Skip to main content
sharethis

พรรคก้าวไกล เคาะชื่อ 'ปดิพัทธ์' ส.ส.พิษณุโลก ชิงเก้าอี้ประธานสภาฯ ด้าน 'ชลน่าน' แถลง กก.บห.ยืนยันว่านำข้อเสนอ เพื่อไทยต้องได้รัฐมนตรี 14 ตำแหน่ง บวกประมุขนิติบัญญัติ ไปคุยกับก้าวไกล 

 

27 มิ.ย. 2566 เว็บไซต์ 'ข่าวสด ออนไลน์' และ 'กรุงเทพธุรกิจ' รายงานวันนี้ (27 มิ.ย.) การคัดเลือกบุคคลลงชิงตำแหน่งประธานสภาผู้เเทนราษฎร ในส่วนของพรรคก้าวไกล ขณะนี้ได้ข้อยุติเป็นที่แน่ชัดแล้วว่า พรรคก้าวไกลจะส่ง ปดิพัทธ์ สันติภาดา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พิษณุโลก ในฐานะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) สัดส่วนภาคเหนือ ลงชิงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร

ปดิพัทธ์ สันติภาดา (ที่มา: iLaw FX)

หลังจากก่อนหน้านี้ มีแคนดิเดตประธานสภาฯ ในสัดส่วนพรรคทั้งสิ้น ประมาณ 3-4 คน อาทิ ณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคฝ่ายกฎหมาย ธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.กทม. พริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ ปดิพัทธ์ โดยเมื่อมีการเสนอชื่อนายปดิพัทธ์ ขึ้นมา ระดับเเกนนำพรรคก้าวไกลไม่มีใครคัดค้าน จึงได้เคาะชื่อนายปดิพัทธ์ โดยไม่มีการโหวตเเข่งกันเเต่อย่างใด

กรุงเทพธุรกิจ รายงานด้วยว่า กรณีที่มีกระแสข่าวการชิงเก้าอี้ประธานสภาฯ กับพรรคเพื่อไทยนั้น ในวันที่ 28 มิ.ย. 2566 พรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย จะมีการหารือกัน เพื่อหาข้อยุติความขัดแย้งกรณีส่งชื่อเป็นประธานสภาฯ และคาดว่าสามารถข้อสรุปได้ในวันดังกล่าว 

หลังจากนั้น วันที่ 29 มิ.ย. 2566 จะมีการประชุม 8 พรรคการเมืองร่วมจัดตั้งรัฐบาล คาดว่าจะมีการแถลงรายละเอียดในวันดังกล่าว 

ในวันเดียวกัน (27 มิ.ย.) หลังการประชุมพรรคเพื่อไทย ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงประเด็นเรื่องตำแหน่งประธานสภาฯ ระบุว่า มีหยิบยกประเด็นนี้เข้าไปประชุมในพรรคเพื่อไทย คณะเจรจากับพรรคก้าวไกล ได้นำเสนอต่อกรรมการบริหารของพรรค และทางกรรมการบริหารมีความเห็นยืนยันว่า ควรยืนหลักการ 14+1 หรือ รัฐมนตรี 14 ตำแหน่ง และประมุขนิติบัญญัติ หรือประธานสภาผู้แทนราษฎร 1 ตำแหน่ง นั่นเป็นข้อเสนอเบื้องต้นที่เสนอไปกับพรรคก้าวไกล และยังไม่มีการพูดคุยกันหลังจากนั้น 

สำหรับที่มีสื่อรายงานก่อนหน้านี้ได้ข้อสรุปแล้วนั้น ชลน่าน ยืนยันว่า ยังไม่มีข้อสรุปในการเจรจา จนกระทั่งกลับมาเป็นประเด็นอีกครั้ง และพรรคเพื่อไทย ได้นำเข้าหารือในการประชุมวันนี้ (27 มิ.ย.) โดยสรุปแล้ว ทางคณะกรรมการบริหารพรรคยังยืนยันหลักการเดิมคือ 14+1 

"สมาชิกส่วนใหญ่ก็ยังมีความประสงค์ และยืนยันว่าขอให้ผู้เจรจาได้รับมอบหมายจากกรรมการบริหารไปเจรจา ได้รับข้อเสนอของกรรมการบริหารไปเจรจา สมาชิกส่วนใหญ่เห็นว่าควรจะไปเจรจาในมุมที่ได้รับมอบหมายจาก กก.บห. 14 + 1" หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าว

ชูศักดิ์ ศิรินิล พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า 1. ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค และที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรของพรรคเพื่อไทย ได้หารือและได้มีความเห็นร่วมกันว่า ตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นตำแหน่งที่มีความสำคัญที่จะต้องควบคุมกำกับดูแลการดำเนินการของรัฐสภาให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญด้วยความเรียบร้อย ประธานสภาต้องวางตนเป็นกลาง ทำหน้าที่ตอบสนองความต้องการของสมาชิกและพรรคการเมืองทุกพรรค อีกทั้งยังต้องมีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์ มีวุฒิภาวะ และเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย

2. ที่ประชุมได้รับทราบว่าคณะเจรจาของพรรคได้เสนอต่อพรรคก้าวไกลในฐานะพรรคแกนนำในการเจรจาว่า สูตร 14+1 เป็นสูตรที่เป็นธรรม คำนึงถึงความเสมอภาค ให้เกียรติซึ่งกันและกัน กล่าวคือพรรคก้าวไกล ได้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ควรจะได้ตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร

3. ที่ประชุมเห็นควรยืนยันความคิดการกำหนดตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรตามสูตรดังกล่าว โดยมอบหมายให้ประธานสภามาจากพรรคเพื่อไทย ทั้งนี้ มิใช่การแก่งแย่งตำแหน่งหน้าที่ แต่คำนึงถึงความเป็นธรรม โดยยังคงเห็นความจำเป็นและให้ความสำคัญในการร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล โดยมีพรรคก้าวไกลเป็นแกนนำ และคุณพิธา เป็นนายกรัฐมนตรีให้สำเร็จลุล่วงต่อไป

4. พรรคเพื่อไทย เชื่อว่า เมื่อพิจารณาถึงปัจจัยต่างๆ พรรคเพื่อไทย เชื่อว่าการมีประธานสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคเพื่อไทย จะทำให้สภาเดินหน้าทำหน้าที่ในรัฐสภาได้ราบรื่น เรียบร้อย สามารถแสวงหาความร่วมมือจากทุกๆ ฝ่าย ทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติได้อย่างสมบูรณ์และมีประสิทธิภาพต่อไป

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net