Skip to main content
sharethis

ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัตการตำรวจชายแดนใต้ ออกบันทึกข้อความกำชับพนักงานสอบสวนในพื้นที่ปฎิบัติเคร่งครัดแก้ปัญหาอายัดตัวซ้ำซากกับผู้ต้องหาคดีความมั่นคง หลังเกิดปัญหาซ้ำซากยาวนานในพื้นที่ชายแดนใต้ และมูลนิธิผสานวัฒนธรรมเข้าหารือแก้ปัญหา

 
รายงานข่าวแจ้งว่า พล.ต.ท ไพฑูรย์ ชูชัยยะ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัตการตำรวจชายแดนใต้ (ศชต.) ได้ออกบันทึกข้อความ ลงวันที่ 20 พ.ย.53 เรื่องข้อกำชับการอายัดตัวผู้ต้องหาโดยกำชับพนักงานสอบสวนในพื้นที่ ศชต. ให้ถือปฎิบัติโดยเคร่งครัดเพื่อแก้ปัญหาอายัดตัวซ้ำซากกับผู้ต้องหาคดีความมั่นคงในพื้นที่ ศชต.
ข้อกำหนดดังกล่าวเป็นผลมาจากที่ผ่านมาการต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรมของผู้ต้องหาคดีความมั่นคงในเรือนจำยาวนานกว่าสามปี แต่เมื่อได้รับการปล่อยตัวกลับโดนอายัดตัวในคดีความมั่นคงอีกคดี ซึ่งเป็นสภาพปัญหาที่พบบ่อยในพื้นที่ จนกระทั่งวันที่ 19 พ.ย.ที่ผ่านมา มูลนิธิผสานวัฒนธรรมและมูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิมได้เข้าพบผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัตการตำรวจชายแดนใต้เพื่อหารือแนวทางแก้ปัญหาดังกล่าว
ข้อกำหนดดังกล่าวระบุให้หน่วยงานถือปฏิบัติ ดังนี้ ให้ภูธรจังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส เป็นศูนย์กลางในการรับข้อมูลหากมีการจับบุคคลตามหมายจับจากสถานีใด ให้หัวหน้าสถานีแจ้งมาทาง ภูธรจังหวัด และภูธรจังหวัดมีหน้าที่แจ้งรายชื่อบุคคลตามหมายจับดังกล่าวไปยังสถานีตำรวจต่างๆทั่วพื้นที่ ศชต. เพื่อสอบถามเกี่ยวกับหมายจับอื่นๆ หากมี เพื่อให้รีบดำเนินการสอบสวนและดำเนินการ โดยไม่ต้องรอให้พ้นโทษคดีอื่นก่อน กรณีผู้ต้องหาอยู่คนละเขตอำนาจศาลหรือถูกคุมขังอยู่ในเขตอำนาจศาลอื่น การจะส่งสำนวนต่อพนักงานอัยการนั้นต้องมีตัวผู้ต้องหาต่อพนักงานอัยการเพื่อส่งฟ้อง  เช่น ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพื้นที่หนึ่งแต่มีคดีอยู่อีกเขตอำนาจศาล โดยหลัก มีระเบียบเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวแล้ว ว่าให้ทำการสอบสวนทันที แล้วส่งสำนวนให้อัยการพื้นที่ที่ผู้ต้องหาหรือจำเลยถูกคุมขังอยู่ เพื่อดำเนินการต่อไป
 
0000000
 
บันทึกข้อความ
ส่วนราชการ    ศชต                       โทร ๐ ๗๓๒๒ ๐๒๖๔
ที่ ๐๐๒๕.๒๒ / ๖๗๗๔                    วันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๓
เรื่อง ข้อกำชับการอายัดตัวผู้ต้องหา
เรียน ผบก.ภ.จว.ยะลา,ปัตตานี และนราธิวาส
ด้วยมูลนิธิผสานวัฒนธรรมได้เข้าพบเพื่อปรึกษากรณีการอายัดตัวผู้ต้องหาคดีความมั่นคงในพื้นที่ ศชต. กรณีผู้ต้องหาคนหนึ่งถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดในหลายคดี ต่างท้องที่ ต่างกรรม ต่างวาระ เมื่อถูกจับดำเนินคดีในคดีหนึ่งแล้ว ขณะที่ถูกควบคุมตัวหรือขังระหว่างการสอบสวนหรือระหว่างการพิจารณาคดี ผู้ต้องหาได้ถูกควบคุมตัวที่เรือนจำเป็นเวลานานนับปี พนักงานสอบสวนที่ได้ออกหมายจับผู้ต้องหาดังกล่าวไว้ในคดีหลังไม่ได้สอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ต้องหาสรุปสำนวนการสอบสวนส่งอัยการ ต่อมาเมื่อศาลมีคำพิพากษาในคดีแรกไปแล้ว พนักงานสอบสวนถึงได้แจ้งข้อกล่าวหาและขออายัดตัว ทำให้ผู้ต้องหาต้องถูกขังเพื่อรอการพิจารณาคดีในคดีที่ถูกอายัดตัวใหม่อีกหลายปี
ดังนี้ จึงขอกำชับ พงส.ในพื้นที่ ศชต.ให้ถือปฏิบัติดังนี้
. ให้พนักงานสอบสวนรีบสอบสวนดำเนินคดีกับผู้ต้องหาซึ่งถูกคุมขังในคดีอื่นให้แล้วเสร็จโดยไม่ต้องรอให้พ้นโทษในคดีเดิมก่อน และส่งสำนวนให้พนักงานอัยการโดยเร็ว โดยให้ถือปฎิบัติตามหนังสือ ตร.ที่ ๐๐๐๔.๖/๙๖๑๐ ลง ๑๖ ก.ย.๒๕๔๖ เรื่องแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการอายัดตัวผู้ต้องหาโดยเคร่งครัด
๒. ให้ หน.สภ.ฯที่ทำการจับกุมและควบคุมตัวผู้ต้องหาไว้ดำเนินคดี รายงานการจับกุมให้ ภ.จว รับทราบแล้วให้ ภ.จว.สั่งการแจ้งให้ทุก สภ.ฯ ในพื้นที่ ศชต.ตรวจสอบว่าท้องที่ใดต้องการตัวผู้ต้องหาไว้ดำเนินคดีบ้างหรือไม่ หากท้องที่ใดต้องการตัวให้รีบแจ้งอายัดตัวผู้ต้องหา แล้วรีบทำการสอบสวนปากคำผู้ต้องหาพร้อมรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติมส่งสำนวนให้อัยการโดยเร็ว
๓. การส่งสำนวนคดีที่ผู้ต้องหาบางคนถูกจำคุกตามคำพิพากษาถึงที่สุดของศาลอื่น ให้ถือปฏิบัติตามหนังสือ ตร.ที่ ๐๐๐๔.๖/๑๐๖๑๕ ลง ๒๗ ส.ค.๒๕๔๕ และการส่งสำนวนคดีที่ผู้ต้องหาถูกคุมขังอยู่ในคดีอื่นที่เรือนจำซึ่งอยู่ในเขตอำนาจศาลอื่น ให้ถือปฎิบัติตามหนังสือที่ ๐๐๐๔.๖/๖๑๖๗ ลง ๒๐ พ.ค ๒๕๔๕ พร้อมบันทึกนี้ ได้แนบหนังสือ ตร.ทั้ง ๓ ฉบับ รวมเอกสารจำนวน ๘ แผ่น มาด้วยแล้ว
เพื่อทราบและถือปฏิบัติโดยเคร่งครัด
                                    พล.ต.ท.    ไพฑูรย์ ชูชัยยะ
                                                      ผบช.ศชต
สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net