ศิลปินในเดนมาร์กสร้างรูปปั้นสื่อถึงผู้ประท้วงเรียกร้องเสรีภาพทางการเมืองในฮ่องกง ทำให้ทูตจีนไม่พอใจและส่งถ้อยแถลงเรียกร้องให้นำผลงานชิ้นนี้ออก แต่เดนมาร์กก็แถลงปกป้องการจัดแสดงผลงานชิ้นนี้ และมีนักการเมืองหลายคนรวมถึงนักการเมืองฝ่ายซ้ายในเดนมาร์กแถลงปกป้องการแสดงผลงานโดยบอกว่าขอให้จีนเคารพในเสรีภาพในการแสดงออก

ส่วนหนึ่งของงาน 'เสาแห่งความอัปยศ' (ที่มา: วิกิพีเดีย)

13 ก.พ. 2563 รัฐบาลเดนมาร์กแถลงปกป้องการสร้างอนุสาวรีย์ผู้ประท้วงชาวฮ่องกงที่หน้าอาคารรัฐสภาในกรุงโคเปนเฮเกน ถึงแม้ว่าจะมีการร้องเรียนจากเจ้าหน้าที่ทางการจีน โดยอนุสาวรีย์มีความสูง 8 เมตร มีใบหน้าของผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยชาวฮ่องกงที่สวมหมวกกันน็อก แว่นกันลม และหน้ากากกันแก๊ส รูปปั้นนี้เป็นการดัดแปลงจากผลงานต้นฉบับที่ชื่อ "เสาแห่งความอัปยศ" ผลงานของศิลปิน เจนส์ กัลชูต รำลึกถึงเหยื่อในเหตุการณ์สังหารหมู่ที่จัตุรัสเทียนอันเหมินในปี 2532

ผลงานรูปปั้นนี้จัดทำขึ้นโดยได้รับความร่วมมือจากภาคส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นพรรคกรีนของเดนมาร์ก องค์กรสิทธิมนุษยชนแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลประจำเดนมาร์ก กลุ่มนักการเมืองจากพรรคการเมืองต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มพรรคการเมืองฝ่ายซ้ายอินูอิต อะตากาติกีต กับ พรรคสังคมนิยมประชาชนเดนมาร์ก พรรคแดงเขียว และพรรคฟราหมาด

เจ้าหน้าที่จากสถานทูตจีนประจำเดนมาร์กพยายามกดดันให้รัฐบาลเดนมาร์กนำรูปปั้นดังกล่าวออกโดยเตือนว่ามันจะเป็นการทำลายความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ ตัวแทนจากสถานทูตจีนยังโทรศัพท์ถึงสำนักงานเทศบาล 1 วันก่อนมีการตั้งรูปปั้นนี้เพื่อบอกว่างานดังกล่าวตีความสถานการณ์ทางการเมืองในฮ่องกงอย่างผิดๆ และยังอ้างว่าจะเป็นการสร้างความไม่พอใจให้นักท่องเที่ยวจีน กลายเป็นความเสี่ยงด้านความปลอดภัยเพราะกลายเป็น "พื้นที่ที่อาจจะเกิดความขัดแย้ง"

อย่างไรก็ตามทางการเดนมาร์กระบุว่างานรูปปั้นในครั้งนี้เป็นไปตามหลักการกำกับดูแลด้านสุขภาพและความปลอดภัย พวกเขาเสนอว่าจะให้มีการปรึกษาหารือร่วมกับกระทรวงต่างประเทศของเดนมาร์กในอนาคต

หลังจากที่จัดวางผลงานชิ้นนี้ไปได้ 1 วัน โฆษกของสถานทูตจีนก็แถลงว่าอนุสาวรีย์ดังกล่าวเป็นการจ้องทำลายภาพลักษณ์ของจีนและหยุดยั้งการพัฒนา โดยอ้างว่าการที่ประเทศจีนจะ "ฟื้นฟูกลับมาอย่างยิ่งใหญ่" นั้นเป็นเรื่องที่หยุดไม่ได้ รวมถึงอ้างว่าเรื่องเหล่านี้เป็น "การสมคบคิดของคนไม่กี่คนกับองค์กรต่อต้านจีนในเดนมาร์ก"

ก่อนหน้านี้ช่วงต้นเดือน ก.พ. ที่ผ่านมามีการอภิปรายในสภาของเดนมาร์กจากเรื่องข้อกล่าวหาว่าทางการจีนพยายามเซนเซอร์ศิลปินหรือสถาบันศิลปะของเดนมาร์กเช่นเทศกาลภาพยนตร์และโรงละครแห่งชาติหรือไม่

สำหรับกัลชูต ศิลปินผู้ทำงานแสดงในครั้งนี้กล่าวว่าทางการจีนมีสิทธิที่จะแสดงความไม่เห็นด้วยกับผลงานนี้ แต่มันเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนและไม่มีเหตุผลที่รัฐบาลต่างประเทศจะเรียกร้องให้มีการนำผลงานศิลปะเชิงการเมืองออกจากการจัดแสดง กัลชูตยังบอกอีกว่าเขาแปลกใจที่ทูตจีนใช้โวหารที่ฟังดูรุนแรงและ "ขาดไมตรีทางการทูตอย่างผิดวิสัย" ต่อรัฐบาลประเทศในยุโรป

อุฟเฟ เอลเบค อดีตผู้นำพรรคกรีนของเดนมาร์ก หนึ่งในผู้สนับสนุนผลงานดังกล่าว กล่าวว่าผลงานของกัลชูตแสดงการสนับสนุนขบวนการประท้วงในฮ่องกงและจะไม่ควรถูกนำออก นอกจากนี้ยังขอให้ทางการจีนเคารพในคุณค่าของเสรีภาพในการแสดงออกและการแสดงความคิดเห็นจองทางการเดนมาร์กด้วย

คาร์ลา แซนด์ส เอคอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำเดนมาร์กก็แสดงการสนับสนุนในทำนองเดียวกันโดยระบุว่าพวกเขาสนับสนุนเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและการชุมนุมอย่างสันติ รวมถึงยืนอยู่ข้างเดียวกับประชาชนชาวฮ่องกงและสนับสนุนสิทธิมนุษยชน

การประท้วงในฮ่องกงดำเนินมาตั้งแต่กลางปี 2562 จนถึงตอนนี้ โดยเริ่มจากความกังวลว่ากฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนฉบับใหม่จะทำให้จีนอ้างใช้แผ่อิทธิพลครอบงำพวกเขาได้ แม้ร่างกฎหมายฉบับนี้จะถูกยกเลิกไปแล้ว ขบวนการประท้วงก็ยกระดับข้อเรียกร้องเป็นการเรียกร้องให้ตำรวจรับผิดชอบกับการใช้ความรุนแรง เรียกร้องปฏิรูปให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น และข้อเรียกร้องอื่นๆ

รูปปั้นในเดนมาร์กที่เป็นสัญลักษณ์แทนผู้ชุมนุมฮ่องกงนี้จะถูกจัดแสดงไปจนถึงเดือน เม.ย. ที่จะถึงนี้ ส่วนกัลชูต เจ้าของผลงาน เคยถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าฮ่องกงในช่วงปี 2551-2552 แต่ได้รับอนุญาตให้เข้าฮ่องกงได้ในปี 2556

เรียบเรียงจาก

Denmark defends Hong Kong protester ‘Pillar of Shame’ statue following Chinese pressure, Hong Kong Free Press, Feb. 2, 2020