‘เพื่อไทย’ เดินหน้าตาม ‘มติ 8 พรรคร่วม’ คุย ‘ภูมิใจไทย’ หารือหาทางออกประเทศ เร่งจัดตั้งรัฐบาลแก้ปัญหาให้ประชาชน 'อนุทิน' ย้ำไม่สามารถทำงานได้หากยังมี 'ก้าวไกล' อยู่ เพราะแนวทางวิธีคิดต่างกัน แต่หากมีอะไรที่จะสามารถผ่านอุปสรรคไปได้ ภูมิใจไทยพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับเพื่อไทยในฐานะพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเพื่อประโยชน์ของประเทศ ด้าน 'ชาติพัฒนากล้า' มีเงื่อนไขไม่ให้แก้ ม.112 ถึงจะเข้าร่วมรัฐบาล

22 ก.ค. 2566 ทีมสื่อพรรคเพื่อไทยรายงานว่านายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค นายประเสริฐ จันทรรวงทอง สส.บัญชีรายชื่อและเลขาธิการพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยและแกนนำพรรคภูมิใจไทย ร่วมกันแถลงข่าวภายหลังการหารือเพื่อร่วมกันหาทางออกให้กับประเทศ ตามติ 8 พรรคร่วมที่มอบภารกิจให้พรรคเพื่อไทยหาเสียงสนับสนุนเพิ่มเติม

นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า การเชิญพรรคภูมิใจไทยมาครั้งนี้ก็เพื่อปรึกษาหารือถึงแนวทางที่จะร่วมมือกันทางออกให้กับประเทศในการที่จะจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ สืบเนื่องจาก 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลก่อนหน้านี้ที่มีพรรคก้าวไกลเป็นแกนนำ แต่พรรคก้าวไกลไม่ได้รับโอกาสจากที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา ต่อมาทั้ง 8 พรรคได้มีมติร่วมกันมอบภารกิจในการจัดตั้งรัฐบาลให้กับพรรคเพื่อไทย ในการดำเนินการหาเสียงสนับสนุนเพิ่มเติมจากพรรคการเมือง โดยเริ่มต้นจากพรรคภูมิใจไทย ซึ่งได้มาปรึกษาหารือเพื่อหาทางออกในการที่จะจัดตั้งรัฐบาลรวมทั้งหารือกันถึงความร่วมมือกันว่าเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนในการที่จะทำงานร่วมกัน

ขณะที่ นายอนุทิน กล่าวว่าขอขอบคุณพรรคเพื่อไทย ที่ได้เชิญมาพบปะหารือถึงการแก้ไขปัญหาบ้านเมือง ซึ่งเป็นไปด้วยบรรยากาศที่ดีเพราะทุกคนก็เคยอาศัยอยู่ที่นี่มาก่อน เมื่อได้กลับมาก็รู้สึกดีใจและนึกถึงบรรยากาศเก่าๆ และได้มารับทราบเจตนารมณ์ของพรรคเพื่อไทย ที่อยากจะให้แก้ปัญหาการเมืองโดยเร็วที่สุด อยากให้ประเทศไทยมีรัฐบาลมาบริหารราชการแผ่นดินโดยเร็วที่สุด ก็ได้กราบเรียนหัวหน้าพรรคและผู้บริหารพรรคเพื่อไทยว่าพรรคภูมิใจไทยมีข้อจำกัดอย่างไรบ้าง และมีความจำเป็นที่จะต้องเรียนให้ทราบว่าการจะเข้ามามีส่วนร่วมใดๆ เราจะไม่สามารถทำงานได้หากยังมีพรรคก้าวไกลอยู่ ซึ่งไม่ได้เป็นเรื่องความขัดแย้งใดๆ แต่เป็นเรื่องแนวทางการทำงาน ความคิดและวิธีการทำงาน แต่หากมีอะไรที่จะสามารถผ่านอุปสรรคไปได้ พรรคภูมิใจไทยก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับพรรคเพื่อไทยในฐานะของพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเพื่อประโยชน์ของประเทศ

'ชาติพัฒนากล้า' มีเงื่อนไขไม่ให้แก้ ม.112 ถึงจะเข้าร่วมรัฐบาล

Thai PBS รายงานว่าวันนี้ (22 ก.ค.) นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ รักษาการหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า พร้อมนายเทวัญ ลิปตพัลลภ นายวัชรพล โตมรศักดิ์ จากพรรคพัฒนากล้า ถึงพรรคเพื่อไทย ตามเทียบเชิญของพรรคเพื่อไทย หารือแนวทางแก้ไขปัญหาวิกฤติและทางออกของประเทศร่วมกัน บรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่น มีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย มาต้อนรับ

โดยนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ รักษาการหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้ากล่าวว่า ก่อนอื่นขอขอบคุณพรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำ 8 พรรคร่วม ที่ให้เกียรติเชิญ ถือว่าเป็นการเชิญครั้งที่ 2

ก่อนที่มาหารือกับเพื่อไทย วันนี้ที่ทำการพรรคชาติพัฒนากล้า มีการประชุมกำหนดท่าทีในการเข้าร่วมรัฐบาล เพื่อให้เกิดความชัดเจน วันนี้ รักษาการกรรมการบริหาร มีมติพรรคในเรื่องของจุดยืนในการเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาล เพื่อไม่ให้เกิดสุญญากาศในการจัดตั้งรัฐบาล

พรรคชาติพัฒนากล้ามีจุดยืนในเชิงนโยบายและแนวทาง ทางการเมืองที่ได้ดีเบตในที่สาธารณะในช่วงเลือกตั้งมาตลอด และวันนี้มีมติที่พรรครับรอง 4 ประเด็น 

1. ชาติพัฒนากล้า จะสนับสนุนให้เกิดรับบาลเสียงข้างมาก ไม่สนับสนุนรัฐบาลเสียงข้างน้อย

2. สนับสนุนพรรคการเมืองที่ได้เสียงอันดับ 1 ในการจัดตั้งรับบาล แต่ถ้าพรรคอันดับ 1 ไม่สามารถทำได้ ก็ต้องให้พรรคอันดับ 2 ลดหลั่นลงมา 

3. เร่งรัดแก้ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจต่างๆที่ประชาชนเดือดร้อน

4. ชาติพัฒนากล้า มีจุดยืนในนโยบาย ม.112 ว่าเราขอคงไว้และไม่มีการแก้ไขแต่อย่างใด 

หลังจากที่มีการประชุมรัฐสภาไปแล้ว 2 ครั้ง และไม่สามารถที่จะได้นายกฯ นำไปสู่การเปลี่ยนพรรคแกนนำของ 8 พรรค ซึ่งเป็นไปตามผลลำดับคะแนน โครงสร้างของกลุ่มเป็นเสียงข้างมาก โดยภายใต้แกนนำที่เป็นพรรคเพื่อไทยที่พยายามจัดตั้งรัฐบาลเพื่อช่วยพี่น้องประชาชน

ด้วย 3 ประการนี้เป็นสิ่งที่ชาติพัฒนากล้ามีความเห็นและเชื่อมั่นภายใต้การนำของเพื่อไทยและเป็นไปตามแนวทางของ พรรค

"เกือบทุกข้อยกเว้นข้อเดียวคือ นโยบายแก้ไข 112 ของก้าวไกล"

ซึ่งไม่ตรงกับแนวทางของชาติพัฒนากล้า ที่ไม่ต้องการแก้ไขและขอให้คงไว้ วันนี้เมื่อได้มีโอกาสหารือกับพรรคเพื่อไทย ได้มีมติพรรคว่า พรรคชาติพัฒนากล้าพร้อมเข้าร่วมในการจัดตั้งรัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และจะสนับสนุนแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทยให้ได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา

"ส่วนการแก้ไข 112 ของก้าวไกลนั้น ถ้ายังคงอยู่ก็อาจจะไม่สอดคล้องกับพรรค และไม่ตรงกับมติพรรค ก็จะไม่สามารถเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทยได้"