Skip to main content
sharethis
'มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน' ออกแถลงการณ์กรณีเจ้าหน้าที่รัฐคุกคามกิจกรรมเดินมิตรภาพ ระบุ เป็นตัวอย่างชัดเจนว่าคณะรัฐประหารระแวงการแสดงออกอย่างสันติของประชาชน หวั่นกระทบอำนาจพวกพ้องตัวเอง ชี้ ระบอบอำนาจนิยมไม่ก้าวหน้า เท่าเทียม ยั่งยืน ต้องให้ประชาชนมีส่วนร่วมตัดสินใจ
ขบวนเดินมิตรภาพและเจ้าหน้าที่ตำรวจ
 
24 ม.ค. 2561 กลุ่มมหาวิทยาลัยเที่ยงคืนออกแถลงการณ์เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่รัฐคุกคามกิจกรรม 'เดินมิตรภาพ (We Walk)' ของเครือข่ายประชาชน People GO โดยมีใจความว่าการที่กำลังของเจ้าหน้าที่รัฐขัดขวางการเดินมิตรภาพ รวมทั้งการออกหมายเรียกผู้มีส่วนร่วมในการก้าวเดินฯ จำนวน 8 คน ในข้อหาขัดคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติฉบับที่ 3/2558 ว่าด้วยการชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป เป็นการละเมิดสิทธิและเสรีภาพการแสดงออกของประชาชน และยิ่งเป็นการสะท้อนว่า ผู้มีอำนาจจากการรัฐประหารไม่ต้องการทำงานเพื่อประโยชน์สังคมมากไปกว่าดำรงอยู่ในอำนาจ 
 
 
มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนเห็นว่าการคืนความสุขและการสร้างความมั่งคั่งยั่งยืนจะเกิดขึ้นได้ด้วยประชาธิปไตยและการเปิดกว้างให้ประชาชนทุกระดับมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ
 
กิจกรรมเดินมิตรภาพมีขึ้นตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค. 2561 จัดขึ้นโดยกลุ่ม People Go Network Forum เครือข่ายภาคประชาชนที่พัฒนามาจาก 97 องค์กร เครือข่ายใส่ใจประชามติรัฐธรรมนูญกำหนดอนาคตประชาชน ที่มีทั้งคณาจารย์ นักวิชาการ องค์กรพัฒนาเอกชน นิสิต นักศึกษา และองค์กรเครือข่ายชาวบ้านจากทั่วประเทศเข้ามาทำงานร่วมกัน
 
 
การเดินมิตรภาพมีเป้าหมายคือการเดินทาง 800,000 ก้าว ระยะทาง 450 กิโลเมตร จากกรุงเทพฯ ถึง จ.ขอนแก่น เพื่อเชื่อมร้อยประชาชนที่มีความคิดเห็นแตกต่าง ร่วมกันแสดงความคิดเห็นสะท้อนปัญหา สร้างความเข้าใจกัน ยืนยันสิทธิของประชาชนทุกด้านในการมีส่วนร่วมพัฒนาประเทศ โดยเดินเพื่อบอกเล่าเรื่องราวและรณรงค์ใน 4 ประเด็นสำคัญของสังคมไทย ได้แก่
 
(1) นโยบายและกฎหมายที่ไม่นำไปสู่ความเป็นรัฐสวัสดิการที่สร้างความสุขให้แก่สังคมโดยรวม เช่นความพยายามแก้ไขกฎหมายว่าด้วยหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเพื่อยกเลิกบัตรทอง
(2) นโยบายและกฎหมายที่ทำลายพื้นที่ความมั่นคงทางอาหารด้วยการแก้ไขกฎหมายคุ้มครองพันธุ์พืชเพื่อให้บรรษัทข้ามชาติผูกขาดเมล็ดพันธุ์
(3) นโยบายและกฎหมายที่ลดทอนหลักการสิทธิมนุษยชนและสิทธิชุมชนอันเป็นพื้นฐานในการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนด้วยการแก้ไขกฎหมายสิ่งแวดล้อมให้กลายเป็นกฎหมายส่งเสริมการลงทุนเพื่อมุ่งสู่การเจริญเติบโตของภาคอุตสาหกรรมที่สร้างมลภาวะและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สังคมและสุขภาวะอนามัยของประชาชน
(4) รัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ลดทอนหัวใจสำคัญในด้านสิทธิและการมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนาประเทศ กฎหมายและนโยบายต่างๆ ถูกบังคับใช้ โดยประชาชนไม่สามารถนำเสนอความคิดเห็น หรือสะท้อนข้อกังวลห่วงใยอะไรได้ 
 
 
แถลงการณ์มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน
เรื่อง คุกคามก้าวเดินมิตรภาพ คือเหยียบย่ำเสรีภาพประชาชน
 
นับเป็นอีกครั้งหนึ่งที่ได้มีการแสดงออกให้เห็นอย่างชัดเจนถึงการใช้อำนาจรัฐในการละเมิดต่อสิทธิและเสรีภาพการแสดงออกของประชาชน เมื่อได้มีการใช้กำลังของเจ้าหน้าที่รัฐขัดขวางการออกก้าวเดินเพื่อมิตรภาพของเครือข่ายประชาชน เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2561 และต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ออกหมายเรียกผู้มีส่วนร่วมในการก้าวเดินฯ ครั้งนี้จำนวน 8 คน ในข้อหาชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป
 
การก้าวเดินมิตรภาพนี้ต้องการแสดงออกถึงประเด็นทางสังคมต่างๆ ที่มีความสำคัญต่อประชาชน ทั้งเรื่องสุขภาพ การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เสรีภาพในการแสดงออกของประชาชน เป็นต้น โดยเป็นการรวมตัวจากกลุ่มบุคคลที่หลากหลาย ซึ่งเสียงจากผู้คนเหล่านี้เป็นสิ่งที่ผู้มีอำนาจไม่ได้ให้ความสำคัญแต่อย่างใด แม้ว่าการดำเนินการในครั้งนี้ก็เป็นไปอย่างสงบและเปิดเผยอันเป็นสิทธิที่รัฐธรรมนูญ (ซึ่งทางผู้มีอำนาจได้มีบทบาทหลักในการจัดทำและประกาศใช้) ได้รับรองไว้อย่างชัดเจน แต่ทางเจ้าหน้าที่รัฐกลับดำเนินการออกหมายเรียกด้วยการอ้างว่าเป็นการกระทำที่ขัดต่อคำสั่ง คสช. ฉบับที่ 3/2558
 
จึงไม่อาจเข้าใจเป็นอื่นไปได้ นอกจากว่าผู้มีอำนาจรัฐหวาดระแวงและหวาดกลัวต่อการแสดงความคิดเห็นและการแสดงออกของประชาชนที่แม้จะเกิดขึ้นอย่างสงบและสันติก็ตาม ว่าอาจกระทบต่ออำนาจและผลประโยชน์ของตนเองและพรรคพวก จึงได้มีการใช้อำนาจตามคำสั่ง คสช. แม้ว่าจะได้มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญแล้วก็ตาม
 
การใช้อำนาจในลักษณะเช่นนี้ย่อมไม่ก่อให้เกิดผลดีแต่อย่างใดเลย และยิ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงเป้าหมายที่แท้จริงของผู้มีอำนาจจากการรัฐประหาร ว่ามิได้ต้องการทำงานเพื่อประโยชน์ของสังคมมากไปกว่าการดำรงอยู่ในอำนาจเพียงอย่างเดียว การกล่าวถึงความสุขหรืออนาคตของสังคมไทยที่จะดีขึ้นล้วนแต่เป็นคำโฆษณาชวนเชื่อทางการเมืองที่หาสาระอันใดมิได้แม้แต่น้อย
 
ระบอบอำนาจนิยมได้พิสูจน์ตนเองมาโดยตลอดในประวัติศาสตร์ของสังคมการเมืองไทยว่าไม่อาจนำมาซึ่งสังคมที่สร้างความก้าวหน้าให้แก่ผู้คนได้อย่างเท่าเทียมและยั่งยืน อีกทั้งยังเป็นระบอบการเมืองที่เอื้อให้เกิดการทุจริตและการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบได้อย่างกว้างขวางในบรรดาผู้ถืออำนาจอย่างสิ้นไร้ความรับผิดชอบต่อส่วนรวม ความข้อนี้ได้เป็นที่ประจักษ์ชัดอยู่ต่อหน้าในปัจจุบันโดยไม่จำเป็นต้องยกตัวอย่างประกอบแต่อย่างใด
 
มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งกับเป้าหมายของการก้าวเดินมิตรภาพว่า “การคืนความสุขและการสร้างความมั่งคั่งยั่งยืน จะเกิดขึ้นได้ก็ด้วยประชาธิปไตยและการเปิดกว้างให้ประชาชนทุกระดับมีส่วนร่วมในการตัดสินใจกำหนดความเป็นไปของบ้านเมือง” มิใช่ด้วยการใช้อำนาจของกลุ่มบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยปราศจากความชอบธรรมและไร้การตรวจสอบจากภาคสังคมและประชาชน
 
ดังนั้น ทุกคนต้องมีเสรีภาพในการแสดงออก และสามารถเข้าไปมีส่วนร่วมอย่างเท่าเทียมในการกำหนดความเป็นไปของบ้านเมืองที่พวกเราทุกคนต่างมีสิทธิเป็นเจ้าของ การให้การสนับสนุนต่อเสรีภาพในการก้าวเดินมิตรภาพครั้งนี้จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้สังคมไทยสามารถก้าวเดินไปข้างหน้าร่วมกันได้อย่างมั่นคง
 
มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน 24 มกราคม พ.ศ.2561

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net