Skip to main content
sharethis

'พีมูฟ' ติง 'ประวิตร' ปกป้องราชการ พลาดโอกาสสร้างผลงาน ประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรมคืบหน้าน้อย หวั่นราชการเกียร์ว่าง ชุมชนถูกคุกคาม

20 ม.ค.2566 เมื่อวันที่ 18 ม.ค.ที่ผ่านมา เวลา 10.00 น. มีการประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส. หรือ พีมูฟ) ครั้งที่ 1/2566 ณ มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด และห้องประชุม 3 ชั้น 3 อาคารสำนักงาน ก.พ. (เดิม) รวมทั้งผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกล (Video Conference) โดยมี พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ใช้เวลาในการประชุมประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง

ที่ประชุมมีการพิจารณาแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ประกอบด้วยกรณีการดำเนินงานโฉนดชุมชน ธนาคารที่ดิน รัฐสวัสดิการ กลุ่มชาติพันธุ์ชาวเลและชาวกะเหรี่ยง สิทธิสถานะ การจัดการภัยพิบัติ การแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยและสินเชื่อ การแก้ไขปัญหาที่ดินในความรับผิดชอบของกระทรวงต่าง ๆ ได้แก่ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงการคลัง การแก้ไขปัญหาคดีความ การแก้ไขปัญหาด้านกฎหมายและระเบียบของทางราชการ ทั้งนี้ มีการดำเนินการภายใต้ 10 อนุกรรมการ และ 46 คณะทำงาน แต่มีคณะอนุกรรมการที่ไม่ได้มีการประชุม 5 คณะ และมีคณะทำงานที่ไม่ได้มีการประชุม 34 คณะ

ที่ประชุมมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินการแก้ไขปัญหา อาทิ กรณีโฉนดชุมชนให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติจัดประชุมหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเร่งด่วนในการยกร่างระเบียบหลักเกณฑ์ เพื่อยกระดับโฉนดชุมชนให้เป็นการจัดที่ดินรูปแบบหนึ่งตามมาตรา 10 (4) พ.ร.บ.คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ พ.ศ. 2562 และลงพื้นที่เพื่อศึกษาข้อเท็จจริงปัญหาอุปสรรคในพื้นที่ยื่นคำขอโฉนดชุมชน

กรณีชาวเลเกาะหลีเป๊ะเร่งรัดให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อมูลและข้อเท็จจริงกรณีปัญหาข้อพิพาทในที่ดินที่เกี่ยวข้องกับชุมชนชาวเล เกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล ดำเนินแก้ไขปัญหา ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ลงนามแต่งตั้งเมื่อวันที่ 29 ธ.ค. 2565 โดยมี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นประธาน

กรณี พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 จะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมในการปรับปรุงแก้ไข พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 และอนุกรรมการศึกษาการแก้ไขและปรับปรุง พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 และ พ.ร.บ.ป่าชุมชน พ.ศ. 2562 โดยในระหว่างนี้ให้มีการชะลอการนำร่างกฎหมายลำดับรองประกอบ พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 เข้า ครม.

ธีรเนตร ไชยสุวรรณ เลขาธิการขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม กล่าวว่า คณะกรรมการชุดนี้มีการกำหนดว่าจะประชุม 2 เดือนต่อครั้ง แต่ในปีที่ผ่านมามีการประชุมเพียง 2 ครั้ง ผลการประชุมมีความคืบหน้าในบางเรื่อง และมีการผลักดันมติการประชุมเข้า ครม. ในส่วนการประชุมวันนี้คาดหวังว่าจะนำข้อมูลข้อตกลงไปต่อยอดในรัฐบาลหน้า แต่ผลการประชุมในวันนี้จับต้องไม่ค่อยได้ เนื่องจากประธานปกป้องหน่วยงานราชการ ไม่ให้หน่วยงานชี้แจงถึงความคืบหน้าในการดำเนินการแก้ไขปัญหา ทำให้หน่วยงานลอยตัว เกียร์ว่าง ไม่ต้องรับผิดชอบ น่ากังวลว่าสถานการณ์ในพื้นที่ที่มีเรื่องพิพาทจะรุนแรงขึ้น ชาวบ้านจะถูกกดดันและคุกคามมากขึ้น

จำนงค์ จิตรนิรัตน์ ที่ปรึกษาขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้มีความสำคัญกับประชาชนมาก เพราะไม่มีการประชุมตามข้อตกลงมานานแล้ว หลายกรณีค้างคา ยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จ แต่ระบบการประชุม เวลาในการประชุมไม่เหมาะสมกับปัญหาที่ยังค้างคา การพิจารณาหัวข้อต่าง ๆ รวบรัด ไม่มีการรายงานเชิงคุณภาพ ไม่รู้ว่าหน่วยงานทำตามข้อตกลงไหม ไม่รู้ความคืบหน้าที่ชัดเจน ถ้าหากชี้แจงปัญหาอุปสรรคประชาชนก็รับได้แต่ไม่ได้ชี้แจง เอกสารการประชุมในบางเรื่องยังเป็นข้อมูลเดิม ไม่ได้ปรับแก้ให้สอดคล้องกับข้อมูลล่าสุดของคณะอนุกรรมการ 

“กรณีต่าง ๆ ของพีมูฟ ทุกกรณีเป็นเดิมพันชีวิต กรณีโฉนดชุมชนเกี่ยวข้องกับคนนับแสนคน กรณีคนอยู่กับป่า คนที่ถูกที่ดินของรัฐประกาศทับที่ คนที่ถูกที่ดินของเอกชนออกเอกสารสิทธิ์มิชอบมาทับซ้อน ชาวเลที่ถูกนายทุนรังแกต้องสู้หลังพิงฝา หนูเดือนหนองกินเพลต้องขายที่ดินที่ไม่ทับซ้อนกับที่ดินของนายทุนเพื่อยื้อชีวิต คนพันกว่าชีวิตต้องอยู่ในสถานการณ์รื้อถอน มีข้อตกลงว่าจะจัดที่ดินแต่ฝ่ายการเมืองไม่เคาะ ชีวิตเขาเคว้งคว้าง เพราะการประชุมที่ไม่มีประสิทธิภาพ” จำนงค์ กล่าว

จำนงค์ กล่าวอีกว่า รัฐบาลควรใช้วิธีการทางการเมืองแก้ปัญหาจากระบบราชการ มีกลไกร่วมระหว่างภาครัฐกับประชาชนแล้ว แต่ถึงเวลาประชุมไม่ได้ใช้มติสั่งการ ไม่ได้ใช้การเมืองแก้ไขปัญหาประชาชนให้เต็มกำลัง ประชาชนขาดโอกาส ฝ่ายการเมืองก็พลาดโอกาสในการสร้างการเปลี่ยนแปลง ในช่วงปลายรัฐบาลควรจะสร้างคุณค่าการทำงานร่วมกัน แต่กลับข้ามคุณค่านี้ไป

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net