Skip to main content
sharethis

15 ต.ค. 2564 เครือข่ายสลัม 4 ภาคชี้ กว่าหมื่นครัวเรือนได้รับผลกระทบจากโครงการรถไฟความเร็วสูงในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และไม่ได้รับการชดเชยเยียวยาจากรัฐ ก้าวไกลเตรียมตั้กระทู้ถาม พร้อมเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจง แนะควรเจรจาเพื่อหาทางออกร่วมกัน

พรรคก้าวไกลรายงานว่า พิธา​ ลิ้มเจริญรัตน์​ หัวหน้าพรรคก้าวไกล​ นำทีมว่าที่ผู้สมัคร ​ส.ส.ขอนแก่น สักการะศาลหลักเมือง​จังหวัดขอนแก่น พร้อมประกาศปักธงอีสาน​หน้าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยขอนแก่น​

พิธา​ กล่าวว่า​ จ.ขอนแก่น ถือเป็นประตูสู่อีสาน​ วันนี้พรรคก้าวไกลมีวีรนันท์​ ฮวดศรี​ ว่าที่ผู้สมัคร สส.เขต 1 จ.ขอนแก่น​ ซึ่งเป็นทนายด้านสิทธิมนุษยชน​ที่อาสาเข้ามาเป็นตัวแทนของชาวขอนแก่น

“คุณวีรนันท์​ ฮวดศรี เป็นทนายความที่ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เป็นทนายความให้กับทนายอานนท์ นำภา เป็นทนายความที่เชื่อมั่นและศรัทธาในระบอบประชาธิปไตย ยืนหยัดบนเส้นทางการต่อสู้ เพื่อยืนยันว่าคนมีค่าเท่ากับคน เราสามารถมั่นใจได้ว่านี่คือนักประชาธิปไตยโดยแท้จริง​ที่จะแบกความหวังของพี่น้องประชาชนไว้บนบ่าแล้วเดินหน้าเข้าสู่สภาเพื่อต่อสู้กับความอยุติธรรมทั้งปวงในประเทศของพวกเรา” หัวหน้าพรรคก้าวไกลกล่าว

พิธา เสริมด้วยว่า “อย่างที่พวกเราพรรคก้าวไกลยืนยันมาโดยตลอดว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยได้ ต้องชนะใจคนอีสานให้ได้ ด้วยอุดมการณ์ที่แน่วแน่และความจริงใจทั้งหมดที่เรามี เราจะพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะชนะใจคนขอนแก่นและประชาชนทั้งหมดในภาคอีสานต่อไป”

จากนั้นในช่วงสายของวันนี้ ส.ส.พรรคก้าวไกล​ นำโดยวิโรจน์​ ลักขณาอดิศร,​ อมรัตน์​ โชติปมิตต์กุล, อภิชาติ ศิริสุนทร, และสุรวาท ทองบุ​ เดินทางไปรับฟังปัญหาของประชาชนชุมชนริมทางรถไฟ ผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการรถไฟความเร็วสูง โดยมีวีรนันท์ ฮวดศรี ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 จ.ขอนแก่น พรรคก้าวไกล ตัวเเทนจากเครือข่ายสลัม 4 ภาค และประชาชนที่ได้รับผลกระทบร่วมวงเสวนาเพื่อแลกเปลี่ยนมุมมอง

วิโรจน์ กล่าวในวงเสวนาว่า สิ่งที่เกิดขึ้นแม้ว่าเป็นกรณีที่ไม่มีสัญญาเช่า แต่รัฐจะทำเป็นไม่รู้เรื่อง แล้วใช้กฎหมายมาปิดปากเพื่อจัดการประชาชนไม่ได้ จึงมีความจำเป็นอย่างมากที่จะต้องเอาเรื่องที่รัฐไม่พูดถึงมาอยู่บนโต๊ะเพื่อเปิดให้มีการเจรจาและหาทางออกร่วมกัน

“เบื้องต้นพรรคก้าวไกลมอบหมายให้ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ขอนแก่น สรุปเรื่องราวเข้ามา เพื่อเป็นข้อมูลข้อเท็จจริงในการตั้งกระทู้ถามต่อไปยัง นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ให้ตอบและชี้เเจงถึงมาตรการของการเยียวยารวมถึงความชัดเจนของหน่วยงานที่รับผิดชอบในการแก้ไขปัญหานี้ ทราบว่าประชาชนจำนวนมากไม่มีสัญญาเช่า ไม่มีโฉนดที่ดิน แต่ในการพัฒนาเมืองประชาชนก็ไม่ได้ต่อต้าน จึงอยากให้ทางรัฐเข้าใจหัวอกของพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบด้วย ผมอยากเห็นเมืองที่คนตัวเล็กตัวน้อยสามารถอยู่ร่วมในเมืองได้อย่างมีคุณภาพชีวิตที่ดี ไม่ใช่เมืองที่พัฒนาแต่ความศิวิไลซ์ อยากเห็นเมืองที่มีการแบ่งปันพื้นที่ให้กับประชาชนรากหญ้าอย่างเป็นธรรมและเข้าใจวิถีชีวิตที่เขาเคยอยู่ ไม่ใช่เป็น Smart City แต่ผู้อยู่อาศัยได้รับความเดือดร้อน รัฐมองแผ่นดิน แต่ไม่มองประชาชนที่อยู่อาศัยไม่ได้” วิโรจน์ กล่าว

ขณะที่ อภิชาติ ระบุว่า ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร จะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้เเจงข้อเท็จจริงต่อคณะกรรมาธิการ รวมไปถึงมาตรการเยียวยาต่อประชาชนได้รับผลกระทบเพื่อหาแนวทางออกร่วมกันต่อไป

ทั้งนี้ บุญส่ง หมอยา ตัวแทนเครือข่ายสลัม 4 ภาค (ภาคอีสาน) กล่าวว่า ไม่เฉพาะใน จ.ขอนแก่น แต่มีหลายพื้นที่ได้รับผลกระทบจากโครงการรถไฟความเร็วสูง เครือข่ายจึงมีการตั้งคณะทำงานขึ้น 2 คณะ ได้แก่ คณะทำงานแก้ไขปัญหาที่ดินรถไฟและคณะทำงานแก้ไขปัญหาด้านกระทรวงคมนาคม

แนวทางการเจรจา คือ เครือข่ายสลัม 4 ภาค จะขอให้มีการสำรวจทั่วประเทศ สำหรับพื้นที่ขอนแก่นที่ได้รับผลกระทบจากโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง เบื้องต้นจะขอให้การแบ่งปันพื้นที่และแลกเปลี่ยนพื้นที่ในส่วนผู้ที่มีสัญญาเช่ากับการรถไฟ แต่ปัญหาของพี่น้องคนจนเมืองขอนแก่น คือ แม้แต่ในกลุ่มที่มีสัญญาเช่าก็ต้องย้ายเพื่อหลีกให้โครงการของรัฐ เหมือนอยากจะพัฒนาเมือง แต่ไม่สนคนที่อยู่อาศัย และไม่มีมาตรการจากรัฐหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าจะให้พวกเขาย้ายไปอยู่ที่ไหนหรือจะชดเชยอย่างไร

“ชุมชนริมทางรถไฟเขตเทศบาลขอนแก่น 6 ชุมชน มีสัญญาเช่า แต่หากนับชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากโครงการรถไฟความเร็วสูงในภาคอีสานมีจำนวนกว่า 10,000 ครัวเรือน ไม่ว่า นครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานี สิ่งที่เกิดขึ้นคือ เราได้รับผลกระทบและไม่ได้รับการชดเชยเยียวยาจากภาครัฐ” ตัวแทนเครือข่ายสลัม 4 ภาคระบุ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net