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ที่เกี่ยวข้องกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในฉนวนกาซา
5. สนับสนุนสิทธิของชาวปาเลสไตน์ในการกำหนดอนาคตของตนเองและต่อต้านการยึดครองของอิสราเอล
6. สนับสนุนการสถาปนารัฐประชาธิปไตยใหม่บนพื้นฐานของความสมานฉันท์ในหมู่ประชาชน โดยไม่คำนึงถึงเชื้อชาติหรือศาสนา

ทั้งนี้ในระหว่างการจัดกิจกรรมได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาสอบถามการขออนุญาตใช้พื้นที่และร่วมสังเกตการณ์ตลอดระยะเวลาการจัดกิจกรรม จำนวน 8 นาย พร้อมทั้งตำรวจนอกเครื่องแบบอีก 3 นาย ช่วงสุดท้ายของกิจกรรมได้มีการถ่ายภาพร่วมกันก่อนที่จะมีการแยกย้ายกลับ โดยทั้งหมดของการจัดกิจกรรมเป็นไปอย่างเรียบร้อย