Skip to main content
sharethis

21 ม.ค.2557 หลังรัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) กินระยะเวลา 60 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 22 ม.ค. นี้ โดยพื้นที่บังคับใช้ตาม พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงฯ เดิม เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา กลุ่มพอกันที! ซึ่งเป็นกลุ่มนักกิจกรรมกลุ่มแรกที่ออกมารณรงค์จุดเทียนเพื่อเรียกร้องให้หยุดการชุมนุมที่สร้างเงื่อนไขไปสู่ความรุนแรง และเสนอให้มุ่งสู่การเลือกตั้ง 2 ก.พ. ออกแถลงการณ์แสดงความไม่เห็นด้วยกับการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เนื่องจากเห็นว่าจะยิ่งเป็นการเพิ่มความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจของผู้ชุมนุมที่มีต่อรัฐบาลมากยิ่งขึ้น และซ้ำเติมสถานการณ์ให้เลวร้ายกว่าที่เป็นอยู่ ทั้งที่ประชาชนจำนวนมากกำลังพยายามประคับประคองสถานการณ์ ด้วยการลุกขึ้นมาเรียกร้องการแก้ปัญหาความขัดแย้งอย่างสันติ โดยร่วมกันจุดเทียนทั่วประเทศ

ทั้งนี้ กลุ่มพอกันที! เสนอต่อรัฐบาลรักษาการให้ยกเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทันที พร้อมทั้งเร่งสืบสวนหาตัวคนร้ายที่ปาระเบิดใส่ผู้ชุมนุม เร่งสืบหาพยานหลักฐานและชี้แจงต่อสาธารณชนให้เป็นที่กระจ่างแก่ทุกฝ่าย โดยยึดหลักการควบคุมฝูงชนตามหลักสากล ไม่ใช้กำลังปราบปรามผู้ชุมนุม ไม่อาศัยอำนาจตาม พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ กระทำการรุนแรงเกินกว่าเหตุต่อผู้ชุมนุมทุกคน พยายามหาหนทางเจรจากับผู้ชุมนุม รวมทั้งดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยโดยคำนึงถึงชีวิตประชาชนเป็นอันดับแรกด้วย

 

สาส์นจากใจ กลุ่มพอกันที! ฉบับที่ 3
คัดค้านการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินของรัฐบาลรักษาการ

วันที่ 21 มกราคม 2557 ตามที่รัฐบาลรักษาการประกาศใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ ในการบริหารราชการแผ่นดินเป็นเวลา 60 วัน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 22 ม.ค. 2557 เป็นต้นไป

กลุ่มพอกันที! เห็นว่าความขัดแย้งทางการเมืองในปัจจุบัน ถึงแม้จะก่อให้เกิดความไม่สบายใจแก่ประชาชน มีการปะทะระหว่างผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่รัฐ เกิดเหตุการณ์ลอบปาระเบิดใส่ผู้ชุมนุม ตลอดจนพฤติกรรมของผู้ชุมนุมบางส่วนเท่านั้นที่มีแนวโน้มใช้ความรุนแรง สถานการณ์ดังกล่าวอาจสร้างความหวาดหวั่นแก่ประชาชนและเจ้าหน้าที่รัฐ แต่เราเห็นว่ายังอยู่ในวิสัยที่จะอดทนและประคับประคองสถานการณ์ไม่ให้เกิดความรุนแรงบานปลายไปมากกว่านี้ได้

กลุ่มพอกันที! เห็นว่า
1. การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินของรัฐบาลรักษาการ เป็นการแสดงท่าทีที่เป็นลบต่อผู้ชุมนุม จะทำให้สถานการณ์ยิ่งเลวร้ายลง ยิ่งเพิ่มความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจของผู้ชุมนุมที่มีต่อรัฐบาลมากยิ่งขึ้น ซ้ำเติมสถานการณ์ให้เลวร้ายกว่าที่เป็นอยู่

2. แม้รัฐบาลรักษาการจะยืนยันว่ายึดแนวทางปฏิบัติตามหลักสากลไม่ใช้กำลังสลายชุมนุม แต่การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินกลับยิ่งแสดงถึงแนวโน้มที่เจ้าหน้าที่จะใช้ความรุนแรงต่อผู้ชุมนุม ซึ่งเราไม่ปรารถนาจะเห็นความรุนแรงขยายตัวเช่นนั้น
เราไม่อยากเห็นรัฐบาลรักษาการ เดินซ้ำรอยรัฐบาลอภิสิทธิ์ในการสลายการชุมนุมเมื่อปี 2553 จนนำไปสู่การเสียชีวิตกว่า 90 ชีวิต ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าวงจรความรุนแรงยิ่งขยายตัวไม่สิ้นสุด

3. ขณะนี้ประชาชนจำนวนมากกำลังพยายามประคับประคองสถานการณ์อยู่ ดังจะเห็นได้จากความพยายามของประชาชนในหลายพื้นที่ทั่วประเทศที่ตระหนักถึงบทบาทของตนในการแก้ปัญหาโดยไม่ใช้ความรุนแรงตามวิถีทางประชาธิปไตย ได้ลุกขึ้นมาเรียกร้องการแก้ปัญหาความขัดแย้งอย่างสันติ โดยร่วมกันจุดเทียนเขียนสันติภาพไปทั่วประเทศ

เราเห็นว่าการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินของรัฐบาลรักษาการในครั้งนี้รังแต่จะเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประชาธิปไตยและการจัดการความขัดแย้งโดยไม่ใช้ความรุนแรงที่ร่วมกันประคับประคองมาตลอดหลายเดือนนี้ การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินจะมีผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของประชาชน ไม่เพียงต่อผู้ชุมนุมเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงประชาชนทั่วไปด้วย ซึ่งจะเป็นอุปสรรคต่อการมีส่วนร่วมของประชาชนในการแก้ปัญหาความขัดแย้งโดยไม่ใช้ความรุนแรงต่อไป

4. เราขอเสนอต่อรัฐบาลรักษาการดังนี้
4.1 ยกเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทันที
4.2 เร่งสืบสวนหาตัวคนร้ายที่ปาระเบิดใส่ผู้ชุมนุม เร่งสืบหาพยานหลักฐานและชี้แจงต่อสาธารณชนให้เป็นที่กระจ่างแก่ทุกฝ่าย
4.3 ยึดหลักการควบคุมฝูงชนตามหลักสากล ไม่อาศัยอำนาจตาม พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ กระทำการรุนแรงเกินกว่าเหตุต่อผู้ชุมนุม พยายามหาหนทางเจรจากับผู้ชุมนุม รวมทั้งดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยโดยคำนึงถึงชีวิตประชาชนเป็นอันดับแรก

ท้ายที่สุด กลุ่มพอกันที! ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของประชาชนที่ออกมาทำกิจกรรมจุดเทียนเขียนสันติภาพ จนส่องสว่างไปทั่วประเทศ ถือเป็นหมุดหมายอันดีของการยืนยันว่าประชาชนพลเมืองปรารถนาจะอยู่ร่วมกับความขัดแย้งอย่างสันติในสังคมประชาธิปไตยที่เราเท่ากัน

ขอวิงวอนผู้ชุมนุม กปปส. และเครือข่าย โปรดคำนึงถึงความคิดเห็นที่แตกต่างหลากหลายของประชาชนพลเมืองร่วมสังคมนี้ หยุดให้การสนับสนุนการเคลื่อนไหวที่สร้างเงื่อนไขไปสู่ความรุนแรงทุกรูปแบบ ร่วมกันจรรโลงกติกาประชาธิปไตยให้ดำรงอยู่ร่วมกันอย่างสันติ

กลุ่มพอกันที!
21 มกราคม 2557

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net