Skip to main content
sharethis

11 พรรค ขึ้นเวทีแสดงวิสัยทัศน์ด้านความมั่นคงด้านอาหารและเกษตรกรรม รับเลือกตั้ง 66 แต่ละพรรคมีวิธียกระดับหลายรูปแบบ ตั้งแต่ปลดล็อกที่ดินยันปลดหนี้ ส่งสินค้าตีตลาดเมืองนอก ลดการใช้สารเคมี เพิ่มพื้นที่เกษตรอินทรีย์ บางพรรคดันนโยบายสวัสดิการ หนุนอาหารโรงเรียนต่อเนื่อง  

 

28 เม.ย. 2566 ทีมสื่อไบโอไทย รายงานวันนี้ (28 เม.ย.) ระบุว่า เมื่อ 27 เม.ย.ที่ผ่านมา สวนชีววิถี จ.นนทบุรี เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. สภาเกษตรกรแห่งชาติ มูลนิธิชีววิถี สถาบันวิจัยสังคมจุฬาฯ และองค์กรพันธมิตร เชิญ 11 พรรคการเมือง ร่วมเวทีแสดงวิสัยทัศน์ นโยบายเกษตรและความมั่นคงทางอาหาร โดยแต่ละพรรคได้เสนอนโยบายที่น่าสนใจหลายประเด็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการผลิต การเพิ่มพื้นที่เกษตรยั่งยืนและเกษตรอินทรีย์ รัฐสวัสดิการที่เปิดโอกาสให้เกษตรกรสามารถปรับเปลี่ยนการเกษตรได้ง่ายขึ้น  รวมทั้งบางพรรคที่สานต่อการลดการใช้สารเคมี และการแบนสารเคมีอันตราย ดังนี้

'ก้าวไกล' ยกระดับสวัสดิการ ปลดล็อกที่ดินทำกินและหนี้สินให้เกษตรกร

เดชรัต สุขกำเนิด พรรคก้าวไกล  กล่าวว่า  ที่ผ่านมาการสนับสนุนภาคเกษตกรรมจะผ่านเงินเงินอุดหนุนผ่านพืชหลักที่เพาะปลูกมาโดยตลอด แต่เกษตรกรยังมีปัญหาเรื่องรายได้และความเหลื่อมล้ำเหมือนเดิม ดังนั้น สิ่งที่พรรคก้าวไกล เห็นว่า เกษตรกรควรจะอยู่ได้ เลือกได้ โดยแยกการช่วยเหลือของรัฐบาลกับพืชที่ปลูกออกจากกัน เราสนับสนุนสวัสดิการถ้วนหน้า  เบี้ยผู้สูงอายุจาก 600 บาท เป็น 3,000 บาทต่อเดือนภายใน 4 ปี ขณะที่สวัสดิการเด็กเล็กแบบถ้วนหน้าให้คนละ 1,200 บาทต่อเดือน เรื่องของปัญหาโภชนาการ ภาวะเด็กเล็กที่ขาดสารอาหารซึ่งส่วนใหญ่มาจากครอบครัวที่ยากจน ยกระดับเพิ่มงบอาหารกลางวันเป็น 30 บาทต่อคนต่อวัน ครอบคลุมถึงระดับมัธยมศึกษา

เดชรัต สุขกำเนิด

ส่วนการปลดล็อกเรื่องที่ดินทำกิน เดชรัต ระบุว่า มีกองทุนพิสูจน์สิทธิในที่ดินที่จะแก้ปัญหาเรื่องนี้ จากเดิมที่มีงบประมาณ 300 ล้านบาท จะเพิ่มเป็นหมื่นล้านบาทใน 4 ปี รวมถึงการเปลี่ยนพื้นที่ สปก.เป็นโฉนดที่ดิน เงื่อนไขการผู้ที่จะเปลี่ยนพื้นที่ สปก.เป็นโฉนดต้องมีทรัพย์สินสุทธิไม่เกิน 10 ล้านบาท ไม่เกิน 50 ไร่

สำหรับการปลดล็อกปัญหาหนี้สิน หากสามารถชำระได้ครึ่งหนึ่ง รัฐจะออกให้ครึ่งหนึ่ง ถ้าไม่มีเงิน ให้เช่าที่ดินจะจัดสรรให้ปลูกพืชเศรษฐกิจที่มีมูลค่าเพื่อชำระหนี้ ส่วนถ้าไม่มีทั้งเงินและไม่มีที่ดิน จะใช้หลังคาบ้านติดโซลาร์รูฟเพื่อขายไฟฟ้าและนำเงินมาใช้หนี้

เดชรัต กล่าวถึงการสนับสนุนงบฯ การตรวจรับรองมาตรฐานการรับรอง GMP GAP ออร์แกนิค มาตรฐานฮาลาล และอื่นๆ ที่สำคัญทำให้มาตรฐานได้รับความเชื่อถือทั้งในและต่างประเทศ รวมไปถึงเกษตรกรสูงอายุต้องมีโอกาสพัก และการส่งเสริมเกษตรกรรุ่นใหม่เข้ามาแทนที่ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ทั้งเรื่องสารพิษตกค้าง การแปรรูป การทำฟาร์มสเตย์ แก้ไขกฎหมายปลดล็อก เปิดได้ตามกฎหมาย ขอกู้เงินในพื้นที่ได้ สุดท้ายเรื่องการกระจายอำนาจไปสู่ท้องถิ่น ภายใน 4 ปี ก้าวไกลสนับสนุนให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัด

"ภูมิใจไทย" ลั่นภายใน 4 ปี เพิ่มพื้นที่เกษตรอินทรีย์ 200% ลดการใช้สารเคมีลง 50%

ศุภชัย ใจสมุทร พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยให้ความสำคัญกับความมั่นคงทางอาหารและภาคเกษตรกรรม โดยเฉพาะในเรื่องอาหารปลอดภัย ที่สำคัญพรรคไม่เห็นด้วยกับการนำเข้าสารเคมีที่เป็นพิษ 3 ชนิด แสดงจุดยืนชัดเจน ดังนั้น เราขอประกาศนโยบาย “เกษตรเพื่อสุขภาพของคนไทยไม่เป็นโรค” ทั้งลดการใช้สารเคมีลงให้ได้  50% ภายใน 4 ปี และจะเพิ่มเกษตรกรอินทรีย์ให้ได้ 200% ภายใน 4 ปี พัฒนาเกณฑ์มาตรฐานสินค้าปลอดภัยให้เข้มข้นเท่าประเทศยุโรป ยกเลิกการใช้สารเคมีที่มีข้อตกลงร่วมกันในระดับนานาชาติ หรือคู่ค้าของไทยยกเลิกไปแล้ว ไม่สนับสนุนทางการเงินทั้งทางตรงและทางอ้อมสำหรับธุรกิจและเกษตรกรที่ใช้สารเคมี เก็บภาษีสารเคมีตามระดับความอันตราย และห้ามการโมษณา พร้อมกำหนดบทลงโทษอย่างรุนแรง รวมถึงการจัดสรรงบฯ ให้เกษตรกรที่ทำเกษตรแบบอินทรีย์ ให้ธนาคารของรัฐสนับสนุนเกษตรกรที่ทำเกษตรแบบอินทรีย์ และการเพิ่มตลาดสีเขียวให้เกิดขึ้นทุกพื้นที่

นายศุภชัย กล่าวถึงเรื่องปัญหาโภชนาการในเด็กที่มีปัญหาทั่วโลกในขณะนี้ รวมทั้งไทย ซึ่งเรามีจุดแข็งในเรื่องของการเป็นประเทศที่ผลิตอาหารทำให้สามารถแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ได้โดยรัฐจะต้องบริหารจัดการให้ดีกว่านี้

ศุภชัย ใจสมุทร

ปชป.สร้างเกษตรไทยติด TOP 10 โลก เพิ่ม GDP เกษตร กำหนด 26 นโยบายเกษตร

อลงกรณ์ พลบุตร พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า วิสัยทัศน์พรรคประชาธิปัตย์ต้องการยกระดับรายได้เกษตรกร รายได้ประเทศ ไปสู่การเป็นมหาอำนาจด้านอาหารของโลก รับผิดชอบความมั่นคงด้านอาหารทั้งเชิงปริมาณ คุณภาพ และโภชนาการ ครัวของโลกจึงจำเป็นต้องกระจายรายได้สู่เกษตรฐานรากให้ได้

"วิสัยทัศน์พรรคจึงกำหนดเป้าหมายของนโยบายเกษตรภายใต้วิสัยทัศน์ “เกษตรฐานราก เกษตรฐานโลก 2030”  ให้ไทยเป็นมหาอำนาจอาหารโลก Top10 เกษตรกรมีรายได้สูงขึ้น 100% เพิ่ม GDP เกษตรเป็น 10% เพื่อให้ภาคเกษตรกรรมสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร และกำหนด 26 นโยบายเกษตรที่วางอยู่บนฐานของเกษตรฐานราก เกษตรฐานโลก" อลงกรณ์ ระบุ

อลงกรณ์ พลบุตร

อลงกรณ์ กล่าวถึง 10 นโยบายที่สนับสนุนเกษตรกรรมยั่งยืน ส่งเสริมเกษตรอินทรีย์ 2 ล้านไร่ และเกษตรคาร์บอนต่ำลดโลกร้อน สนับสนุนความมั่นคงทางอาหารทั้งเชิงปริมาณ คุณภาพ โภชนาการ ขับเคลื่อนอาหารปลอดภัย อาหารแห่งอนาคต พืชเศรษฐกิจปลอดภัยเป็นท้องถิ่นที่กินได้ ส่งเสริมอาหารฮาลาลฟู้ดวัลเลย์ 

นอกจากนี้ พรรคประชาธิปัตย์จะส่งเสริมเกษตรปลอดภัย เกษตรสุขภาพ ลดใช้ปุ๋ยเคมี เพิ่มปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอกปุ๋ยอินทรีย์ 5 ล้านตัน คุ้มครองสิทธิและส่งเสริมสวัสดิภาพเกษตรกร และคุ้มครองความหลากหลายทางชีวภาพ

ชาติไทยพัฒนา สร้างโครงสร้างพื้นฐานภาคเกษตร

นิกร จำนง พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า นโยบายด้านการเกษตร  คือ 1 ใน 9 นโยบายหลัก ที่ยิ่งใหญ่กว่าเศรษฐกิจ เพราะเป็นโครงสร้างหลักของประเทศ การนำเกษตรทฤษฎีใหม่มาใช้จะเป็นทางออกของเกษตรกรไทยที่ยังยากจนอยู่ 

"ที่ผ่านมาประเทศไทยให้ความสำคัญกับการลงทุนด้านการคมนาคมมากเกินไป ทำให้จำนวนถนนมากกว่าคลองส่งน้ำ โดยภาคเกษตรกรรมเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ แต่การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในเรื่องนี้กลับมีน้อยมาก ดังนั้นต้องเพิ่มงบด้านการเกษตร" นิกร กล่าว

นิกร จำนง

'ประชาชาติ' ออกกฎหมายจำกัดการถือครองที่ดินของทุนใหญ่ ส่งเสริมเกษตรปลอดภัย

มนตรี บุญจรัส พรรคประชาชาติ กล่าวถึงนโยบายพรรค ทำปุ๋ยจากขยะเพื่อทดแทนปุ๋ยเคมี ส่งเสริมการเกษตรปลอดภัย ให้ไทยเป็นฐานอาหารปลอดภัยของโลก

'ชาติพัฒนากล้า' พัฒนาแอปพลิเคชัน รวมกลุ่มเกษตรกรพัฒนาเกษตรก้าวหน้า

อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า  พรรคชาติพัฒนากล้าเป็นพรรคเดียวที่ไม่เน้นแจกเงิน และมุ่งสู่เกษตรแปรรูป รวมกลุ่มสหกรณ์เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อสร้างอำนาจต่อรองและสามารถแข่งขันในตลาดได้  ในขณะที่เกษตรกรจะมีรายได้จากหุ้นได้ด้วย เช่นเดียวกับเกษตรกรของประเทศ นิวซีแลนด์ ที่ทำให้สหกรณ์โคนมตั้งเป็นบริษัท ฟอนเทียร่า เข้าตลาดหลักทรัพย์ และสร้างรายได้จำนวนมาก

“ภาคการผลิต พรรคจะสร้างแอปพลิเคชัน ที่รวบข้อมูลของทุกหน่วยงานภายใต้กระทรวงเกษตรฯมีข้อมูลให้เกษตรกรตัดสินใจ เชื่อมโยงกับภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง  สามารถผลิตสินค้าได้ทั้งเกษตรปลอดภัย และอินทรีย์ ตามความเหมาะสมของพื้นที่นั้นๆ  ข้อมูลในแอลิเคชั่นจะเตือนภัยโรคระบาดล่วงหน้า” อรรถวิชช์ กล่าว

อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี

'เพื่อไทย' ออกโฉนด 50 ล้านไร่ ปรับเปลี่ยนพื้นที่นาเป็นข้าวโพด-ถั่วเหลือง มีเงื่อนไขห้ามเผา เพิ่มงบอาหารกลางวันเด็กอีก 20%

ชัย วัชรงค์ พรรคเพื่อไทย  กล่าวว่า คนในภาคการเกษตรมีจำนวนมากะ แต่สร้างผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ได้ 8.5 % เท่านั้น  การแก้ปัญหาเพื่อไทยจะ 1. พักหนี้ 3 ปีสร้างรายได้ 3 เท่าเพื่อให้เกษตรกรหลุดจากความยากจน ตั้งหลักได้ 2. จะเร่งสำรวจแก้กฎหมายพิสูจน์สิทธิ เพื่อออกโฉนดที่ดิน 50 ล้านไร่ ในที่ สค1. สปก. ที่ป่าเสื่อมโทรม ที่บนที่ราบสูง  ภายใต้เงื่อนไขว่าต้องปลูกป่า ครึ่งหนึ่ง  3.  เพิ่มรายได้ 4 ปี 3 เท่า จากปัจจุบันที่เกษตรกรได้ 1 หมื่นบาทต่อไร่ต่อปี ยกระดับเป็น 3 หมื่นต่อไร่ต่อปี ผลักดันให้จีดีพีจะเพิ่มเป็น 24% ทันที  4.ใช้ตลาดนำนวัตกรรมเสริมเพิ่มรายได้ พืชที่ผลิตล้นจริงๆ คือข้าว ใช้พื้นที่ปลูกเยอะจะเปลี่ยนให้ปลูกพืชอื่น 20 ล้านไร่ แบบสมัครใจ โดยช่วงเปลี่ยนผ่านจะได้รับเิน 3,000 บาท เช่น การผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มีราคานำร่อง 10 บาทต่อกิโลกรัม  ภายใต้เงื่อนไขห้ามเผา ปลูกถั่วเหลือง เลี้ยงโคเนื้อ เปลี่ยนที่นามาปลูกหญ้า และทุเรียน เป็นต้น

นอกเหนือจากนี้ ยังจะขยายงบประมาณอาหารกลางวันโรงเรียนเพิ่มขึ้นจากเดิมอีก 20%

พปชร.มุ่งหน้าสู่เกษตรอินทรีย์ ขยายอาหารโรงเรียนถึงชั้นมัธยม 6

บุรินทร์ สุขพิศาล พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า สิ่งที่เราจะทำประกอบด้วย 3 ลด 3 เพิ่มคือ การลดต้นทุนการผลิต และเพิ่มรายได้ เพิ่มนวัตกรรมให้กับเกษตรกร และจะสนับสนุนเกษตรอินทรีย์จะเป็นหนทางในการเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร โดยพรรคจะส่งเสริมในเรื่องนี้รวมไปถึงการปรับโครงสร้างดินและน้ำเพื่อให้เกิดการผลิตเกษตรอินทรีย์ที่ลปอดภัย นอกจากนี้พรรคจะเติมทุน 3 หมื่นบาทต่อครัวเรือน แบบมีเงื่อนไขเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เพิ่มผลผลิต รวมทั้งจะสนับสนุนให้เกิดการแปรรูปเพื่อส่งออกในต่างประเทศ

'ไทยสร้างไทย' ใช้ 1.5 แสนล้านวิจัยพัฒนา

ด้านศรัณยู คงสวัสดิ์เกียรติ พรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า จะใช้เงิน 1.5 แสนล้านบาท สำหรับการวิจัยพัฒนา ต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่่มให้กับสินค้ามุ่งสู่ตลาดบน ซึ่งคนไทยมีศักยภาพแต่ไม่สามารถเดินหน้าต่อเพราะสินค้าของไทยยังขายในลักษณะของวัตถุดิบเป็นส่วนใหญ่ จำเป็นต้องปลุกเกษตรกร และติดดาบเพื่อให้ต่อสู้ในเวทีโลกให้ได้  

ศรัณยู คงสวัสดิ์เกียรติ

'พรรคกรีน' ตั้งธนาคารต้นไม้

พงศา ชูแนม พรรคกรีน กล่าวว่า มีแผนเศรษฐกิจกรีน 10 แผน เริ่มจากเปลี่ยนคนจนให้มั่งมี ตั้งโรงรับจำนำต้นไม้ เพื่อผลักดันให้มีพื้นที่สร้างคาร์บอนฟุตปรินต์มากขึ้น เกษตรกรจะมีรายได้ทั้งขายต้นไม้ ขายคาร์บอนเครดิต และยังสามารถใช้เป็นพลังงานให้กับโรงไฟฟ้าชีวมวลได้ด้วย ซึ่งต้องเร่งดำเนินการ เพื่อให้ทันเวียดนามที่มีรายได้จากการขายไม้ถึง 5 แสนล้านบาทต่อปี

'พรรคสามัญชน' เร่งแก้ปัญหาที่ดิน

ณัฐพร อาจหาญ พรรคสามัญชน กล่าวว่า ตราบใดที่เกษตรกร ไม่มีที่ดินทำกิน จะไม่มีความมั่นคง ไม่ว่าจะสนับสนุนแค่ไหน สุดท้ายจะเป็นการเปิดโอกาสให้บริษัทข้ามชาติเข้ามาผูกขาด เมื่อเราเห็นว่าอาหารมีความสำคัญ ต้องสนับสนุนให้คนในประเทศเข้าถึง อาหารที่ปลอดภัยก่อนเป็นเรื่องแรก ซึ่งปัจจัยต้องควบคุม ในขณะที่เรื่องน้ำ จะต้องพิจารณาเชิงระบบนิเวศของพื้นที่แต่ละแห่งด้วย กรณีภาคอีสานที่พื้นดิน มีโปรแตสฯ จะขุดขึ้นมาใช้ ต้องระวังเรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net