Skip to main content
sharethis

"ยืนหยุดทรราช" เชียงใหม่ สัปดาห์ที่ 56 ศูนย์ทนายฯ รายงานสัปดาห์ที่ผ่านมา ศาลเยาวชนพัทลุงพิพากษาจำคุก 2 ปี 12 เดือน คดี ม.112 ของ “เบลล์” นักศึกษากฎหมาย มหาวิทยาลัยรามคำแหง ศูนย์หาดใหญ่ จากกรณีโพสต์ภาพลงเพจเฟซบุ๊ก “พัทลุงปลดแอก” และ “ประชาธิปไตยในด้ามขวาน” เมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2563 แต่เปลี่ยนโทษเป็นส่งเข้าศูนย์ฝึกอบรมฯ

 

15 ก.ค. 2566 เวลา 17.00 - 18.12 น. กลุ่ม ‘We, The People’ จัดกิจกรรม "ยืนหยุดทรราช" เชียงใหม่ สัปดาห์ที่ 56 ที่ลานท่าแพ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า ศาลเยาวชนพัทลุงพิพากษาจำคุก 2 ปี 12 เดือน คดี ม.112 ของ “เบลล์” นักศึกษากฎหมาย มหาวิทยาลัยรามคำแหง ศูนย์หาดใหญ่ จากกรณีโพสต์ภาพในเพจเฟซบุ๊ก “พัทลุงปลดแอก” และ “ประชาธิปไตยในด้ามขวาน” เมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2563 แต่เปลี่ยนโทษเป็นส่งเข้าศูนย์ฝึกอบรมฯ

ภาพกิจกรรม "ยืนหยุดทรราช" เชียงใหม่ สัปดาห์ที่ 56

 เบลล์ นักศึกษาอายุ 19 ปี ถูกฟ้องในข้อกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112, มาตรา 116 (2) (3) และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3) กรณีนี้มี ร.ต.อ.รณกร หุ้มขาว เป็นผู้กล่าวหา มีการดำเนินการแยกเป็นสองส่วน ได้แก่ คดีของนักศึกษาและนักกฎหมายอาสา รวมจำนวน 3 ราย ที่ถูกสั่งฟ้องคดีที่ศาลจังหวัดพัทลุง อยู่ระหว่างการสืบพยาน และคดีของ “เบลล์” ที่ขณะเกิดเหตุนั้น มีอายุ 17 ปี ทำให้ถูกแยกดำเนินคดีในฐานะเยาวชน 

ศาลอ่านคำพิพากษาโดยเห็นว่าจำเลยมีความผิดในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112, มาตรา 116 (2) และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3) ในทั้ง 2 กระทง โดยให้ยกฟ้องเฉพาะข้อหามาตรา 116 (3) ลงโทษจำคุกกระทงละ 1 ปี 6 เดือน รวมโทษจำคุก 2 ปี 12 เดือน

เนื่องจากขณะเกิดเหตุจำเลยยังเป็นเยาวชน ศาลจึงอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.ศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.2553 มาตรา 142 (1) เปลี่ยนจากโทษจำคุกเป็นคุมประพฤติ นำตัวไปฝึกอบรมที่ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน เป็นระยะเวลา 2 ปี กำหนดที่ศูนย์ฝึกอบรมเขต 8 จังหวัดสุราษฎร์ธานี

สำหรับเนื้อหาคำวินิจฉัยโดยสรุปเห็นว่า จากการนำสืบพยาน ศาลเชื่อได้ว่าจำเลย และจำเลยอีกรายหนึ่งที่ถูกฟ้องคดีที่ศาลจังหวัดพัทลุง ดำเนินการเป็นแอดมินเพจเฟซบุ๊ก “พัทลุงปลดแอก” จริง ตามพยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบ มีสถานที่เกิดเหตุอยู่จริงยากที่จะตัดต่อ แต่งเรื่อง ทำให้น้ำหนักของพยานหลักฐานโจทก์มีน้ำหนักรับฟังได้

แม้จำเลยรับว่าเป็นผู้ติดตามและแสดงความเห็นในเพจพัทลุงปลดแอก โจทก์สืบได้ว่าจำเลยเป็นผู้ดูแลเพจและตั้งค่าโพสต์สาธารณะ มีความเกี่ยวข้องและมีส่วนรู้เห็นกันกับโพสต์ดังกล่าว และยังพบภาพจากกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุต่างๆ ว่า พบชายหญิงกลุ่มหนึ่ง 3-4 คน ในวันที่ 25 พ.ย. 2563 ข้อต่อสู้ของจำเลยว่าอยู่ในงานวันเกิดเพื่อน ไม่เกี่ยวกับโพสต์ข้อความ จึงไม่สามารถหักล้างกับพยานโจทก์ได้

ศาลยังเห็นว่า ประเด็นเพจเฟซบุ๊ก “พัทลุงปลดแอก” โพสต์ข้อความโดยอ้างชื่อของจำเลย ให้ติดต่อร้องเรียนกรณีมีเรื่องถูกคุกคามได้ แม้ตัวจำเลยจะอ้างว่ามิได้เป็นแอดมินเพจเฟซบุ๊กดังกล่าวก็ตาม แต่ก็ไม่ได้พิสูจน์หักล้างตามวิธีการที่พยานผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคเบิกความ คือไม่ได้ติดต่อกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือติดต่อทางเพจเฟซบุ๊กดังกล่าวว่าแอดมินคือใคร ประหนึ่งยินยอมให้ใช้ชื่ออ้างอิงดังกล่าว พยานหลักฐานของโจทก์จึงมีความน่าเชื่อได้ว่าจำเลยเป็นแอดมินเพจดังกล่าว

กรณีโพสต์รูปภาพและข้อความที่เป็นมูลเหตุในคดี พยานโจทก์ 5 ปาก ต่างอาชีพ ต่างอายุกัน เป็นความเห็นของวิญญูชนทั่วไปอ่านแล้ว รู้สึกว่าเป็นการหมิ่นประมาทและอาฆาตมาดร้ายรัชกาลที่ 10 ว่าประพฤติตนไม่เหมาะสม เอาเปรียบประชาชน และข้อความว่า “เผด็จการจงพินาศ” ตีความได้ว่าหมายถึงให้องค์พระมหากษัตริย์พินาศย่อยยับ ซึ่งเป็นการแสดงความอาฆาตมาดร้าย ลดทอนคุณค่า ความน่าเชื่อถือขององค์พระมหากษัตริย์ และอาจทำให้ประชาชนก่อความไม่สงบในสังคมได้ เป็นการสร้างความกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน การกระทำของจำเลยไม่ได้เป็นการแสดงความคิดเห็นภายใต้ความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ ในส่วนของการทำให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดินนั้น ปากคำพยานโจทก์ยังไม่ชัดนัก จึงให้ยกฟ้องข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 (3)

หลังอ่านคำพิพากษา เบลล์ได้ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไปใต้ถุนศาล เพื่อรอการประกันตัว 

ต่อมาศาลเยาวชนฯ มีคำสั่งอนุญาตให้ประกันตัวจำเลยระหว่างอุทธรณ์ โดยให้วางหลักประกันจำนวน 7,500 บาท จากเดิมที่เคยวางไว้ในขณะสั่งฟ้องคดีจำนวน 5,000 บาท จึงต้องวางหลักประกันเพิ่มเติมอีก 2,500 บาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขการประกันตัว ให้มารายงานตัวต่อศาลตามที่กำหนดในทุกเดือน และห้ามกระทำในลักษณะเดิมอีก โดยฝ่ายจำเลยเตรียมยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาต่อไป

 

 

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net