Skip to main content
sharethis

 






การเมือง


 


ร.ร.โยธินหยุดเรียน 22ส.ค. นี้หนีดาวกระจายพันธมิตร


เว็บไซต์คมชัดลึก - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันพรุ่งนี้ ( 22 ส.ค. ) กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะเดินทางไปให้กำลังใจนักเรียนโยธินบูรณะที่โรงเรียนในเวลา 10.00 น.นั้น ปรากฏว่า นายมานพ นพศิริกุล ผอ.ร.ร.โยธินฯ ได้ประกาศหยุดเรียนในวันที่ 22 ส.ค. โดย ร.ร.ได้ทำหนังสือแจ้งผู้ปกครองนักเรียนทุกคนว่า ร.ร.ได้ประชุมหารือกับตำรวจจากสถานีตำรวจนครบาลเตาปูนเกี่ยวกับปัญหาการเดินทางของนร. ผู้ปกครองและครูในวันดังกล่วแล้ว คาดว่า ถ้ามีผู้มาร่วมจำนวนมากจะเป็นสาเหตุให้การจราจรติดขัดจนต้องปิดการจราจรที่แยกบางโพ แยกสะพานแดง แยกยางกระบือ จึงมีความเห็นว่า เพื่อความสะดวกของนร.และแก้ปัญหาการเดินทาง ร.ร.จึงหยุดเรียนในวันที่ 22 ส.ค. เป็นเวลา 1 วันและจะสอนเสริมในวันเสาร์ที่ 23 ส.ค. แทน โดย ร.ร.ขนส่งทางบกที่ตั้งอยู่บริเวณใกล้กันก็สั่งหยุดเรียนแล้ว


 


พธม.เลื่อนให้กำลังใจโยธินฯวันจันทร์


เว็บไซต์คมชัดลึก - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พันธมิตรฯได้แจกประกาศพันธมิตรฯฉบับที่  8/2551 เรื่องเลื่อนกำหนดการไปชุมนุมหน้าโรงเรียนโยธินบูรณะ โดยมีเนื้อหาว่า ตามที่พันธมิตรฯได้ออกแถลงการณ์เชิญชวนประชาชนไปสำแดงพลังให้กำลังใจกับผู้ปกครองและนักเรียนโรงเรียนโยธินบูรณะ และแสดงเจตนารมณ์คัดค้านการย้ายโรงเรียนโยธินฯ และชุมชนใกล้เคียงในวันที่ 22 ส.ค. เวลา 10.00 น.



ทั้งนี้ปรากฏว่าโรงเรียนโยธินฯและโรงเรียนใกล้เคียงในพื้นที่ได้ปิดทำการในวันและเวลาที่พันธมิตรฯจะเดินทางไป ดังนั้นเพื่อเป็นการธำรงเจตนารมณ์และเพื่อเป็นการยืนยันคัดค้านโครงการดังกล่าว ซึ่งใช้งบประมาณอย่างฟุ่มเฟือย ไม่เหมาะสม ไม่โปร่งใส ไม่มีประสิทธิภาพ



จึงขอเลื่อนกำหนดการเยือนโรงเรียน โดยกำหนดนัดหมายเป็นเช้าวันจันทร์ที่ 25 ส.ค. เวลา 10.00 น. ที่หน้าโรงเรียนโยธินบูรณะ


 


"ป.ป.ช." สะดุด อนุฯถอดถอนครม.กรณีลงนามแถลงการณ์ร่วม ชี้ ขาดเอกสารอีกเยอะ เตรียมเรียก "มหาจำลอง-ปองพล" มาให้ข้อมูลเพิ่ม


เว็บไซต์แนวหน้า - นางสาวสมลักษณ์ จัดกระบวนพล กรรมการป.ป.ช. กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีการตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนการถอดถอนคณะรัฐมนตรีทั้งคณะ กรณีกระทำการขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 190 จากการออกมติครม. ให้มีการลงนามในแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา เพื่อขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกว่า ได้รับเอกสารเกี่ยวกับกรณีเขาพระวิหารจากสำนักเลขาธิการครม. และกระทรวงต่างประเทศเรียบร้อยแล้ว แต่ยังขาดเอกสารอยู่อีกจำนวนมาก โดยเฉพาะเอกสารเกี่ยวกับการประชุมเรื่องเขาพระวิหาร ก่อนที่จะมีการลงนามในแถลงการณ์ร่วมสองประเทศ ซึ่งจะต้องมีการขอเอกสารเพิ่มเติมต่อไป


 


นางสมลักษณ์ กล่าวอีกว่า เบื้องต้นป.ป.ช. จะเชิญผู้เกี่ยวข้องประมาณ 5-6 คน มาให้ปากคำก่อน โดยจะเรียกพล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย มาให้ปากคำเป็นรายแรก  เพื่อสอบถามถึงหลักฐานกรณีที่ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไรกับการลงนามในแถลงการณ์ดังกล่าว จากนั้นจะเชิญผู้เกี่ยวข้องคนอื่นๆมาให้ปากคำต่อไป เช่นนายปองพล อดิเรกสาร ประธานคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลกของไทย นายมนัสพาสน์ ชูโต ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เจ้าหน้าที่กรมกิจการชายแดน ทั้งนี้การพิจารณาคดีดังกล่าวป.ป.ช.จะดูจากเจตนาการกระทำผิดของครม.เป็นรายบุคคล จะไม่พิจารณาแบบเหมารวมทั้งครม.


 


น้องทักษิณรับเป็นนายทุน"เพื่อไทย"


แนวหน้า - 20 .. กลุ่มอีสานพัฒนา อาทิ นายไพจิต ศรีวขาน ส.ส.นครพนม หัวหน้ากลุ่มอีสานพัฒนา นายศักดา คงเพชร ส.ส.ร้อยเอ็ด นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ ส.ส.ชัยภูมิ นายพีรพันธุ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร ได้เดินทางไปหารือถึงสถานการณ์การเมืองและร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับ นายพายัพ ชินวัตร อดีต ส.ส.เชียงใหม่ พรรคไทยรักไทย น้องชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ชั้น 9 อาคารชินวัตรไหมไทย ย่านถนนพระราม


 


ภายหลังการหารือ นายศักดา คงเพชร ให้สัมภาษณ์ว่า ได้พูดคุยกันถึงเรื่องพรรคเพื่อไทยมีความพร้อมอะไร อย่างไร นายพายัพในฐานะเป็นน้องชายพ.ต.ท.ทักษิณพร้อมที่จะสนับสนุนเต็มที่ในสิ่งที่ทำได้ โดยพร้อมรับเป็นเซ็นเตอร์ทำงานให้พรรคเพื่อไทย และกลุ่มต่างๆภายในพรรคพลังประชาชนได้ทำงานร่วมกันได้


 


เมื่อถามว่าได้หารือถึงกรอบการคัดสรรบุคคลเข้าพรรคด้วย โดยจะไม่รับคนที่เนรคุณพ.ต.ท.ทักษิณ และแก๊งออฟโฟร์หรือไม่ นายศักดา กล่าวว่า การก่อตั้งพรรคเพื่อไทยต้องมีผู้ใหญ่มาก่อตั้ง การคัดคนเข้าพรรคจะต้องเป็นคนที่ดีที่สุดทั้งนี้การเมืองเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน เท่าที่ฟังพรรคพลังประชาชนหนีการยุบพรรคไม่พ้น รอเพียงคำตัดสินจากศาลรัฐธรรมนูญ พรรคเพื่อไทยจึงเตรียมพร้อม โดยเฉพาะการเลือกหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค กรรมการบริหารพรรค ที่อาจจะไม่ใช่เป็นคนที่อยู่ในพรรคพลังประชาชน กรรมการบริหารไม่น่าจะลงเลือกตั้ง จะให้บริหารพรรคอย่างเดียว คนที่จะเป็นนายกฯ ไม่จำเป็นต้องเป็นหัวหน้าพรรค แต่จะให้ลง ส.ส.ระบบสัดส่วน การตั้งพรรคเพื่อไทยถือเป็นยาขนานสุดท้าย ถ้าไม่ประสบผลสำเร็จชนะเลือกตั้งจะต้องเป็นฝ่ายค้าน แต่มั่นใจว่าประชาชนจะให้ความไว้วางใจเลือกผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคมากกว่าการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา จะได้ ส.ส.จำนวนเกินครั้งของจำนวน ส.ส.ในสภาฯแน่


 


ศาลปกครองกลาง ไต่สวนคดีหวยออนไลน์


เว็บไซต์แนวหน้า - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ศาลปกครองกลาง แจ้งวัฒนะ นาย ณัฐ รัฐอมฤต ตุลาการเจ้าของสำนวนออกบัลลังก์ไต่สวนคดีหมายเลขดำที่ 1258/2551 ซึ่งนายมนัส เปรื่องชีว ยื่นฟ้องกระทรวงการคลัง กับพวกรวม 4 ราย ว่า ดำเนินการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ในการมีคำสั่งให้ดำเนินการออกสลากแบบเลขท้าย 2 ตัวและ3 ตัว ด้วยเครื่องจำหน่ายระบบออนไลน์ เนื่องจากพ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ. 2517 ไม่ได้บัญญัติให้อำนาจผู้ถูกฟ้องคดีทั้ง 4ดำเนินการได้  จึงขอให้ศาลปกครองพิพากษายกเลิกการออกจำหน่ายสลากพิเศษแบบเลขท้าย 3 ตัวบน 3 ตัวโต๊ด 2 ตัวบน 2 ตัวล่าง และ 3 ตัวล่าง ด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ออนไลน์ ที่จะเริ่มออกจำหน่ายทั่วไปงวดแรกในวันที่ 17 ก.ย. 2551 และงวดต่อๆ ไป พร้อมทั้งขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองไม่ให้มีการดำเนินการจำหน่ายสลากพิเศษแบบเลขท้ายที่ผ่านเครื่องออนไลน์ไว้ก่อนเป็นการชั่วคราว จนกว่าศาลจะมีคำตัดสิน


 


อย่างไรก็ตาม น.พ. สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ถูกฟ้องร้องคดี ได้มอบหมายให้ วันชัย สุระกุล รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวภายใต้สังกัดกระทรวงการคลังเข้าชี้แจงแทน


 


ภายหลังการไต่สวน  นายวันชัย กล่าวว่า มั่นใจว่าสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล สามารถกลับมาจำหน่ายสลากพิเศษแบบเลขท้ายทุกประเภทได้ เนื่องจากได้ดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายรวมทั้งได้ผ่านการหารือถึงวิธีการและรูปแบบในการจำหน่ายจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว ยืนยันว่าการจำหน่ายหวยบนดินจะเกิดประโยชน์กับสังคมมากกว่าการปล่อยให้มีการจำหน่ายหวยใต้ดิน


 


ขณะที่ นาย มนัส  กล่าวว่า  การดำเนินการของกระทรวงการคลังและสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลผิดกฎหมายแน่นอน  เพราะคำวินิจฉัยของคณะกรรมการกฤษฎีกาไม่มีผลบังคับทางคดีต่อสาธารณชน


 


ออกหมายจับ "ชูชีพ ชีวสุทธิ์" หมิ่นสถาบัน


เว็บไซต์เดลินิวส์ - 21 ส.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น. ในฐานะประธานคณะทำงานสอบสวนคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ กองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมา ศาลอาญากรุงเทพใต้อนุมัติหมายจับ นายชูชีพ  ชีวสุทธิ์  ประธานชมรมพิทักษ์รัฐธรรมนูญ คนสนิทของ พ.ต.ท.ทักษิณ  ชินวัตร อดีตนายกฯ   ข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ภายหลังกล่าวพาดพิงก้าวล่วงสถาบันพระมหากษัตริย์  ออกอากาศผ่านทางวิทยุชุมชนและผ่านทางเว็ปไซด์ในอินเตอร์เน็ต   ซึ่งมีพยานหลักฐานทั้งภาพและเทปบันทึกเสียงคำพูดของนายชูชีพ ที่พูดออกอากาศทางวิทยุชุมชนและผ่านทางเว็ปไซด์ โดยมีถ้อยคำหมิ่นพระบรมเดาชานุภาพอย่างต่อเนื่อง ตำรวจยืนยันมาตลอดว่าความผิดลักษณะแบบนี้คนไทยทุกคนยอมไม่ได้ต้องถูกดำเนินตามกฎหมาย


 


พปช. ลุยรื้อ รธน.โล๊ะคดีแม้วโค่นตุลาการภิวัฒน์-ป.ป.ช.


ผู้จัดการรายวัน - นายพีระพันธุ์ พาลุสุข เลขานุการคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญศึกษาการบังคับใช้เพื่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 50 ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการพิจารณา ว่า ขณะนี้กมธ.ได้เลื่อนเวลาในการพิจารณาออกไปอีก 30 วัน โดยจะสิ้นสุดในวันที่ 17 ก.ย. หลังจากนั้นจะนำผลการศึกษาไปให้แต่ละพรรคนำไปเป็นข้อมูลเพื่อยื่นญัตติขอแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อไป ซึ่งประเด็นสำคัญที่กมธ.เห็นตรงกันว่าเป็นปัญหาในทางปฎิบัติคือม.237 เรื่องการยุบพรรค ซึ่งเห็นชัดเจนว่าไม่เป็นธรรม กรรมการทำผิดคนเดียวแต่ต้องถูกยุบทั้งพรรค ขัดต่อหลักนิติรัฐ และนิติธรรม ม.309 ก็เป็นอีกเป้าหมายหนึ่งที่จะต้องแก้ไขหรือตัดทิ้ง เนื่องจากเป็นมาตราที่รองรับการใช้อำนาจเผด็จการ ตั้งคนที่เป็นศัตรูมาตรวจสอบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งหากรื้อมาตรานี้ได้จะทำให้กระบวนการของคตส.ที่ผ่านมา ไม่ชอบด้วยกฎหมายทันที พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร สามารถใช้เป็นเหตุผลที่จะยกขึ้นต่อสู้ในชั้นศาลได้


 


นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ที่กมธ.เห็นว่าเป็นปัญหาคืออำนาจของฝ่ายตุลาการ ที่มีมากเกินไป เข้าไปเป็นกรรมการสรรหาองค์กรต่างๆ ทำให้โครงสร้าง 3 อำนาจอธิปไตย ไม่สมดุล นอกจากนี้บทเฉพาะกาลที่ให้องค์กรอิสระ อย่างคณะกรรมการป้องกันการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) อยู่ในตำแหน่งจนครบวาระ ก็เป็นเรื่องแปลกที่กลไกทุกอย่างในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้เริ่มต้นใหม่ แต่องค์กรอิสระกลับยังอยู่ได้อีก 6 ปีและ 9 ปี ดังนั้น ต้องแก้รัฐธรรมนูญให้องค์กรเหล่านี้หมดวาระ โดยเมื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญเสร็จสิ้น ป.ป.ช. และ กกต. จะต้องสรรหาใหม่ ทันทีภายใน 120 วัน เข้าใจว่าต้องอยู่เพื่อจัดการกับ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ต้องเคารพหลักการถ้าอยากจัดการต้องปล่อยให้คนอื่นมาจัดการส่วนตัวเองต้องหมดวาระไปจึงจะถูกต้อง


 


"เรายืนยันว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้มีปัญหาตั้งแต่ระดับโครงสร้างที่ไม่เป็นประชาธิปไตย เมื่อกมธ.ได้ผลสรุปการศึกษาวันที่ 17 ก.ย. แล้ว ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล จะนำไปพิจารณากันภายในพรรคและจะเข้าชื่อยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญตาม ม.291 เรารู้อยู่แล้วว่าจะต้องมีการต่อต้านแต่ก็ต้องทำเพราะที่ผ่านมาพรรคพลังประชาชน ในฐานะที่เป็นแกนนำรัฐบาล ถูกพรรคร่วม โดยเฉพาะพรรคชาติไทย ทวงถามทุกวันในที่ประชุมวิปว่าพรรคพลังประชาชนกล้าหรือไม่ที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายพีระพันธ์ กล่าว


 


ศาล รธน.นัด "หมัก"8ก.ย.ไต่สวนจัด "ชิมไปบ่นไป"


ผู้จัดการรายวัน - 21 ส.ค. คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่มีนายชัช ชลวร เป็นประธานได้ออกนั่งบัลลังก์เพื่อให้คู่กรณีในคำร้องที่ประธานวุฒิสภาส่งคำร้องของ ส.ว.และ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการสิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรี ของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เนื่องจากเป็นพิธีกรดำเนินรายการ ชิมไปบ่นไป ตามรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 182 วรรคหนึ่ง ( 7 ) และมาตรา 267 ประกอบ 182 วรรคสาม และมาตรา 91 ได้ตรวจพยานหลักฐานครั้งแรกก่อนเริ่มการไต่สวน


 


โดยฝ่ายผู้ร้องนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา เดินทางมาพร้อมกับผู้แทนที่รับมอบอำนาจจาก กกต. ขณะที่ฝ่ายผู้ถูกร้องคือนายสมัคร มอบอำนาจให้ นายธนา เบญจาธิกุล อดีตทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นทนายความมาดำเนินการ ซึ่งหลังจากคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย ได้ตรวจสอบพยานหลักฐาน ทั้งพยานเอกสาร พยานบุคคล พยานวัตถุมาแสดงต่อกัน อาทิ คำชี้แจงจากผู้แทนกรมสรรพากร ผู้แทนจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และผู้แทนจากบริษัท เฟซ มิเดีย จำกัด เจ้าของรายการ  ชิมไปบ่นไป แล้ว นายนายอุดมศักดิ์ นิติมนตรี ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้สอบถามคู่กรณีว่า จะคัดค้านพยาน ในส่วนใดบ้าง ปรากฏว่าคู่กรณีทั้ง 2 ไม่ติดใจในพยานของแต่ละฝ่าย และขอคัดสำเนาเอกสารบางส่วนที่เกี่ยวกับรายการเสียภาษี ซึ่งทางคณะตุลาการฯก็อนุญาต ตามที่ขอ พร้อมแจ้งว่า หากคู่กรณีต้องการที่จะโต้แย้งพยานในส่วนใดก็สามารถ ยื่นร้องคัดค้านได้ภายในวันที่ 22 ส.ค.นี้


 


กกต. ตั้งอนุกรรมการสอบ "เมียหมอเลี้ยบ" ถือหุ้นเอกชน


เว็บไซต์แนวหน้า - นายประพันธ์  นัยโกวิท กกต.ด้านบริหารการเลือกตั้ง เปิดเผยว่า  ที่ประชุมกกต.ได้พิจารณาตั้งคณะอนุกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.ระบบสรรหา ร้องให้กกต.สอบกรณีที่ภรรยาของนพ. สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี  รมว.คลัง ถือหุ้นในบริษัทๆ เอกชน เกินกว่ากฎหมายกำหนด และตั้งอนุกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงข้อร้องเรียนกรณีพล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ  รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทยขาดคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรี เนื่องจากศาลได้พิพากษาจำคุกแต่อยู่ระหว่างการรอลงอาญา ซึ่งจะทำให้ขาดคุณสมบัติความเป็นรัฐมนตรีหรือไม่  ในขณะที่การสอบสวนการถือหุ้นของ ส.ส.และ ส.ว. ตามที่นายศุภชัย  ใจสมุทร  ที่ปรึกษากฎหมายพรรคพลังประชาชน ร้องให้กกต.สอบนั้น หลังจากครบกำหนด  15 วัน ได้ขอขยายเวลาสอบสวนออกไปอีก เหมือนกับกรณีของนายชัย ชิดชอบ ที่ถือครองหุ้นที่ได้สัมปทานจากรัฐ


 


 "ยอมรับว่าเรื่องร้องเรียนที่ให้กกต.สอบนั้น ยังค้างอยู่ในการพิจารณาของอนุกรรมการสอบสวนหลายเรื่อง ซึ่งก็ต้องเห็นใจเพราะทุกเรื่องมีข้อมูลจำนวนมาก  ตอนนี้งานล้นมือกกต.มาก ก็ต้องขอเวลา แต่ไม่มีการยื้อแน่นอน"  นายประพันธ์ กล่าว


 


ด้านนายสุเมธ อุปนิสากร กล่าวถึงความคืบหน้า ส.ส.-ส.ว.ที่ถือหุ้นเกิน 5 % ว่า เราตั้งคณะอนุกรรมการสืบสวนสอบสวนให้เวลา 30 วัน ตอนนี้ไปถึงแล้วไม่รู้ แต่เราก็เร่งเขาอยู่แล้ว อยากลืมว่าไม่ได้ขึ้นอยู่กับคณะอนุฯ ไต่สวนอย่างเดียว แต่ขึ้นอยู่กับพยานคนที่ร้องเรียน  และฝ่ายที่ถูกร้องเรียนก็ต้องเอาพยานมา บางครั้งฝ่ายที่ถูกร้องเรียนก็จะขอเลื่อนเพราะติดธุระบ้าง


 


"เตช" โยนเผือก"สมัคร"ยึดพาสปอร์ต"ทักษิณ"


เว็บไซต์คมชัดลึก - 21ส.ค. นายเตช บุนนาค รมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงการดำเนินการถอนหนังสือเดินทางพิเศษการทูต (พาสปอร์ตแดง) ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้มีหนังสือตอบกลับมาที่กระทรวงฯแล้วเมื่อวันที่ 18 ส.ค. โดยศาลได้แจ้งลำดับเหตุการณ์จนกระทั่งออกหมายจับพ.ต.ท.ทักษิณ ให้ทราบ


 


และเมื่อวันที่ 20 ส.ค. กระทรวงได้พิจารณาเรื่องนี้ตลอดทั้งวัน จนกระทั่งวันนี้กระทรวงได้มีหนังสือกราบเรียนไปยังนายกรัฐมนตรีว่า จะมีบัญชาเกี่ยวกับพาสปอร์ตของพ.ต.ท.ทักษิณ อย่างไร


 


นายเตช กล่าวว่า ในหนังสือที่ส่งถึงนายกฯนั้น  ตนได้ให้ข้อเท็จจริงและประเด็นกฎระเบียบว่าด้วยหนังสือเดินทางการทูตไปด้วย ส่วนจะใช้ระยะเวลาในการดำเนินงานจนทราบผลเมื่อไรนั้น สุดแล้วแต่นายกรัฐมนตรี เพราะหนังสือได้ออกไปจากกระทรวงการต่างประเทศแล้ว


 


เมื่อถามว่า โดยระเบียบของกระทรวงการต่างประเทศ สามารถถอนพาสปอร์ตได้หรือไม่ นายเตช กล่าวว่า ในสมัยรัฐบาลพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี ได้มีคำสั่งยกเลิกพาสปอร์ตสีแดง ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งเป็นวาระแห่งชาติไม่ใช่เรื่องของ กระทรวงการต่างประเทศ เท่านั้น ซึ่งคราวนี้ก็เช่นเดียวกัน การยกเลิกหนังสือเดินทางของอดีตนายกฯ ขึ้นอยู่กับข้อพิจารณาและวินิจฉัยของนายกรัฐมนตรี


 


เมื่อถามว่าจะพิจารณาถอนพาสปอร์ตทางการทูตเท่านั้นใช่หรือไม่ นายเตชกล่าวว่า มีทั้งประเด็นพาสปอร์ตการทูตและพาสปอร์ตธรรมดา


 


ผู้สื่อข่าวถามว่า กระทรวงฯ จะสามารถยื่นคัดค้านการขอลี้ภัยในประเทศอังกฤษของ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้หรือไม่ นายเตช กล่าวว่า  ไม่อยู่ในวิสัยของกระทรวงที่จะคัดค้านถ้าหากว่าพ.ต.ท.ทักษิณจะขอลี้ภัย เพราะไม่ได้เป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศ แต่เป็นสิทธิส่วนบุคคล


 


เมื่อถามต่อ ว่าปกติรัฐบาลสามารถแสดงความคิดเห็นต่อการที่ประเทศใดจะให้สถานะลี้ภัยต่อพลเมืองของตนได้ นายเตช กล่าวว่า ยังไม่มีประเด็นหรือโอกาสที่จะแสดงความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าว


 


"เตช" ชี้เขมรแค่อ้างสิทธิตาเมือนธมแต่ยังไม่ปักปันเขตแดน


เว็บไซต์คมชัดลึก - 21 ส.ค. นายเตช บุนนาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่กัมพูชาอ้างสิทธิในพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ ว่า เป็นเพียงการอ้างสิทธิเท่านั้น แต่ยังไม่ได้มีการปักปันเขตแดนในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งใน 1 ปีที่ผ่านมา คณะกรรมการสำรวจและปักปันเขตแดนก็ได้พิจารณาเรื่องนี้อยู่แล้ว ภายใต้กลไกการทำงานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย - กัมพูชา (เจบีซี) เพื่อพิจารณาพรมแดนระหว่างไทยกับกัมพูชาทั้งหมด รวมทั้งได้มีการสำรวจคร่าวๆ ในพื้นที่บริเวณของปราสาทตาเมือนธมด้วย ซึ่งไม่ได้เป็นเรื่อง


 


"อภิรักษ์" ฝาก ขรก.กทม.สานต่อโครงการพระราชดำริ


เว็บไซต์คมชัดลึก - นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้(22 ส.ค.) จะทำงานในตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเป็นวันสุดท้าย


 


หลังจากครบวาระดำรงตำแหน่ง วันที่ 28 สิงหาคม 2551 โดยในวันพรุ่งนี้จะแถลงบความชัดเจนว่า จะใช้สิทธิ์ลาพักร้อน เนื่องจากในสัปดาห์หน้าจะต้องเดินทางไปทำธุระที่ต่างประเทศ หรือจะลาออกจากตำแหน่งก่อนครบวาระ


 


สำหรับการลงสู้ศึกเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครสมัยหน้านั้น ยืนยันว่า จะไม่ใช้อำนาจหน้าที่ในการชิงความได้เปรียบในการหาเสียง เหมือนที่หลายฝ่ายเป็นกังวลเพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างโปร่งใสและเป็นธรรม


 


 นายอภิรักษ์  กล่าวขอบคุณและอำลาข้าราชการอย่างเป็นทางการในโอกาสจะครบกำหนดวาระดำรงตำแหน่ง ในวันที่ 28 สิงหาคม 2551 โดยกล่าวว่า ข้าราชการทุกคนถือเป็นครอบครัวเดียวกัน และร่วมทุกข์ร่วมสุขมาตลอด 4 ปี โดยเฉพาะช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง พร้อมกล่าวขอโทษหากบางครั้งมีการกระทบกระทั่งในการทำงาน เพราะอาจมองข้ามวัฒนธรรมระบบราชการไปบ้าง


 


อย่างไรก็ตาม ผู้ว่ากรุงเทพมหานคร ฝากข้าราชการสานต่อโครงการพระราชดำริ พร้อมทุ่มเททำงานเพื่อให้คนกรุงเทพฯ มีความสุข ทั้งนี้ยอมรับว่า โครงการส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าบีทีเอส ฝั่งธนบุรี และรถบีอาร์ที ไม่สำเร็จตามที่ได้รับปากไว้


 


 






เศรษฐกิจ


 


 


คนไทยหนี้ภาคครัวเรือนพุ่ง 1.3 แสนบาท


ผู้จัดการรายวัน -  คนไทยหนี้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด เฉลี่ยแต่ละครัวเรือนเป็นหนี้ 1.35 แสนบาท เพิ่มขึ้น 15.84% เหตุรายได้น้อยกว่ารายจ่าย ทำให้ต้องกู้ยืมนอกระบบ เผยคนรายได้ต่ำกว่าเดือนละหมื่นบาทส่อแววมีปัญหามากสุด เพราะไม่สามารถชำระคืนหนี้ได้ อาจส่งผลกระทบต่อปัญหา NPL แบงก์ที่อาจถูกชักดาบ จี้รัฐเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ อัดเงินลงรากหญ้า


 


นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจสถานภาพหนี้ครัวเรือน ปี 2551 ว่า คนไทยมีการก่อหนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยสถิติเดือนส.ค.2551 คนไทยมีหนี้สินต่อครัวเรือน 135,166 บาท เพิ่มขึ้น 15.84% จากปีก่อนที่มี 116,681 บาท ทำให้ขนาดหนี้สินครัวเรือนโดยรวมเพิ่มขึ้น 16.55% มีมูลค่ารวม 2.4 ล้านล้านบาท เพิ่มจากปีก่อน 2.1 ล้านล้านบาท ซึ่งถือว่าสูงสุดในรอบ 10 ปี


 


สาเหตุที่คนไทยมีสัดส่วนการเป็นหนี้เพิ่มขึ้น เนื่องจากมีรายได้น้อยกว่ารายจ่าย เพราะค่าครองชีพเพิ่ม 75.3% ดอกเบี้ยสูง 17.2% น้ำมันแพงขึ้น 4.6% ทำให้คนส่วนมากต้องหาทางออกด้วยการกู้เงินแทน โดยเฉพาะการพึ่งเงินนอกระบบที่มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 35% สูงกว่าปี 2550 ที่มี 32.2% และปี 2549 ที่ 26.1% สวนทางกับหนี้ในระบบที่ลดลงจากปี 2549 มี 73.9% เหลือ 67.8% ในปี 2550 และปีนี้ 65% ตามลำดับ โดยวัตถุประสงค์การกู้ยืม เพื่อใช้จ่ายประจำวัน 36.81% ยานพาหนะ 26.89% ที่อยู่อาศัย 7.71% ค่ารักษาพยาบาล 14.93% และลงทุน 13.81%


 


ทั้งนี้ สิ่งที่น่าเป็นห่วง คือ ประชาชน 56.50% ระบุว่ามีหนี้เพิ่มขึ้นมากกว่ารายได้ มีเพียง 10.79% เท่านั้นที่มีรายได้สูงกว่าหนี้ ขณะที่รายได้และหนี้เพิ่มเท่ากันที่ 32.71% ซึ่งส่งผลกระทบต่อความสามารถชำระหนี้ และอาจทำให้ธนาคารพาณิชย์มีแนวโน้มมีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากกลุ่มผู้มีรายได้ต่ำไม่เกิน 10,000 บาทต่อเดือน หรือ 10,000-20,000 บาทที่ยอมรับว่ามีปัญหาการผ่อนส่งเกิน 80% ขณะที่รายได้ 20,001-50,000 บาท มีปัญหาชำระหนี้ 59-69% รายได้ 50,001-90,000 บาท มีปัญหา 56.70% และสูงกว่า 90,001 บาท มีปัญหา 40.10%


 


นายธนวรรธน์กล่าวว่า ปัญหาหนี้ครัวเรือนไม่ใช่ปัญหารุนแรง จนกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ เพราะเมื่อเทียบกับจีดีพีแล้ว จะมีสัดส่วน 25.97% เป็นระดับที่ภาครัฐบริหารได้ แต่สิ่งที่น่ากลัวคือกลายปัญหาระดับบุคคล โดยเฉพาะผู้มีรายได้ต่ำ ที่จะลุกลามต่อความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในอนาคต และทำให้บรรยากาศการบริโภคภายในซบเซาต่อไป แม้ตัวเลขจีดีพีปีนี้จะโต 5.5% แต่ไม่ช่วยให้คนระดับล่างมีรายได้เพิ่ม เพราะรายได้หลักจะตกอยู่กับธุรกิจขนาดใหญ่เท่านั้น ดังนั้น ภาครัฐต้องใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ และกระจายงานลงสู่รากหญ้ามากขึ้น ผ่านโครงการเมกกะโปรเจคท์ต่างๆ


 


อย่างไรก็ตาม คาดว่าการใช้จ่ายครัวเรือนในอนาคตมีแนวโน้มลดลงอีก เพราะกว่า 60% ระบุว่าของแพงทำให้ต้องประหยัด และไม่ต้องการกู้ยืมเพิ่มแล้ว เพราะตอนนี้กู้เต็มพิกัดแล้ว นอกจากนี้ คนส่วนใหญ่กังวลปัญหาเศรษฐกิจในประเทศ และหนี้สาธารณะของประเทศ แต่ไม่ได้กลัวปัญหาหนี้ครัวเรือน ส่วนความเห็นต่อนโยบาย 6 มาตรการ 6 เดือนของรัฐ มีมากกว่า 60% ระบุว่าพอใจมาก และได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง เพราะช่วยลดรายจ่าย ในช่วงค่าครองชีพที่สูง


 


เทกระจาดอีก 4.8 พันล้านช่วยเอสเอ็มแอลอีกรอบ


เดลินิวส์ - นายสุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกฯและรมว.คลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้านและชุมชน (เอสเอ็มแอล) ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ได้เห็นชอบการโอนเงินงบประ มาณอีกจำนวน 4,800 ล้านบาท ให้กับหมู่บ้านและชุมชนเมืองอีกกว่า 21,000 แห่งทั่วประเทศ ที่ยังค้างอยู่ให้แล้วเสร็จภายในสิ้นเดือน ส.ค. นี้ เมื่อรวมกับเงินงบประมาณที่ได้โอนให้กับหมู่บ้านไปแล้วจำนวน 15,270 แห่ง วงเงินประมาณ 4,448.05 ล้านบาท และหมู่บ้านและชุมชนเมืองที่ได้รับงบประมาณจากโครงการอยู่ดีมีสุขไปแล้วก่อนหน้านี้ เท่ากับว่ารัฐบาลจัดสรรให้กับหมู่บ้านและชุมชนเมืองที่ได้รับการจัดสรรกว่า 90%


 


อย่างไรก็ตาม เป้าหมายของรัฐบาลต้องการโอนเงินให้กับหมู่บ้านและชุมชนเมืองประมาณ 40,000 แห่งทั่วประเทศในปีงบประมาณ 51 ที่ได้รับเป็นเงินประมาณ 10,000 ล้านบาท ส่วนในปีงบประมาณ 52 ได้ตั้งงบประมาณไว้อีกจำนวน 15,000 ล้านบาท เพื่อจัดสรรให้กับหมู่บ้านตามขนาดเอสเอ็มแอล โดยยืนยันว่าในปี 52 ยังคงใช้วงเงินที่จัดสรรให้กับหมู่บ้านแต่ละขนาดตามเดิม คือ ขนาดเอส 1 จำนวน 1-50 คน ได้รับงบประมาณ 50,000 บาท, ขนาดเอส 2 จำนวน 51-150 คน ได้รับ 1 แสนบาท ขนาดเอส 3 จำนวน 151-250 คน ได้รับ 1.5 แสนบาท ขนาดเอส  251-500 คน ได้รับ 2 แสนบาท ขนาดเอ็ม 501-1,000 คน ได้รับ 2.5 แสนบาท ขนาดแอล 1,000-1,500 คน ได้รับ 3 แสนบาท ขนาดเอ็กซ์แอล จำนวน 1,501 คน ขึ้นไป ได้รับ 3.5 แสนคน


 


ธาริษาชี้ฝรั่งขายหุ้นฉุดบาท


ผู้จัดการรายวัน - นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ค่าเงินบาทในขณะนี้ยังเคลื่อนไหวเกาะกลุ่มในภูมิภาค โดยอ่อนค่าในระดับกลางเมื่อเทียบกับเงินสกุลอื่น การเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในขณะนี้เริ่มอ่อนค่าลดลง หลังจากในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาอ่อนค่าลงมาก เนื่องจากช่วงดังกล่าวต่างชาติขายหุ้นและนำเงินออกนอกประเทศ ทั้งนี้ ธปท.จะเข้าไปดูแลเฉพาะในช่วงที่มีความผันผวนมาก


 


"ขณะนี้ค่าเงินบาทไทยอยู่ระดับกลางๆ เมื่อเทียบกับประเทศแถบภูมิภาคเอเชีย นับตั้งแต่ต้นปี 51 ที่ผ่านมา เงินบาทอ่อนค่าประมาณ 1%เศษ ซึ่งประเทศในภูมิภาคเอเชียมีเพียงมาเลเซียเท่านั้นที่มีค่าเงินอ่อนน้อยกว่าที่ระดับ 0.8% ที่เหลืออ่อนกว่าเรา เช่น ค่าเงินเกาหลี 10% อินเดีย ฟิลิปปินส์ อ่อนค่า 9% ขณะเดียวกันประเทศที่ค่าเงินแข็งบ้าง เช่น สิงคโปร์และอินโดนีเซีย 1-2% ส่วนจีนแข็งค่าสุดในภูมิภาคที่ 6% จึงสบายใจได้ว่าแนวโน้มค่าเงินบาทยังคงเกาะกลุ่มไปกับประเทศในภูมิภาคเอเชีย" นางธาริษากล่าวและว่า แม้อัตราเงินเฟ้อเริ่มมีแนวโน้มลดลงบ้างแล้ว ทำให้ความจำเป็นในการดำเนินนโยบายการเงินด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนั้น ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ซึ่งต้องมีการประเมินข้อมูลล่าสุดที่มีอยู่ในช่วงสถานการณ์นั้นๆ รวมทั้งด้านความเสี่ยงการเจริญเติบโตเศรษฐกิจ การคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในอนาคต และปัจจัยภายในและนอกต่างประเทศ อีกทั้งปัจจัยค่าเงินที่อ่อนลงจะมีแรงกดดันให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นในอนาคตด้วย


 


ส่งออก-นำเข้าแข่งทำสถิติ ก.ค.ขาดดุลพันล้านเหรียญ


ผู้จัดการรายวัน - นายศิริพล ยอดเมืองเจริญ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกสินค้าไทยในเดือนก.ค.มีมูลค่า 16,957.4 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 43.9% เป็นการส่งออกที่มีมูลค่าเกิน 16,000 ล้านเหรียญสหรัฐติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 และทำสถิติส่งออกสูงสุดเป็นเดือนที่ 3 นับจากเดือนพ.ค.ที่ส่งออกได้มูลค่า 15,463.2 ล้านเหรียญสหรัฐ เดือนมิ.ย.ส่งออกมูลค่า 16,268.1 ล้านเหรียญสหรัฐ


 


ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 17,984.3 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 55.1% ส่วนใหญ่เป็นการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้น โดยเชื้อเพลิงนำเข้ามูลค่า 4,203 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 98.24 % และยังมีการนำเข้าแท่งขุดเจาะ มูลค่า 200 ล้านเหรียญสหรัฐ และก๊าซแอลพีจี 200 ล้านเหรียญสหรัฐ จากเดิมที่ไม่มีการนำเข้า ทำให้ในเดือนนี้ไทยขาดดุลการค้า 1,026.9 ล้านเหรียญสหรัฐ


 


 "ส่งออกเดือนก.ค. ทำสถิติส่งออกสูงสุดอีกเป็นเดือนที่ 3 หลังจากเคยทำได้ในเดือนพ.ค. และเดือนมิ.ย. และตัวเลขรวม 7 เดือนส่งออกเพิ่มขึ้น 26.1% ซึ่งมั่นใจว่าการส่งออกทั้งปีจะเป็นไปตามเป้าหมายทางการ 12.5% แน่นอน ส่วนเป้าพยายามที่ 15% และเป้าพยายามพิเศษตามนโยบาย รมว.พาณิชย์ ที่ 20% จะพยายามทำอย่างเต็มที่ เพราะในช่วงเวลาที่เหลือ ยังมีเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงได้ตลอด"นายศิริพลกล่าว


 


การส่งออกในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ก.ค.) มีมูลค่ารวม 104,170 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 26.1% คิดเป็น 60.9% ของเป้าหมายการส่งออกรวม การนำเข้ามีมูลค่า 106,264.1 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 36.8% ขาดดุลการค้าเป็นมูลค่า 2,094.2 ล้านเหรียญสหรัฐ


 


นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กล่าวว่า การส่งออกเดือนก.ค.ที่เพิ่มสูงขึ้นนั้น เป็นการส่งออกเพิ่มขึ้นทุกหมวดสินค้า โดยเฉพาะสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร การส่งออกมีมูลค่า 3,063 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 71.8% โดยสินค้าสำคัญที่ส่งออกเพิ่มขึ้น ได้แก่ ข้าว เพิ่มขึ้น 212.1% ยางพารา เพิ่มขึ้น 51.9% อาหารทะเลกระป๋องแช่แข็งและแปรรูป เพิ่มขึ้น 35.7% ผัก ผลไม้สด แช่แข็ง กระป๋องและแปรรูป เพิ่มขึ้น 31.8% ไก่แช่แข็งและแปรรูป เพิ่มขึ้น 103.1%


 


การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมสำคัญรวมเชื้อเพลิง การส่งออกมีมูลค่า 12,756 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 39.4% สินค้าสำคัญที่ส่งออกเพิ่มขึ้น ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้า ยานยนต์ เม็ดและผลิตภัณฑ์พลาสติก วัสดุก่อสร้าง อัญมณี เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ น้ำมันสำเร็จรูป เคมีภัณฑ์ น้ำมันดิบ ผลิตภัณฑ์ยาง สิ่งพิมพ์และกระดาษ และเครื่องสำอาง


 


สำหรับตลาดส่งออก มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นสูงทั้งในตลาดหลักและตลาดใหม่ โดยตลาดใหม่ขยายตัวสูง 56.1% ได้แก่ ออสเตรเลีย 109% อินโดจีนและพม่า 90.8% แอฟริกา 88.3% ตะวันออกกลาง 67.2% เกาหลีใต้ 66.1% ยุโรปตะวันออก 45.6% ฮ่องกง 41.5% ลาตินอเมริกา 39% จีน 37.2% อินเดีย 13.8% และแคนาดา 13.2% ส่วนตลาดหลัก ขยายตัว 33.2% ได้แก่ อาเซียน 5 ประเทศ 61.7% ญี่ปุ่น 27.6% สหรัฐฯ 20% สหภาพยุโรป 15.1% โดยขณะนี้สัดส่วนการส่งออกไปตลาดหลักลดลงเหลือ 51.6% ตลาดใหม่เพิ่มเป็น 48.4%


 


จากตัวเลขการส่งออกในช่วง 7 เดือนแรกขยายตัวแล้ว 26.1% ซึ่งหากในช่วง 5 เดือนที่เหลือส่งออกได้เดือนละ 13,887 ล้านเหรียญสหรัฐ การส่งออกทั้งปีจะขยายตัว 12.5% มีมูลค่ารวม 171,107 ล้านเหรียญสหรัฐ หากส่งออกได้เดือนละ 14,148 ล้านเหรียญสหรัฐ การส่งออกจะขยายตัว 15% มีมูลค่ารวม 174,910 ล้านเหรียญสหรัฐ และหากส่งออกได้เดือนละ 15,668 ล้านเหรียญสหรัฐ การส่งออกจะขยายตัว 20% มีมูลค่ารวม 182,514 ล้านเหรียญสหรัฐ


 


 


 






ต่างประเทศ


 


เร่งหาสาเหตุเครื่องบินสเปนตก ขณะขึ้นจากรันเวย์'ตาย'153ศพ


ผู้จัดการรายวัน - เอเอฟพี/รอยเตอร์ - ทีมสืบสวนเร่งหาสาเหตุเครื่องบินท่องเที่ยวของสเปนเกิดระเบิดไฟลุกท่วมขณะกำลังทะยานขึ้นจากรันเวย์สนามบินมาดริดเมื่อวันพุธ (20) ซึ่งนับเป็นหายนภัยทางอากาศครั้งร้ายแรงที่สุดของสเปนในรอบหลายทศวรรษ และมีผู้เสียชีวิตถึง 153 คน


 


สื่อของสเปนอ้างคำพูดของผู้เห็นเหตุการณ์ที่ระบุว่า เครื่องบินเอ็มดี-82 ของสายการบินสแปนแอร์ ซึ่งกำลังออกเดินทางไปยังเมืองลัส ปัลมัส ในหมู่เกาะคานารี เกิดมีเปลวไฟลุกที่เครื่องยนต์เครื่องหนึ่งขณะกำลังพยายามทะยานตัวขึ้นจากสนามบินมาดริด-บาราคัสเมื่อเวลา 14.45 น. ของวันพุธ (ตรงกับ 19.45 น.เวลาเมืองไทย) หลังจากนั้นเครื่องบินก็เบี่ยงออกนอกรันเวย์ไปทางขวา และต่อมาเปลวไฟก็ลุกท่วมลำตัวเครื่องบินอย่างรวดเร็ว


 


มักดาเลนา อัลบาเรซ รัฐมนตรีกระทรวงการขนส่งของสเปนระบุว่ามีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 153 คน บาดเจ็บ 19 คน และอีกสองคนยังไม่มีข้อมูล เที่ยวบินดังกล่าวมีผู้โดยสาร 162 คน ลูกเรือ 10 คน โดยลูกเรือ 4 คนเดินทางในฐานะผู้โดยสาร และในกลุ่มผู้โดยสารก็มีเด็ก 22 คนและทารกอีก 2 คน


 


อัลบาเรซกล่าวว่า ขณะเกิดเหตุเครื่องเอ็มดี-82 เครื่องนี้เพิ่งจะทะยานตัวขึ้น แต่ยังไม่ชัดเจนว่าล้อหลังพ้นจากพื้นดินหรือยัง อีกทั้งก่อนหน้านี้ ในขณะที่เครื่องบินลำดังกล่าวกำลังแล่นไปตามรันเวย์ ก็ต้องเลี้ยวกลับมาเนื่องจากพบปัญหาทางเทคนิคบางอย่าง และทำให้ต้องเลื่อนกำหนดออกเดินทางไปหนึ่งชั่วโมง


 


ผู้เชี่ยวชาญบางรายบอกว่า ลำพังเปลวไฟที่เครื่องยนต์ไม่ใช่สาเหตุที่หนักแน่นพอสำหรับอุบัติเหตุในครั้งนี้ นอกจากนั้นเครื่องบินที่มีปัญหาการสูญเสียกำลังเครื่องยนต์ด้านซ้ายก็น่าจะเบี่ยงตัวไปทางซ้ายมากกว่าทางขวาด้วย


 


ขณะนี้เจ้าหน้าที่พบกล่องดำสองกล่องแล้ว และกำลังวิเคราะห์หาสาเหตุการระเบิดอยู่ สื่อสเปนรายงานอีกว่า นักบินได้ส่งสัญญาณแจ้งว่าเครื่องวัดอุณหภูมิภายนอกทำงานผิดปกติทั้งๆ ที่เพิ่งซ่อมไปก่อนที่จะนำเครื่องออกเดินทาง อย่างไรก็ตาม ทางการได้ตัดประเด็นการก่อการร้ายออกไป และยืนยันว่าเป็นอุบัติเหตุแน่นอน


 


ที่สนามบินมาดริด บรรดาญาติมิตรของผู้ที่อยู่บนเครื่องบินลำดังกล่าวต่างเฝ้ารอข่าวอยู่ในห้องพักพิเศษ โดยมีพวกพระและนักจิตวิทยามาช่วยดูแลทางจิตใจ ขณะเดียวกันก็มีญาติมิตรอีกส่วนหนึ่งที่รอข่าวอยู่ที่สนามบินปลายทางที่ลัส ปัลมัสด้วย


 


ผู้อำนวยการสำนักงานบริการฉุกเฉินและให้ความช่วยเหลือในมาดริดบอกว่าศพผู้เสียชีวิตกระจัดกระจายอยู่เป็นบริเวณกว้าง แต่ผู้รอดชีวิตบางรายก็สามารถเดินหนีออกมาจากจุดเกิดเหตุได้เอง


 


ด้านสแปนแอร์ ซึ่งเป็นสายการบินอันดับสองของสเปนรองจากสายการบินไอบีเรีย ได้เผยแพร่รายชื่อของผู้โดยสารในตอนสายของวันพุธ แต่ไม่ได้ระบุสัญชาติ ขณะที่ สื่อของสเปนระบุว่าในบรรดาผู้รอดชีวิตเป็นชาวเยอรมนี 4 คน สวีเดน 2 คน ชิลี 1 คน และโคลอมเบีย 1 คน


 


สายการบินสแปนแอร์แจ้งด้วยว่าเครื่องบินลำนี้มีอายุ 15 ปีแล้ว และเป็นเครื่องที่ซื้อต่อมาจากสายการบินเกาหลีเมื่อ 9 ปีก่อน และเพิ่งทำการปรับปรุงเครื่องยนต์ไปในปีนี้


 


มาร์คุส เฮดบล็อม กรรมการผู้จัดการใหญ่ของสแปนแอร์กล่าวถึงอุบัติเหตุครั้งนี้ว่า "เป็นอุบัติเหตุร้ายแรงที่สุดจะเกิดขึ้น" และเขาได้แสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เคราะห์ร้ายด้วย


 


ส่วนสายการบินเอสเอเอสของสแกนดิเนเวียซึ่งเป็นเจ้าของสายการบินสแปนแอร์ระบุว่าได้จัดทีมผู้เชี่ยวชาญพิเศษเพื่อสืบหาสาเหตุที่กรุงมาดริดแล้ว ขณะที่บริษัทโบอิ้ง ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องบินแมคดอนเนล ดักลาส ก็ได้เสนอให้ความช่วยเหลือแก่สเปนในด้านการสืบหาสาเหตุของการระเบิดด้วยเช่นกัน


 


สเปนแอร์ เป็นสายการบินโลว์คอสต์ที่กำลังต้องดิ้นรนหนัก จากต้นทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่แพงขึ้นมากขณะที่การแข่งขันก็เป็นไปอย่างดุเดือด โดยสายการบินเพิ่งประกาศเลย์ออฟพนักงาน 1,062 คน และลดเส้นทางบิน หลังขาดทุน 81 ล้านดอลลาร์ในครึ่งแรกของปีนี้


 


ไม่กี่ชั่วโมงก่อนเกิดอุบัติเหตุคราวนี้ พวกนักบินของสเปนแอร์ได้ขู่จะนัดหยุดงาน เอสเอเอสนั้นพยายามขายสายการบินแห่งนี้มาตั้งแต่ปีที่แล้ว


 


มาเลย์จับ ส.ส.ฝ่ายค้านรับสินบน


เดลินิวส์ -  รัฐบาลมาเลเซียจับ ส.ส.ฝ่ายค้าน 2 คน ฝ่ายค้านผวาเป็นการทำลายคะแนนนิยมของนายอันวาร์ก่อนการเลือกตั้งซ่อมสัปดาห์หน้า


 


สำนักงานปราบปรามการคอร์รัปชั่นของมาเลเซีย จับกุมตัวสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2 คนจากพรรคฝ่ายค้านของนายอันวาร์ อิบราฮิม ในข้อหารับสินบนเมื่อวันพุธ ทำให้การหวนคืนสู่รัฐสภาอีกครั้งของนายอันวาร์มีความยุ่งยากมากขึ้น ทั้งนี้ กลุ่มฝ่ายค้านแสดงความวิตกกังวลว่า การจับกุมตัวสมาชิกฝ่ายค้านครั้งนี้ จะเป็นการบ่อนทำลายคะแนนนิยมของนายอันวาร์ก่อนการเลือกตั้งซ่อมสมาชิกรัฐสภาในสัปดาห์หน้านี้ นายอันวาร์กล่าวหามาตลอดว่า รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีอับดุลลาห์ อาหมัด บาดาวี ประพฤติคอร์รัปชั่นอย่างแพร่หลาย และให้คำมั่นว่าจะยึดอำนาจได้ภายในกลางเดือน ก.ย. นี้


 


สำนักงานปราบปรามการคอร์รัปชั่น แถลงว่า ทางสำนักงานได้จับกุมตัว ส.ส.ฝ่ายค้าน 2 คน และผู้ต้องสงสัยอีก 4 คนในรัฐเประ ทางตอนเหนือของประเทศ ในข้อหามีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการที่อยู่อาศัยมูลค่า 180 ล้านริงกิต หรือ 56 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และคดีทางเพศ 1 ใน ส.ส. 2 คนถูกจับตัวไม่นาน หลังจากรับสินบนเป็นเงินกว่า 123,400 ริงกิต (38,500 ดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อแลกกับการผลักดันกระบวนการของโครงการที่อยู่อาศัยให้เร็วขึ้น แต่ยังไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับข้อกล่าวหาทางเพศของ ส.ส. อีกคนหนึ่ง


 


เจ้าหน้าที่สำนักงานปราบปรามการคอร์ รัปชั่น ซึ่งไม่เปิดเผยชื่อ กล่าวว่า ส.ส. ทั้ง 2 คนสังกัดพรรคความยุติธรรมของประชาชนของนายอันวาร์ แต่เขาปฏิเสธว่า การกวาดล้างการคอร์รัปชั่น มาจากแรงกระตุ้นทางการเมือง อย่างไรก็ตาม การ จับกุมดังกล่าวอาจสกัดเส้นทางสู่รัฐสภาของนายอันวาร์ ซึ่งกำลังต่อสู้กับคดีรักร่วมเพศ ที่เขากล่าวหารัฐบาลว่าจ้องทำลายชื่อเสียงของเขา แต่รัฐบาลปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net