นายดำเนิน วรพันธ์  รองประธารกลุ่มคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน อ.ปะทิว กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า เจ้าหน้าที่ของ กฟผ.ได้เข้ามทอดผ้าป่าที่วัดหินกบ และวัดเอราวัณ เมื่อชาวบ้านรู้ข่าวจึงได้ทำการปิดล้อมศาลาวัดเอราวัณไม่ให้ออกไป เริ่มต้นจากชาวบ้าน 20 คนจนขยายเป็นประมาณ 500 คน โดยยื่นข้อเรียกร้องกับผู้ว่า กฟผ.ยุติการส่งเจ้าหน้าที่ลงมาทำกิจกรรม บริจาค ทำบุญ เพื่อสร้างมวลชนในพื้นที่ นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้ยกเลิกโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน 4,000 เมกะวัตต์ที่จะมีขึ้นในหมู่ที่ 5,6 อ.ปะทิว รวมถึงโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ กฟผ.มีแผนจะก่อสร้างในพื้นที่ปะทิวเช่นกัน

ดำเนินกล่าวต่อว่า ในช่วงดึก เมื่อผู้ว่า กฟผ.ไม่สามารถเดินทางมาได้ นายการัณย์ ศุภกิจวิเลขการ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพรจึงได้ลงมาไกล่เกลี่ยและเป็นตัวประสานโทรศัพท์คุยกับผู้ว่า กฟผ. โดยผู้ว่า กฟผ.รับปากจะดำเนินการตามที่ชาวบ้านเรียกร้อง ชาวบ้านจึงยกเลิกการปิดล้อมศาลาวัดและสลายตัวไป ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้เคยมีการจัดเวทีประชาสัมพันธ์โครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินของ กฟผ. เมื่อวันที่ 27 พ.ย.ที่ผ่านมา และชาวบ้านได้ยื่นข้อเรียกร้องให้ยุติการลงมาทำกิจกรรมระดมมวลชนและสร้างความแตกแยกในพื้นที่ไปแล้วครั้งหนึ่ง หลังจาก กฟผ.ในเริ่มดำเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่องในพื้นที่มา 3-4 เดือนแล้ว โดยเฉพาะการพาผู้นำท้องถิ่น สื่อท้องถิ่น ไปดูงานและจัดเลี้ยงหลายต่อหลายครั้ง

ดำเนินระบุด้วยว่า ขณะนี้กลุ่มคัดค้านได้ขยายตัวไปยังตำบลข้างเคียงหลายตำบล และคงต้องเร่งรณรงค์ทำความเข้าใจกับชาวบ้านถึงผลกระทบของโรงไฟฟ้าถ่านหินและนิวเคลียร์ขนาดมหึมานี้ เพราะชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมงชายฝั่ง และทำการเกษตร ไม่ว่าจะเป็นสวนปาล์ม สวนยางพารา อย่างไรก็ตาม กฟผ.ยังไม่มีพื้นที่ของตนเองแต่อยู่ระหว่างการเสนอซื้อที่ดินจากชาวบ้าน