สำนักข่าวสาละวินรายงานว่า นายญีญีอ่อง นักโทษชาวพม่าที่ถือสัญชาติอเมริกันที่อดอาหารประท้วงในเรือนจำอินเส่ง ถูกย้ายไปยังห้องขังเดี่ยว ซึ่งเป็นที่รู้จักในหมู่นักโทษในชื่อ “กรงหมา” ซึ่งเป็นห้องขังที่มีสภาพเลวร้ายที่สุดในเรือนจำอินเส่ง ขณะที่นายยียีอ่องได้ยุติอดอาหารแล้วเมื่อวันที่ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมา หลังอดอาหารประท้วงเป็นเวลา 9 วัน

นางขิ่นขิ่นส่วย ป้าของนายญีญีอ่องเปิดเผยว่า นอกเหนือจากการออกไปนอกห้องขังวันละ 2 ครั้งตามกิจวัตรของนักโทษในเรือนจำแล้ว เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้นายญีญีอ่องออกจากห้องขังเดี่ยวและห้ามพูดคุยกับใคร

มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่จากสถานทูตอเมริกันและนายหน่ายวิน ซึ่งเป็นทนายความของนายญีญีอ่องได้เข้าร่วมฟังการพิจารณาคดีเมื่อวันศุกร์(18 ธ.ค.52) ที่ผ่านมา แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้พูดคุยกับนายญีญีอ่องแต่อย่างใด ด้านนางขิ่นขิ่นส่วยเชื่อว่าน่าจะเป็นการลงโทษนายยียีอ่องที่ประท้วงอดอาหารต่อรัฐบาลพม่า

นางขิ่นขิ่นส่วยยังเปิดเผยว่า นายญีญีอ่องได้ขอพบทูตอเมริกันและทนายความของเขาก่อนวันที่ 29 ธ.ค.ที่จะถึง ซึ่งเป็นวันที่จะมีการพิจารณาคิดอีกครั้งหนึ่ง ขณะที่สถานทูตอเมริกันระบุเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาว่า นายญีญีอ่องได้แสดงร่องรอยการถูกทำร้ายร่างกายในระหว่างที่ถูกกุมขังอยู่ในเรือนจำอินเส่ง

ทั้งนี้ นายญีญีอ่องหรือนายจ่อ ส่อ ลวิน เป็นอดีตนักเคลื่อนไหวจากกลุ่มแนวร่วมนักศึกษาพม่าเพื่อประชาธิปไตย (All Burma Students’ Democratic Front - ABSDF) โดยได้เดินทางลี้ภัยไปยังประเทศสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2536 ก่อนที่จะถูกจับกุมที่สนามบินย่างกุ้งเมื่อวันที่ 3 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งหลายฝ่ายเชื่อว่า อาจจะถูกตั้งข้อหาที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อการร้าย แต่ท้ายที่สุดทางการพม่าได้ตังขอหาฉ้อโกงและปลอมแปลงเอกสารซึ่งอาจต้องโทษนานถึง 17 ปี

 ด้านนายโบจี เลขาธิการร่วมสมาคมช่วยเหลือเพื่อนนักโทษการเมืองพม่า (Assistance Association for Political Prisoners-Burma - AAPP) ซึ่งเคยถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำอินเส่งเป็นเวลานาน 7 ปีเปิดเผยว่า

“ห้องขังที่นายญีญีอ่องถูกกักขังอยู่ในขณะนี้มีขนาด 10 ตารางฟุตเท่านั้นและแทบจะไม่มีแสงเล็ดลอดเข้ามา ห้องดังกล่าวถูกแยกออกจากส่วนอื่น และบางครั้งเจ้าหน้าที่ก็ไม่อนุญาตให้นักโทษออกไปอาบน้ำเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ซึ่งเจ้าหน้าที่มักวางกฎระเบียบที่เข้มงวดกว่าปกติ และนักโทษห้องนี้จะถูกทำโทษให้อยู่ในท่าที่เป็นการทรมานร่างกาย แต่ในกรณีของนายญีญีอ่อง ยังไม่ทราบว่าจะถูกปฏิบัติเช่นเดียวกันหรือไม่”

ด้านสถานทูตอเมริกันเปิดเผยว่า จะเดินหน้ากดดันทางการพม่าต่อไปเพื่อให้ได้เข้าพบกับนายญีญีอ่อง แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ จนถึงขณะนี้  ขณะที่เจ้าหน้าที่จากสถานทูตอเมริกันได้เข้าพบกับนายญีญีอ่องครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา