Skip to main content
sharethis

กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดด่านขุนทดจัดประชุมฟังความเห็นชาวบ้านที่เคยได้รับผลกระทบจากเหมืองโปแตซระหว่างเดินหน้าค้านขุดเจาะสำรวจทำเหมืองของบริษัทไทยคาลิในพื้นที่ใกล้หมู่บ้านสระสมบูรณ์และบ้านสระขี้ตุ่น อ.ด่านขุดทด โคราช

14 มิ.ย.2566 เวลา 13.30 น. กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดด่านขุนทด ร่วมประชุมการรับฟังความคิดเห็น เรื่อง การใช้พื้นที่บ้านสระสมบูรณ์และบ้านสระขี้ตุ่น ต.หนองบัวตะเกียด อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา เพื่อใช้ในกิจการของเหมืองแร่โปแตช ของบริษัท ไทยคาลิ จำกัด ณ วัดสระขี้ตุ่น

เมื่อวานนี้ (13 มิ.ย.)กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดฯ รวมตัวกันคัดค้านการขุดเจาะสำรวจแร่โปแตชของบริษัทฯ เนื่องจากทางบริษัทไม่มีการแจ้งข้อมูลการดำเนินการให้ชาวบ้านในพื้นที่ ไม่มีมาตรการป้องกันผลกระทบสิ่งแวดล้อม อีกทั้งไม่มีการประชาคมชาวบ้านในพื้นที่ รวมถึงไม่มีการขออนุญาตขุดเจาะสำรวจแร่โปแตช ทั้งที่เป็นโครงการที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบขึ้นต่อคนในพื้นที่ โดยที่เจ้าของที่ดินได้ยืนยันกับชาวบ้านในพื้นที่ว่าหากมีการประชาคมชัดเจนจากชาวบ้านในพื้นที่ก็จะยกเลิกสัญญาไม่ดำเนินการต่อ

กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดฯ จึงจัดประชาคมด่วนขึ้น เพื่อถามความคิดเห็นต่อการใช้พื้นที่เพื่อการดำเนินการของบริษัทเหมืองแร่ โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย สมัคร ปะวรรณจะ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6, สมพร ขันนอก ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 13, ชาวบ้าน หมู่ 6 และ 13 จำนวน 174 คน, ตัวแทนกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดด่านขุนทด ต.หนองไทร จำนวน 8 คน และตัวแทนเครือข่ายประชาชนผู้เป็นเจ้าของแร่ จำนวน 3 คน โดยชาวบ้านทั้งสองหมู่บ้านได้ร่วมกันอภิปรายถึงเหตุผลของการไม่เห็นด้วยกับการให้ใช้พื้นที่

จงดี มินขุนทด ได้กล่าวถึงข้อห่วงกังวลในที่ประชุมว่าอยากให้เห็นความสำคัญของการรักษาพื้นที่ และมีตัวอย่างผลกระทบจากพื้นที่บ้านหนองไทรห่างจากฝายของหมู่บ้านแค่ประมาณ 2 กิโลเมตร และการขุดเจาะที่เทแท่นในหมู่บ้านอยู่ห่างจากฝายเก็บน้ำไม่ถึง 500 เมตร ยิ่งน่าเป็นกังวลเรื่องผลกระทบโดยเฉพาะกับที่ดินทำกิน เพราะถ้าปล่อยให้มีการขุดเจาะจะเกิดปัญหาน้ำเค็มอย่างแน่นอน น้ำเค็ม ดินเค็ม ประชาชนทำมาหากินไม่ได้ น้ำจืดใต้ดินตอนนี้ก็ใช้ไม่ได้แล้ว จึงต้องรักษาที่ดินไว้ให้ลูกหลาน

ธนาวรรณ ไกนอก แสดงความคิดเห็นถึงผลกระทบต่อที่ดินของเธอจากเหมืองแร่โปแตชในพื้นที่ตำบลหนองไทรว่า เมื่อก่อนยังปลูกข้าวไว้กินและปลูกหญ้าไว้เลี้ยงวัวได้ แต่เมื่อมีการปล่อยน้ำออกมาจากพื้นที่บริษัทฯ ทำให้ใช้ที่ดินไม่ได้อีก ไปขอให้บริษัทชดใช้แต่เขาก็ไม่ชดใช้เพราะไม่ยอมรับว่าเหมืองทำให้ดินเค็มทำให้ตอนนี้ต้องนำปูนขาวนำยิปซัมมาทดลองฟื้นฟู

“เหมือนเอาขยะมาทิ้งใส่ที่ดินของชาวบ้าน บ่อน้ำสาธารณะก็กลายเป็นน้ำเค็มจากที่เคยทำประปาหมู่บ้านได้ เมื่อฝนตกเราจะเห็นว่ามีการปล่อยน้ำลงแหล่งน้ำของชุมชน จนทำให้บ้านหัวนาไม่สามารถทำประปาชุมชนได้ ทำให้ต้องจ่ายค่าน้ำในราคาแพงถึง 25 บาท ความอุดมสมบูรณ์ของปูปลาในแหล่งน้ำก็หายไป วัดเองก็ถูกกัดกร่อนจากความเค็ม และสังเกตว่าคนที่บ้านหนองไทรเริ่มเป็นภูมิแพ้กันมากขึ้น บ้านเรือนปูนถูกกัดกร่อนจนเป็นรูพรุน” ธนาวรรณกล่าว

ทั้งนี้มติที่ประชุมในครั้งนี้ มีเป็นเอกฉันท์ 175 เสียง ไม่ยินยอมให้ใช้พื้นที่บ้านสระสมบูรณ์ บ้านสระขี้ตุ่น ต.หนองบัวตะเกียด อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา เพื่อขุดเจาะหรือดำเนินการใดๆในกิจการของเหมืองแร่โปแตช บริษัท ไทยคาลิ จำกัด และชาวบ้านในพื้นที่ยืนยันอย่างหนักแน่นว่าจะต่อสู้ให้ถึงที่สุด เพื่อปกป้องที่ดิน ปกป้องที่ทำกินให้อุดมสมบูรณ์ และให้เป็นมรดกให้ลูกหลานต่อไป

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net