นายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนมเจริญ นายกเทศมนตรีนครยะลา กล่าวถึง พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี และประธานพรรคเพื่อไทย แถลงนโยบายไทยร่มเย็นเพื่อแก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเสนอแนวทางการตั้งนครปัตตานีว่า ในฐานะผู้บริหารท้องถิ่นอยากบอกว่าวันนี้การกระจายอำนาจของไทยลงสู่ท้องถิ่นมีมากกว่าทุกประเทศ ผู้บริหารก็มาจากการเลือกตั้งโดยตรง ทุกพื้นที่มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ดูแล ถือเป็นการปกครองตนเองเช่นกัน ข้อเสนอของ พล.อ.ชวลิตจึงทำให้รู้สึกสับสนว่าตอบโจทย์อะไร กระจายอำนาจด้านใดบ้าง

"ปัญหาขณะนี้เกิดจากคุณภาพชีวิตซึ่งเกี่ยวพันโดยตรงกับ อปท.การทำให้ประชาชนมีส่วนเลือกคนดีมาปกครองน่าจะแก้ปัญหาได้ตรงจุดมากกว่า ประชาชนก็สงสัยกันว่าทำไมต้องเป็นนครปัตตานี ทำไมไม่เป็นนครสันกาลาคีรี เพราะเทือกเขาสันกาลาคีรีพาดผ่านทั้งสามจังหวัด" นายพงษ์ศักดิ์กล่าว และว่า หากนำนโยบายนี้มาใช้จริงปัญหาคงไม่สงบลงง่ายๆ เนื่องจากกลุ่มขบวนการต้องการแบ่งแยกดินแดน การปกครองตนเองจึงไม่ใช่คำตอบ ขณะเดียวกันที่เสนอมาก็ไม่มีหลักประกันว่าความไม่สงบจะลดลง เพราะผู้ก่อความไม่สงบไม่ได้ยืนยันว่าถ้าได้ปกครองตนเองแล้วเหตุการณ์จะสงบลงได้

นายกูเซ็ง ยาวอหะซัน นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นราธิวาส กล่าวว่า ไม่เห็นด้วย เพราะ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังมีปัญหาความไม่สงบและปัญหาเศรษฐกิจที่ต้องคลี่คลายให้กลับมาเป็นปกติก่อน และควรให้ประชาชนในพื้นที่มีส่วนร่วมตัดสินใจการจัดตั้งนครปัตตานีด้วย

นายอัฮหมัดสมบูรณ์ บัวหลวง อดีตคณะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ (กอส.) กล่าวว่า เป็นแนวคิดที่ดี เชื่อว่าน่าจะเป็นทางออกหนึ่ง ซึ่งปัญหาภาคใต้ต้องใช้การเมืองเป็นทางออก ต้องแปลงความคิดให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว เช่น การใช้กฎหมายอิสลามว่าด้วยครอบครัวและมรดกเต็มรูปแบบ เลิกใช้กฎหมายที่กระทบสิทธิมนุษยชน การใช้กำลังทหารมากเกินความจำเป็น ส่งเสริมการศึกษา รายได้ พัฒนาการเมืองภาคประชาชนเพื่อนำไปสู่การปกครองที่ประชาชนต้องการ