Skip to main content
sharethis

พรรคเพื่อไทยมีเสน่ห์อยู่อย่าง เมื่อไหร่ที่ตกเป็น “เหยื่อ” ถูกรุมเล่นงาน ถูกรัฐประหาร ถูกขู่ยุบพรรคตัดสิทธิ ก็จะเรียกคะแนนเห็นใจล้นหลาม กระทั่งคนที่ไม่ค่อยเห็นด้วยนักกับนโยบาย หรือการบริหาร ยังต้องเถียงแทนเพื่อปกป้องหลักการประชาธิปไตย

“แจกเงินดิจิตัล 10,000 บาท” เป็นความฉลาดหลายชั้น ทั้งเซอร์ไพรส์ ตูมตาม นะจังงัง อ้าปากค้าง ไม่ว่าคนเห็นด้วยเห็นต่าง ก็ดูดประเด็นถกเถียงวิพากษ์วิจารณ์มารวมศูนย์ที่พรรคเพื่อไทย จนกลบกระแสพรรคอื่นได้หมด เหมือนครั้งประกาศนโยบายค่าแรง 600 บาท แต่ครั้งนี้ยิ่งกว่า

แล้วฝ่ายตรงข้ามก็ออกมาดิ้นพล่าน บ้างชิงตั้งข้อหาทักษิณ เศรษฐา หวังเก็งกำไรเงินดิจิทัล ทั้งที่เงินหมื่นคือคูปอง ไม่ใช่คริปโต ไม่เกี่ยวกับการเก็งกำไร

บ้างก็ขู่ว่าต้องออกกฎหมายกู้เงิน แล้วจะไม่ผ่าน ส.ว. จะส่งศาลรัฐธรรมนูญ “ทำถนนลูกรังให้หมดก่อน”

เทคโนแครตชี้หน้า ประชานิยมไร้ความรับผิดชอบ อ้าว ถ้ามันผิดพลาดฉิบหายเพื่อไทยรับผิดชอบสิครับ เลือกตั้งครั้งหน้าอาจสูญพันธุ์ ไม่เหมือนรัฐประหารนิรโทษตัวเอง เป็นนายกฯ จาก 250 ส.ว. ไม่รับผิดชอบความล้มเหลวฉ้อฉลใดๆ ทั้งสิ้น

เลขาฯ กกต.พลั้งปาก “ไม่ผิด” เพราะพรรคการเมืองต่างๆ ก็แจกมหาศาลบานตะไท แต่ต่อมา กกต.กลับขู่ฟ่อ ให้แจ้งที่มาของเงิน ความคุ้มค่า ความเสี่ยง ผลกระทบ ไม่งั้นจะเข้าข่ายหลอกลวงประชาชน มีโทษจำคุกตัดสิทธิ

พรรคเพื่อไทยต้องแจ้งอยู่แล้วครับ แต่แจ้งแล้วใครจะตัดสิน กกต. หรือประชาชน เขาต้องชี้แจงให้ละเอียด เพื่อให้ประชาชนตัดสินใจเลือก

กกต.จะเอาอะไรไปตัดสินว่า นโยบายไหนหลอกลวงประชาชน หรือทำแล้วหายนะ พวกท่านเป็นนักเศรษฐศาสตร์จากไหน

เหมือนศาลรัฐธรรมนูญ “ทำถนนลูกรังให้หมดก่อน” คว่ำเงินกู้ 2 ล้านล้าน แล้ว 9 ปีทำกะปริบกะปรอย งบบานปลาย ป่านนี้รถไฟความเร็วสูงได้แค่ตอม่อไม่กี่กิโล มอเตอร์เวย์โคราชข้ามรัฐบาลยังไม่เสร็จ คนไทยแห่ไปนั่งรถไฟลาว

เราไม่รู้หรอกว่าถ้ารัฐบาลยิ่งลักษณ์-ชัชชาติทำ จะมีปัญหาหรือไม่อย่างไร แต่ที่เรารู้แน่ๆ คือคว่ำไปแล้วรัฐบาลทหารเข้ามาทำ เละ!

พูดตามตรง นโยบาย “ทักษิโณมิกส์” กระตุ้นเศรษฐกิจ ก็มีความเสี่ยงเหมือนกัน ยังมีประเด็นให้ถกเถียงอีกเยอะ นโยบายนี้มีเป้าหมายทั้งกระตุ้นเศรษฐกิจ เน้นช่วยเศรษฐกิจชุมชน และจะนำประเทศเข้าสู่ระบบการชำระเงินใหม่ ใช้เงินบาทดิจิทัล

ซึ่งมีคำถามว่า เศรษฐกิจไทยจำเป็นต้องกระตุ้นขนาดใหญ่อย่างนั้นไหม และมันเป็นเรื่องใหญ่ เรื่องใหม่ ที่ควรจะผ่านการถกถามทางเศรษฐศาสตร์อย่างถี่ถ้วน ไม่ใช่โยนโครมลงมาระหว่างหาเสียง ล่อใจคนด้วยเงินหนึ่งหมื่น แล้วพอชนะเลือกตั้งก็เป็นสัญญาประชาคม ซึ่งเปรียบเหมือน “มัดมือชก” ใครค้านหรือท้วงติงไม่ได้แล้ว

กระนั้น พอดูนโยบายพรรคอื่นๆ ก็พบว่า “แจก” ไม่ต่างกัน “บัตรลุงตู่” ที่ชิงไปจากบัตรประชารัฐ ก็แจกเดือนละพัน รวมสี่ปีมากกว่าเสียอีก แม้อ้างว่าแจกเฉพาะ “คนจน” แต่การแยกแยะก็มีปัญหา เพราะคนไทยจำนวนมากไม่อยู่ในระบบภาษี

ท้ายที่สุด การรุมโจมตี จ้องเอาผิด กลายเป็นสร้างกระแสให้เพื่อไทย กลบนโยบายพรรคอื่นหมด ภาวะล้มละลายทางความเชื่อถือของนักเศรษฐศาสตร์ ซึ่งโจมตี “ประชานิยม” จนเป็นเครื่องมือรัฐประหาร 2549, 2557 ทำให้การวิจารณ์เพื่อไทยกลายเป็นผลบวกทางการเมือง

ผู้คัดค้านทั้งหลายควรทำใจให้นิ่ง แสดงความเห็นทางวิชาการ แต่อย่าใช้กฎหมายข้อห้ามเอาผิดตัดสิทธิยุบพรรค นั่นไม่ใช่กระบวนการประชาธิปไตย ถ้าพรรคเพื่อไทยชนะแล้วดำเนินนโยบาย ก็ต้องยอมรับ และเขาต้องรับผิดชอบหากเกิดความเสียหายจริง

อย่ารัฐประหารก่อนก็แล้วกัน เหมือนนโยบายจำนำข้าว อันที่จริงแม้มีด้านดีช่วยชาวนา แต่ปีที่สามที่สี่ ราคาข้าวตลาดโลกยังตกต่ำ รัฐบาลเพื่อไทยก็หยุดไม่ได้ จมไม่ลง รัฐประหารมาตัดวงจร ตัดเพื่อไทยออกไปจากความรับผิดชอบต่อนโยบาย และได้คะแนนเห็นใจท่วมท้นจากคำตัดสินจำคุกยิ่งลักษณ์

น่าสังเกตว่า การประกาศนโยบายแจกเงินดิจิทัลหมื่นบาท ซึ่งดูดกระแสมาที่เพื่อไทยจนกลบพรรคอื่น พรรคก้าวไกลได้รับผลกระทบมากที่สุด แต่ก้าวไกลกลับวิพากษ์วิจารณ์น้อยที่สุด เพราะตระหนักว่าการรุมโจมตีแบบตั้งแง่เอาผิดไม่ใช่กระบวนการประชาธิปไตย ก้าวไกลซึ่งชูรัฐสวัสดิการ แนวคิดตรงข้ามทักษิโณมิกส์ อาจตั้งคำถามทางเศรษฐกิจ เช่น จำเป็นหรือไม่ มีวิธีอื่นไหม จะมีผลบวกลบอย่างไร ฯลฯ แต่ไม่เล่นด้วยกับการให้ร้ายเอาผิด

ตลกร้ายคือพรรคพลังประชารัฐ “ก้าวข้ามความขัดแย้ง” กลับไปหยิบประเด็นแก้ 112 ว่าจะไม่ร่วมรัฐบาลกับเพื่อไทย ก้าวไกล ทั้งที่เพื่อไทยยังไม่ได้บอกว่าแก้ แค่ยอมเอาเข้าสภา ซึ่งก็มาจากกระแสกดดัน จนเป็นคำถามในเวทีดีเบต

ขณะที่พรรครวมไทยสร้างชาติ ประกาศไล่พวก “ชังชาติ” ออกนอกประเทศ ขุนพลของพรรคลุกขึ้นชี้หน้า กระชากแขน แสดงกิริยามารยาทที่ “ไทยมาก” กลางเวทีดีเบต เป็นคลิปไวรัลมีคนดูหลายล้าน

นี่ก็ดูดประเด็นเหมือนกัน ดึงกระแส ดึงความสนใจไปหาตัวเอง แต่ไม่รู้ว่าความสนใจด้านไหน ถ้าแพ้เลือกตั้ง ถ้าแพ้ห่างก้าวไกล ไม่รู้จะยังปากเก่งอีกไหม

นโยบายเศรษฐกิจ กับความเป็นประชาธิปไตย ไล่ตีคู่กันบนเวทีดีเบต ไม่ว่าอย่างไร ชัยชนะจากเลือกตั้งจะเป็นพลังที่เชี่ยวกราก สัญญาประชาคมที่ให้ไว้ ต้องทำ และใครขวางได้ยาก

ไม่ว่าทางเศรษฐกิจหรือการเมือง ไม่ว่าเงินดิจิตัลหรือ 112

 

 

ที่มา: ข่าวสดออนไลน์ www.khaosod.co.th/politics/news_7612857

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net