สหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ เผยกลุ่มผู้มีอิทธิพลบุกยึดพื้นที่ทำกินและก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างในพืนที่ของชุมชนสันติพัฒนา  จ.สุราษฎร์ธานี นักปกป้องสิทธิในที่ดินรุดเจรจาอย่างสันติวิธีแต่ไร้ผล วอนสปก. และกรมป่าไม้ ช่วยแก้ไขปัญหาดด่วน หวั่นเหตุบานปลายและมือที่ 3 ฉวยโอกาสสร้างความรุนแรงให้เกิดขึ้นในพื้นที่

ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ต.บางสวรรค์ กำลังเจรจากับทางสมาชิกชุมชนสันติพัฒนา สหพันธ์เกษตรกรภาคใต้

14 ก.ย.2563 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า วานนี้(13 ก.ย.63) มีรายงานข่าวจากชุมชนสันติพัฒนา สหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ (สกต.) จังหวัดสุราษฎร์ธานีว่า มีกลุ่มผู้มีอิทธิพลในพื้นที่นำกำลังเข้ามาในพื้นที่ชุมชนสันติพัฒนา เพื่อแย่งยึดที่ดินของชุมชน

นัฐาพันธ์ แสงทับ ผู้หญิงนักปกป้องสิทธิมนุษยชนในฐานะกรรมการบริหารฝ่ายสตรี สกต. เปิดเผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อตอนเที่ยงของวานนี้ (13 ก.ย.63) โดยมีกลุ่มคนประมาณ 10 คน  ซึ่งภายหลังทราบว่าเป็นผู้มีอิทธิผลในพื้นที่ได้เข้ามาบุกยึดและก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่ส่วนรวมที่สมาชิกจากชุมชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน โดยบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ชุมชนใช้ปลูกพืชเศรษฐกิจเพื่อนำรายได้เข้ามาใช้ขับเคลื่อนงานในชุมชน ซึ่งทันทีที่กลุ่มผู้มีอิทธิพลได้เข้ามาทำการบุกรุก พวกเราก็ได้ใช้กระบวนการการเจรจาอย่างสันติวิธี แต่ผู้บุกรุกก็ไม่ยินยอมในการเจรจาด้วย  แม้เราจะทำการแจ้งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายอำเภอพระแสง เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรบางสวรรค์ กำนันตำบลบางสวรรค์และผู้ใหญ่บ้าน เข้ามาตรวจเจรจาและตรวจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น  โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้ใหญ่บ้านมาช่วยในการเจรจาอย่างสันติวิธี  แต่กลุ่มผู้บุกรุกก็ไม่ฟังและยังขยายสิ่งปลูกสร้างเพิ่มเติมในพื้นที่ออกไปเรื่อยๆ ด้วย

ภาพคนงานของกลุ่มผู้มีอิทธิพล ที่กำลังดำเนินการก่อสร้างกระท่อม เพื่อยึดพื้นที่ของชุมชน

นัฐาพันธ์ เปิดเผยเพิ่มเติมอีกว่า ตนอยากให้เจ้าหน้าที่จาก สปก. และกรมป่าไม้ มาช่วยในการเจรจากับกลุ่มผู้บุกรุกให้ออกจากพื้นที่โดยด่วน เพราะหากปล่อยให้นักปกป้องสิทธิในที่ดินกับกลุ่มผู้มีอิทธิพลเจรจากันเอง  ตนเกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์บานปลายและมีความกังวลว่าอาจจะเกิดสถานการณ์ความไม่ปลอดภัย เนื่องจากเคยมีผู้หญิงนักปกป้องสิทธิมนุญชนและนักปกป้องสิทธิมนุษยชนสมาชิกของ สกต. ที่ร่วมกันต่อสู้เพื่อเรียกร้องให้ได้สิทธิในที่ดินได้มีการถูกลอบสังหารไปแล้ว 4 ราย และถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัสจำนวน 1 ราย หรือจะเกิดการฉวยโอกาสจากมือที่สาม จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ที่มีส่วนในการรับผิดชอบเรื่องนี้โดยตรงอย่าง สปก.หรือ กรมป่าไม้ เข้ามาเจรจาช่วยพวกเราอย่างเร่งด่วนด้วย

“และหากกลุ่มผู้บุกรุกต้องการที่ดินทำกินจริงๆ ก็สามารถมาคุยกับพวกเราอย่างสันติได้ เพราะเราสามารถช่วยตรวจสอบที่ดินในแปลงอื่นๆ ที่สามารถจัดสรรเพื่อให้ประชาชนใช้ในการทำการทำกินร่วมกันได้ แต่ไม่ใช่มาแย่งยึดพื้นที่ที่พี่น้องร่วมกันต่อสู้มาเป็นเวลานานและเป็นพื้นที่ส่วนกลางที่ชาวบ้านจะต้องนำมาใช้ประโยชน์ร่วมกัน จึงอยากส่งเสียงไปถึงเจ้าหน้าที่ให้มารับช่วยคลี่คลายสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับพวกเราโดยด่วนด้วย” นัฐาพันธ์กล่าว

ภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังอ่านเอกสารการต่อสู่ทางนโยบาย ของสมาชิกชุมชนสันติพัฒนา 

ล่าสุดวันนี้ ( 14 ก.ย. 2563 ) เวลาประมาณ 11.00  น. นักปกป้องสิทธิในที่ดินได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้านว่าจะมีการพูดคุยทั้ง 3 ฝ่าย คือ นักปกป้องสิทธิในที่ดินชุมชนสันติพัฒนา กลุ่มผู้มีอิทธิพล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น หัวหน้าสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ปลัดอำเภอพระแสง เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรบางสวรรค์ กำนันตำบลพระแสง ผู้ใหญ่บ้าน เป็นต้น โดยปลัดอำเภอพระแสงเสนอให้กลุ่มผู้มีอิทธิพลถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปก่อน ซึ่งทางกลุ่มผู้มีอิทธิพลรับว่าจะถอนออกไป และสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม จังหวัดสุราษฎร์ธานี พยายามจะเสนอการจัดสรรตามนโยบายของ คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ คือ ที่ดินทำกิน 5 ไร่ และที่อยู่อาศัย 1 ไร่ แต่ตัวแทนนักปกป้องสิทธิในที่ดินยืนยันและเรียกร้องมาโดยตลอด โดยการจัดสรรที่ดินในรูปแบบโฉนดชุมชนหรือกรรมสิทธิ์ร่วม คือ ที่ดินทำกิน  10 ไร่ และที่อยู่อาศัย 1 ไร่ ซึ่งตัวแทนของนักปกป้องสิทธิฯได้รับว่าจะมาคุยกับสมาชิกของชุมชนก่อนและจะให้คำตอบภายในเดือนตุลาคม

ปรานม สมวงศ์ องค์กร Protection International ได้กล่าวว่า เมื่อวานได้มีการประสานขอให้ร่วมมือไปทางผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฏร์ธานี นายอำเภอ ฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่เพื่อขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยไปตรวจตราและทำให้แน่ใจว่านักปกป้องสิทธิมนุษยชนด้านที่ดินสมาชิกของสหพันธ์เกษตรกรภาคใต้จะมีความปลอดภัย ไม่มีการคุกคามจากผู้มีอิทธิพลหรือถูกทำร้ายใดๆ อย่างที่ผ่านมา ต้องไม่ลืมว่าที่ผ่านมาสมาชิกของสหพันธ์เกษตรกรภาคใต้จำนวนสี่ท่านได้ถูกสังหารไปโดยที่เจ้าหน้าที่รัฐยังหาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษไม่ได้ ดังนั้นเราเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รัฐทุกฝ่ายหามาตรการในการปกป้องคุ้มครองความปลอดภัยของนักปกป้องสิทธิด้านที่ดินในพื้นที่ดังกล่าวและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

สำหรับชุมชนสันติพัฒนา ตั้งอยู่หมู่ที่ 6 ตำบลบางสวรรค์ อำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฏร์ธานี เป็นหนึ่งในห้าชุมชนสมาชิกของสหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ที่เป็นการรวมกลุ่มของเกษตรกรไร้ที่ดินที่เรียกร้องให้ได้สิทธิในที่ดิน  โดยการช่วยรัฐในการตรวจสอบพื้นที่ของบริษัทเอกชนที่ใช้ประโยชน์ในพื้นที่ของรัฐโดยที่ไม่ได้เสียค่าเช่าให้กับรัฐ  โดยในปี  2549 นักปกป้องสิทธิในที่ดินได้ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฏร์ธานีแต่งตั้งคณะกรรมการในการตรวจสอบพื้นที่  ปรากฎว่าผลการตรวจสอบพื้นที่ของบริษัทเอกชนพิพาทครอบครองที่ดินนั้นเป็นการครอบครองโดยมิชอบด้วยกฎหมาย และหน่วยงานรัฐในพื้นที่ไม่ยอมปฏิบัติตามหน้าที่ จนกระทั้งเมื่อปี 2550 นักปกป้องสิทธิในที่ดินได้รวมกลุ่มและตั้งเป็นชุมชน นามว่า “ชุมชนสันติพัฒนา”  ซึ่งได้ร่วมกันดำเนินการเรียกร้องทางนโยบายกับรัฐเพื่อขอให้รัฐจัดสรรที่ดินให้กับเกษตรกรรายย่อยและแรงงานไร้ที่ดิน ตามแนวทาง “โฉนดชุมชน” ร่วมกับขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (P-Move) มาโดยตลอด

และวันที่ 25 ก.ย.นี้ เวลา 09.00 น. ศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานีนัดพร้อมไต่สวนคำร้องขอเพิกถอนกระบวนการพิจารณาที่ผิดระเบียบ จากกรณีที่บริษัทเอกชนได้เพิกถอนคำร้องขอแสดงอำนาจพิเศษของผู้ร้อง โดยที่ผู้ร้องไม่ได้เป็นผู้ถอนคำร้องเอง และขอให้ศาลได้มีคำสั่งไต่สวนการแสดงอำนาจพิเศษของผู้ร้อง เนื่องจากผู้ร้องซึ่งเป็นสมาชิกของชุมชนสันติพัฒนาไม่ได้เป็นบริวารหรือญาติของผู้ที่ถูกฟ้องร้องคดี และผู้ร้องอยู่ในที่ดินที่ได้รับการอนุญาตจากสำนักปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.)โดยมีหนังสืออนุญาตให้อยู่อาศัยและทำกินในที่ดินของ ส.ป.ก. และผู้ร้องจึงไม่ได้อาศัยอยู่ในที่ดินพิพาทโดยอาศัยสิทธิของจำเลย