พิธาชี้ผลเลือกประธานและรองประธานสภาฯ สะท้อนเอกภาพของ 8 พรรคร่วมตั้งรัฐบาล ชี้การดันกฎหมายต่างๆ หลังจากนี้ไม่เป็นอุปสรรคทำงานของทั้ง 3 ตำแหน่ง 'ชลน่าน' ย้ำพรรคร่วมยังดันพิธาเป็นนายกฯ แต่ก็ยังเป็นเรื่องยากเพราะ ส.ว.ไม่ได้ และต้องหาเสียงให้ครบ 376 

4 ก.ค.2566 หลังจากการผลการเลือกประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฎร พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และปดิพัทธ์ สันติภาษา ส.ส.เขตพิษณุโลก พรรคก้าวไกล ที่เพิ่งได้รับเลือกให้เป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 1 ร่วมกันแถลงข่าวถึงการลงคะแนนและประเด็นที่พรรคผลักดันจะเป็นอุปสรรคการทำงานระหว่างประธานและรองประธานหรือไม่

พิธาระบุว่าจากผลเลือกประธานสภาฯ และผลการลงคะแนนที่ปดิพัทธ์ได้มาจำนวน 312 เสียงทำให้เห็นถึงเอกภาพของพรรคร่วมทั้ง 8 พรรค กทั้งยังมีตัวเลขเพิ่มมาด้วย จึงนับเป็นแนวโน้มที่ดีในการจัดตั้งรัฐบาลและเชือว่าจะมีบรรยากาศที่ดีในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีด้วย ส่วนเรื่องกฎหมายอย่างสุราก้าวหน้า สมรสเท่าเทียม เรื่องแรงงาน รวมถึงปฏิรูปกองทัพและกฎหมายนิรโทษกรรม ก็จะไม่เป็นอุปสรรคในการทำงานของประธานและรองประธานอีกสองคน

ปดิพัทธ์ กล่าวว่าทางคณะทำงานมีข้อตกลงว่าทั้งสามตำแหน่งจะดำเนินการในวาระประชุมกันอย่างไรให้สภาไทยมีความก้าวหน้าและโปร่งใส รวมถึงเป็นของประชาชนมากขึ้น ซึ่งเรื่องนี้วันมูหะมัดนอร์ มะทาที่ได้รับเลือกให้เป็นประธานสภาฯ ก็เห็นด้วยในหลายเรื่อง และบอกว่าตนได้ลาออกจากกรรมการบริหารพรรคแล้วพร้อมที่จะเริ่มต้นทำงานอย่างเป็นกลางต่อไป

ชลน่านยันพรรคร่วมดัน 'พิธา' แต่อาจยากเดา ส.ว.ไม่ได้

นอกจากนั้นท่าทีจากทางเพื่อไทยหลังการประชุม ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทยกล่าวถึงผลการเลือกวันนี้ว่าขอบคุณที่การเลือกประธานสภาฯ มีเสียงเป็นเอกฉันท์ แต่กรณีรองประธานก็ต้องมีการแข่งขันกันบ้างเป็นสีสันแต่ก็สะท้อนว่าโอกาสที่การเสนอชื่อพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แล้วก็อาจจะต่างจากนี้เพราะเป็นการร่วมโหวตของ 2 สภา ที่จะมี ส.ว.ด้วย และพวกเราที่เป็น ส.ส.เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ไม่เหมือนกับการเลือกประธานและรองประธานสภา การคาดการณ์ว่าแต่ละสภาจะโหวตอย่างไรก็เป็นเรื่องยากโดยเฉพาะในส่วนของ ส.ว.

อย่างไรก็ตาม หัวหน้าพรรคเพื่อไทยกล่าวว่ายืนยันที่พรรคร่วมจะต้องเหมือนกันและยืนหยัดว่าเรายังสนับสนุนพิธาอยู่ แต่ก็ยังมีเรื่องที่ต้องแสวงหาเสียงให้ได้มากที่สุดเพื่อให้ได้ถึง 376 เสียงจากทั้งสองสภา

ชลน่านกล่าวต่อว่าหลังจากนี้ขั้นตอนต่อไปต้องรอโปรดเกล้าตำแนห่งประธานสภาฯ ให้เสร็จสิ้นก่อนและหลังจากมีพระบรมราชโองการมาถึงจะเข้าสู่กระบวนการเลือกนายกรัฐมนตรีเชื่อว่าไม่นานเกิน 2 สัปดาห์