เครือข่ายสวัสดิการชุมชน พอช. และ สปสช. ร่วมสืบสานแนวคิดไม่ทอดทิ้งใครไว้ข้างหลัง “รวมพลังสู้ COVID-19” รณรงค์ “คืนหน้ากากอนามัยให้โรงพยาบาล”แนะประชาชนไม่ป่วยใช้หน้ากากผ้าแทน ปฏิบัติตามคำแนะนำ สธ. เน้นล้างมือช่วยลดการแพร่กระจายโรค พร้อมจับมือโรงเรียนฝึกอาเชีพกรุงเทพ จัดกิจกรรมสอนทำหน้ากากอนามัยแบบผ้า

9 มี.ค.2563 ทีมสื่อ สปสช. รายงานว่า ที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ มีการจัดแถลงข่าว “เครือข่ายสวัสดิการชุมชน พอช. และ สปสช. ร่วมสืบสานแนวคิดไม่ทอดทิ้งใครไว้ข้างหลัง รวมพลังสู้ COVID-19” โดยมี ผศ.ดร.จิตติ มงคลชัยอรัญญา กรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และคณบดีวิทยาลัยพัฒนศาสตร์ป๋วย อึ้งภากรณ์ นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ปฏิภาณ จุมผา รองผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) ปาลิน ธำรงรัตนศิลป์ เครือข่ายกองทุนสวัสดิการชุมชน สมรักษ์ ศิริเขตกรณ์ สถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ร่วมแถลงข่าว พร้อมเปิดการสอนทำหน้ากากแบบผ้า โดยโรงเรียนฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร (คลองเตย) 

ผศ.ดร.จิตติ กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 (COVID-19) ที่ดำเนินมางตั้งแต่ต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ประเทศไทยยังคงพบผู้ติดเชื้อยืนยันอย่างต่อเนื่อง จากข้อมูลรายงานการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดโดยกระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมา ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อยืนยันสะสม 50 ราย ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกใน 96 ประเทศ 2 เขตบริหารพิเศษ 1 เรือสำราญ ข้อมูลตั้งแต่ 5 มกราคม – 8 มีนาคม 2563 พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อจำนวน 106,195 ราย เสียชีวิต 3,600 ราย ส่วนประเทศจีนพบผู้ป่วย 80,696 ราย เสียชีวิต 3,097 ราย มาตรการสำคัญในการป้องกันการติดเขื้อไวรัสโควิด-19 ตามคำแนะนำกระทรวงสาธารณสุข คือ การหลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีคนอยู่แออัด หลีกเลี่ยงอยู่ใกล้ชิดกับผู้ที่มีอาการโรคระบบทางเดินหายใจ กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ และสวมหน้ากากผ้าเพื่อป้องกันโรค  

ทั้งนี้เพื่อการป้องกันการแพร่ระบาดและดูแลสุขภาพอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ เครือข่ายสวัสดิการชุมชน พอช. และ สปสช. ร่วมจัดประชุมเพื่อวางยุทธศาสตร์เพื่อร่วมรับมือและลดการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยใช้พลังเครือข่ายกองทุนสวัสดิการชุมชนที่มีอยู่ทั่วประเทศกว่า 4,000แห่ง กระจายความรู้ที่ถูกต้องสู่ประชาชน

นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวว่า ในส่วนของการใช้หน้ากาก (Mask) เพื่อป้องกันโรค ต้องชี้แจงทำความเข้าใจว่า ประชาชนสุขภาพแข็งแรงไม่จำเป็นต้องใส่หน้ากากป้องกัน แต่หากไม่สบายใจสามารถใช้หน้ากากผ้าแทนได้ ยกเว้นผู้ป่วยโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ เพราะขณะนี้จากความต้องการหน้ากากอนามัยของประชาชนจำนวนมาก ส่งผลให้มีราคาแพงและขาดแคลนตามกลไกตลาด จนส่งผลกระทบต่อบุคลากรทางการแพทย์ที่จำเป็นต้องใช้หน้ากากอนามัยปฏิบัติงานดูแลผู้ป่วยและอาจนำไปสู่วิกฤตด้านสุขภาพที่รุนแรงได้ ทั้งนี้เพื่อคืนหน้ากากอนามัยให้กับบุคลากรทางการแพทย์มีใช้อย่างพอเพียง โดยในวันนี้ได้จัดกิจกรรมสอนวิธีการทำหน้ากากผ้าโดยโรงเรียนฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร (คลองเตย) ให้กับตัวแทนเครือข่ายสวัสดิการชุมชนเพื่อนำไปเผยแพร่ต่อไป 

“ในวันนี้เรามาร่วมกันรณรงค์เพื่อ “คืนหน้ากากอนามัยให้โรงพยาบาล" ถ้าคนไม่ป่วยขอให้ใช้หน้ากากผ้า เพื่อทำให้ความต้องการหน้ากากอนามัยลดลง มีเหลือพอที่จะให้บุคลากรทางการแพทย์ได้ใช้ ไม่ขาดแคลนเหมือนปัจจุบัน” เลขาธิการ สปสช. กล่าว

ปฏิภาณ ในฐานะผู้แทนเครือข่ายกองทุนสวัสดิการชุมชน กล่าวว่า วันนี้เราต้องร่วมมือกันตามที่กระทรวงสาธารณสุขรณรงค์โดยให้คนไทยมีพฤติกรรมสุขภาพ 3 อย่างในการลดการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 คือ 1.ประชาชนทั่วไปไม่จำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัย ยกเว้นผู้ป่วยโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจและบุคลากรทางการแพทย์ โดยสามารถใช้หน้ากากผ้าแทนเพื่อลดความเสี่ยงได้ 2.ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำหรือสบู่ หรือใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ ซึ่งเป็นวิธีการที่ช่วยลดการติดเชื้อได้ดีมาก 3.ช่วยกันประดิษฐ์หน้ากากกันเอง โดยคนปกติทั่วไปที่ไปยังพื้นที่แออัดและมีคนหนาแน่นให้สวมหน้ากากผ้า โดยเครือข่ายกองทุนสวัสดิการชุมชนตั้งเป้าผลิตหน้ากากผ้าให้ได้จำนวน 1 ล้านชิ้น โดยขณะนี้ผลิตได้ 440,800 ชิ้นแล้ว พร้อมนี้จะร่วมสื่อสารข้อมูลที่ถูกต้องเหล่านี้ให้กับประชาชนต่อไป