ศาลอุทธรณ์สั่งยกฟ้อง ‘นรินทร์’ จากคดีสติกเกอร์ ‘กูKult’ ม.112 เนื่องจากพยานหลักฐานไม่เพียงพอ

เพจ iLaw รายงานว่าเมื่อวันที่ 2 พ.ค. 2566 เวลา 9.00 น. ณ ห้องพิจารณาคดี 709 ศาลอาญา รัชดา ศาลอุทธรณ์ตัดสินยกฟ้อง ‘นรินทร์’ ติวเตอร์วัย 31 ปี จากความผิดฐานหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เนื่องจากพยานหลักฐานไม่เพียงพอ

เวลา 9.30 น. ผู้พิพากษานั่งบัลลังก์เริ่มอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ใจความสำคัญของคำพิพากษา คือ แม้กล้องวิดีโอวงจรปิดจะบันทึกภาพชายคนหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายนรินทร์ปีนขึ้นไปติดสติกเกอร์ “กูKult” บริเวณพระพักตร์ตรงพระเนตรทั้งสองข้างของพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ระหว่างการชุมนุม #19กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร เมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2563 ณ ท้องสนามหลวง ทว่าก็ไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจนว่าบุคคลดังกล่าวคือนายนรินทร์ เนื่องจากบุคคลทั้งสองไม่ได้สวมเสื้อผ้าตรงกัน

นอกจากนี้ศาลยังได้สรุปว่า พยานฝั่งโจทย์ต่างเป็นพยานบอกเล่าและความรับรู้ของผู้อื่น ทำให้มีน้ำหนักไม่เพียงพอที่จะยืนยันได้ว่า นรินทร์คือผู้กระทำความผิดจริง 

ศาลอุทธรณ์ยังตัดสินต่อไปอีกด้วยว่า ไม่มีการจับกุมผู้ต้องหาในทันที ทั้งที่มีการลงลายมือชื่อโดยนรินทร์ไปแล้วว่า ตนคือผู้ที่ปรากฎในคลิปวิดีโอดังกล่าว ซึ่งหากนรินทร์เป็นผู้กระทำผิดอย่างแน่นอนแล้ว ทำไมจึงไม่มีการจับกุมตั้งแต่ต้น

ก่อนหน้านี้ นรินทร์เดินทางไปรับทราบข้อหาในคดีนี้เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. 2563 ที่ สน.ชนะสงคราม ในชั้นสอบสวน นรินทร์ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ต่อมาพนักงานสอบสวนนัดส่งสำนวนพร้อมตัวผู้ต้องหาในวันที่ 22 ม.ค. 2564 และนัดฟังคำสั่งฟ้องในวันที่ 2 ก.พ. 2564 และ 4 มี.ค. 2564 แต่อัยการยังไม่มีคำสั่งฟ้อง จนถึงนัดวันที่ 25 มี.ค. 2564 พนักงานอัยการจึงระบุว่ามีความเห็นสั่งฟ้องคดี

จากสาเหตุดังกล่าว ทำให้นรินทร์ถูกตัดสินในศาลชั้นต้นว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 และลงโทษจำคุกจำเลยเป็นเวลา 3 ปี แต่การไปร้องทุกข์ต่อตำรวจ สน.ชนะสงคราม ของจำเลยเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดี มีเหตุบรรเทาโทษ ให้ลดโทษจำคุก 1 ใน 3 เหลือจำคุก 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา 

ต่อมาศาลชั้นต้นแจ้งต่อจำเลยและทนายจำเลยว่า จำเลยมีสิทธิอุทธรณ์คำพิพากษาในระยะเวลา 1 เดือน ขณะเดียวกันทนายความได้ยื่นคำร้องขอประกันตัวนรินทร์โดยขอใช้หลักทรัพย์ประกันเดิม เป็นหลักทรัพย์ 100,000 บาท จากกองทุนดา ตอร์ปิโด

ด้วยเหตุนี้จึงทำให้การต่อสู้ทางคดีของนรินทร์เดินทางมาถึงศาลอุทธรณ์ และได้รับคำพิพากษายกฟ้องในวันที่ 2 พ.ค. 2566 ซึ่งถ้าหากไม่เกิดการต่อสู้ทางกฎหมายต่อในชั้นศาลฎีกา นรินทร์ก็จะหลุดจากข้อกล่าวหาในคดีดังกล่าว