นายกฯ ประกาศยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน จ.ชลบุรี

เมื่อวันที่ 11 เมษายน เวลา 19.20 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ประกาศยกเลิการใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในพื้นที่เมืองพัทยา และจ.ชลบุรี อ้างเหตุส่งผู้นำอาเซียนกลับหมด จึงไม่จำเป็นต้องประกาศใช้ต่อ

"สุเทพ"เผยนายกฯ เตรียมยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินหลังส่งผู้นำ

เมื่อเวลา 17.30 น. ที่โรงแรมรอยัลคลิฟ บีช รีสอร์ท พัทยา นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี  ได้แถลงข่าวถึงกรณีที่กลุ่มเสื้อแดงเข้ามายังภายในโรงแรมรอยัลคลิฟ บีช รีสอร์ท พัทยา ว่า รัฐบาลมีความจำเป็นที่จะต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน  เนื่องจากได้มีกลุ่มชุมนุมคนเสื้อแดงได้แสดงอาการคุกคาม  บุกรุกเข้าไปจนถึงภายในโรงแรม และได้สร้างตระหนกตกใจให้กับ ผู้เข้าร่วมประชุม ผู้นำประเทศที่เข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนและประเทศคู่เจรจากับอาเซียนทั้งหลาย จนทำให้การประชุมไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ นายกรัฐมนตรีจึงมีความจำเป็นต้องประกาศเลื่อนการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนออกไป และได้ขอโทษผู้นำทั้งหลายที่ได้เกิดเหตุเช่นนี้ขึ้น และได้ตัดสินใจประกาศภาวะสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อที่จะใช้อำนาจในการจัดการกับกลุ่มผู้ชุมนุม

ทั้งนี้ โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญคือการคุ้มครองอารักขาผู้นำประเทศต่างๆ ให้สามารถเดินทางกลับสู่ประเทศได้ สำหรับการอพยพผู้นำได้ทำตามขั้นตอนกระบวนการทุกอย่างตั้งแต่การใช้เฮลิคอปเตอร์ ทางอากาศ ทางเรือ และทางรถยนต์ ซึ่งผู้นำประเทศสุดท้ายคือท่านสุลต่านแห่งบรูไนได้เดินทางออกจากสถานที่ประชุมเรียบร้อยแล้ว ภารกิจของรัฐบาลในการคุ้มครองอารักขาผู้นำประเทศต่าง ๆ เป็นอันสิ้นสุด หลังจากนี้นายกรัฐมนตรีจะได้พิจารณายกเลิกภาวะสถานการณ์ฉุกเฉิน                  

รองนายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า ตลอดวันนี้ได้มีกระแสข่าวเกิดขึ้นซึ่งบิดเบือนไปจากข้อเท็จจริงที่อ้างว่า มีการต่อสู้กันระหว่างเจ้าหน้าที่ของรัฐกับผู้ร่วมชุมนุมนั้นว่า รัฐบาลนี้ได้ใช้ความอดทนอดกลั้นอย่างยิ่ง เจ้าหน้าที่ของรัฐทุกคนไม่ว่าจะเป็นพลเรือน ตำรวจหรือทหารไม่มีผู้ใดพกพาอาวุธ มีเฉพาะโล่  และกระบองเท่านั้น เจ้าหน้าที่ของรัฐได้รับการกำชับไม่ให้ทำร้ายประชาชนและให้อยู่ในระเบียบวินัยอย่างเคร่งครัด กรณีทีได้มีการปะทะกันนั้นเป็นเรื่องของกลุ่มเสื้อแดงที่เข้าไปทำร้ายประชาชนที่อยู่ในจังหวัดชลบุรี พัทยา ทำให้บาดเจ็บไปหลายคน มีผู้ที่เจ็บสาหัส 1 ราย ถูกยิงที่ช่องท้องและได้นำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลกรุงเทพ-ชลบุรี ทราบชื่อภายหลังว่าชื่อนายสนิท แก้วศรี ประชาชนจังหวัดปราจีนบุรี และมาประกอบอาชีพที่เมืองพัทยา โดยได้รับการผ่าตัดและอยู่ในขั้นปลอดภัยแล้ว โดยไม่ปรากฏว่ามีคนใส่เสื้อแดงได้รับบาดเจ็บและไปรับการรักษาพยาบาล                   

รองนายกรัฐมนตรีกล่าวย้ำว่า รัฐบาลเสียใจที่การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนสะดุดลง ทำให้ประเทศชาติทั้งประเทศไทยและประเทศสมาชิกอาเซียนทั้งหลายต้องเสียประโยชน์จากการร่วมมือในการทำการค้าระหว่างกันแต่ก็หวังว่าสถานการณ์ทุกอย่างจะกลับคืนสู่ความสงบ 
 
"ขณะนี้ได้ส่งสุลต่านบรูไนไปที่สนามบินอู่ตะเภาแล้ว โดยนายกฯก็อยู่ที่สนามบิน เพื่อรอส่งนายกฯเกาหลีใต้และญี่ปุ่น" นายสุเทพ กล่าว

ปชป.ออกแถลงการณ์-แจงใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

แถลงการณ์ พรรคประชาธิปัตย์  ฉบับที่ ๓

จากเหตุการณ์ที่กลุ่มผู้ชุมนุมขับไล่รัฐบาล บุกเข้าปิดล้อมและยึดสถานที่จัดประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนและประเทศคู่เจรจา จนสถานการณ์ลุกลามบานปลาย เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและสูญเสียทรัพย์สิน ทำให้รัฐบาลจำเป็นต้องเข้าระงับความเสียหายโดยใช้มาตรการทางกฎหมายที่เข้มข้นขึ้น ด้วยการประกาศพระราชกำหนดการบริหารราชการฉุกเฉินที่ร้ายแรง ในพื้นที่เมืองพัทยา และจังหวัดชลบุรีนับเป็นเหตุการณ์ร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
 

ผลพวงที่เกิดจากการกระทำดังกล่าว บัดนี้เป็นที่ประจักษ์แล้วว่าได้ก่อให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ ซ้ำเติมต่อระบบเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว การลงทุน อย่างร้ายแรงจนประเมินค่ามิได้

ที่ผ่านมาทุกภาคฝ่ายในสังคมไทยที่ปรารถนาจะเห็นความสงบสุขของบ้านเมืองได้ร่วมกันเรียกร้องต่อกลุ่มผู้ชุมนุมให้ยุติการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติโดยส่วนรวม ทั้งด้านการเมืองการปกครอง เศรษฐกิจ และสังคม แต่กลับได้รับการตอบสนองที่ตรงข้าม ด้วยการยกระดับการกดดันรัฐบาลด้วยวิธีการที่ผิดกฎหมายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่สนใจว่าประเทศชาติจะเสียหาย หรือประชาชนผู้บริสุทธิ์จะได้รับความเดือดร้อนเสียหายอย่างไร

พรรคประชาธิปัตย์รู้สึกสลดใจกับการกระทำที่มุ่งร้ายต่อส่วนรวมของกลุ่มผู้ชุมนุม โดยเฉพาะแกนนำการชุมนุม และผู้อยู่เบื้องหลัง ซึ่งแสดงออกอย่างชัดเจนว่าต้องการแต่จะบรรลุเป้าหมายของตนเองโดยไม่สนใจสิ่งใด ขณะเดียวกันจากการสดับรับรู้ความรู้สึกของพี่น้องประชาชนทั่วไปแล้วพบว่าล้วนแล้วแต่วิตกกังวลกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่ จึงขอแสดงความเห็นและท่าทีอีกครั้งหนึ่งดังนี้

๑) แม้รัฐบาลจะพยายามจำกัดสถานการณ์ด้วยการประกาศพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เฉพาะพื้นที่แล้วแต่ยังเป็นห่วงว่า กลุ่มผู้เคลื่อนไหวที่จงใจละเมิดกฎหมาย จะยังไม่ยุติการก่อเหตุร้ายให้ลุกลามบานปลาย จนอาจก่อให้เกิดภาวะสับสน จลาจลในพื้นที่อื่นๆ โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานคร และจังหวัดสำคัญๆ ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่ไม่พึงปรารถนา

๒) ในท่ามกลางความพยายามแก้ไขสถานการณ์ของรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ ยังปรากฏต่อเนื่องตลอดมาว่า แกนนำผู้เคลื่อนไหวยังแสดงพฤติกรรมยั่วยุละเมิดกฎหมาย โดยพยายามปลุกระดมผู้เข้าร่วมชุมนุมและพี่น้องประชาชนในหลายพื้นที่ให้กระทำผิดกฎหมายอย่างชัดแจ้ง สร้างความหวั่นวิตกแก่ประชาชนผู้รักสันติทั้งหลายอย่างมาก จำเป็นที่รัฐบาลเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบต้องใช้มาตรการทางกฎหมายเข้าระงับยับยั้ง ก่อนที่จะเกิดการปฏิบัติการที่ร้ายแรงดังคำข่มขู่

๓) ขอเรียกร้องไปยังพี่น้องประชาชนทุกภาคส่วนในสังคมที่ปรารถนาจะให้ประเทศกลับเข้าสู่ภาวะปกติ สงบสุข และเดินหน้าต่อไปอย่างมั่นคง ต้องร่วมกันแสดงออกถึงความไม่เห็นด้วยกับการใช้สิทธิเรียกร้องที่ไม่อยู่ภายใต้กติกาประชาธิปไตย และความสงบสุขของสังคมส่วนร่วม โดยให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบคลี่คลายปัญหาในทุกพื้นที่และทุกสถานการณ์ ไม่ตกเป็นเหยื่อของผู้ก่อเหตุรุนแรงใดๆ

๔) ขอเป็นกำลังใจให้กับผู้ได้รับผลกระทบในทุกด้านจากการกระทำของกลุ่มผู้ชุมนุมที่ละเมิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นพี่น้องประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บ สูญเสียทรัพย์สิน ผู้ประสบความยากลำบากในการเดินทาง หรือใช้ชีวิตประจำวัน ผู้ประกอบการธุรกิจ นักลงทุน นักท่องเที่ยว พี่น้องชาวต่างประเทศที่พำนักอาศัยในประเทศไทยระหว่างเกิดสถานการณ์ไม่ปกติ ขอให้จงมั่นใจว่า รัฐบาลและผู้มีหน้าที่รับผิดชอบจะดูแลแก้ไขเยียวยาผลกระทบเหล่านั้นเป็นอย่างดีต่อไป

๕) พรรคประชาธิปัตย์ จะไม่เห็นด้วยกับการกระทำ ข้อเรียกร้องหรือข้อเสนอใดๆ ที่จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง การปกครอง หรือกติกาของบ้านเมือง ซึ่งไม่เป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และวิถีทางตามระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

     พรรคประชาธิปัตย์
      ๑๑ เมษายน ๒๕๕๒ 
      เวลา ๑๖.๐๐ น.

ผู้นำอาเซียนทยอยกลับ

ผู้สื่อข่าวรายงาน เมื่อวันที่ 11 เม.ย.ว่า ความคืบหน้า ที่โรงแรมรอยัล คลิฟ บีช รีสอร์ท พัทยา จ.ชลบุรี ล่าสุดกลุ่มคนเสื้อแดงได้ออกจากโรงแรมเกือบหมดแล้ว โดยได้ประกาศชัยชนะ ขณะที่ผู้นำอาเซียนทยอยเดินทางกลับประเทศ โดยนั่งเฮลิคอปเตอร์ออกจากพื้นที่ เพื่อไปขึ้นเครื่องบินคาดว่าจะใช้สนามบินอู่ตะเภา ทั้งนี้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ได้เดินทางขึ้นเฮลิคอปเตอร์เช่นเดียวกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีด้วย

ที่มา : เว็บไซต์มติชน