Skip to main content
sharethis

ในขณะที่สหรัฐฯ กำลังเผชิญกับหมอกควันไฟป่า แต่คนทำงานชาวอเมริกันจำนวนมากกลับไม่ได้รับการปกป้อง มีเพียง 3 รัฐในสหรัฐฯ ที่มีมาตรการป้องกันคนทำงานจากมลพิษหมอกควันไฟป่า


ที่มาภาพ: USFWS (CC0)

สื่อที่เกาะติดประเด็นท้องถิ่นสหรัฐอเมริกาอย่าง Stateline ภายใต้ The Pew Charitable Trusts รายงานว่า คนทำงานอเมริกันหลายล้านคนได้สูดเอามลพิษทางอากาศในระดับที่เป็นอันตรายในปี 2023 นี้ เนื่องจากหมอกควันไฟป่าข้ามแดนจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างแคนาดาที่ปกคลุมเมืองต่างๆ ทั่วภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

หลายฝ่ายกำลังเรียกร้องให้หน่วยงานกำกับดูแลของรัฐบาลกลาง ออกกฎระเบียบใหม่ในการปกป้องคนทำงานกลางแจ้งจากคุณภาพอากาศที่เลวร้าย ซึ่งอาจใช้ต้นแบบมาจากบางรัฐที่มีกฎระเบียบดังกล่าวอยู่แล้ว เช่นแคลิฟอร์เนีย โอเรกอน และวอชิงตัน

กฎระเบียบที่ว่าอาจกำหนดให้นายจ้างตรวจสอบมลพิษทางอากาศ และจัดหาอุปกรณ์ป้องกันให้คนทำงาน เช่น หน้ากาก N95 ในวันที่ระดับคุณภาพอากาศต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ทั้งนี้ในหลายๆ ประเทศ หมอกควันไฟป่าที่สร้างความเสียหายต่อสุขภาพนั้นเป็นข้อกังวลที่ค่อนข้างใหม่ ในสหรัฐฯ แม้แต่ผู้ที่สนับสนุนกฎระเบียบดังกล่าวชี้ว่ารัฐที่มีการบังคับใช้กฎเหล่านี้ยังมีปัญหาในการดำเนินการ


หมอกควันไฟป่าข้ามแดนจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างแคนาดาที่ปกคลุมเมืองต่างๆ ทั่วภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ | ที่มาภาพ: The Mirror

ในเมืองต่างๆ ทั่วภาคตะวันออกเฉียงเหนือและมิดเวสต์ มลพิษทางอากาศที่รุนแรงยาวนานเมื่อเดือน มิ.ย. 2023 ถูกบันทึกไว้เป็นสถิติใหม่ กระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยาจากนายจ้างในวงกว้าง ในเพนซิลเวเนีย ไปรษณีย์สหรัฐฯ (U.S. Postal Service) อนุญาตให้คนส่งไปรษณีย์บางรายออกจากเส้นทางปกติของพวกเขา เนื่องจากมลพิษทางอากาศที่เลวร้าย ในมินีแอโพลิส มีรายงานว่าคนทำงานก่อสร้างมีอาการเมื่อยล้าและหอบหืด หลังจากทำงานเสร็จสิ้นกะ

ในนครนิวยอร์ก วิลเลียม เมดินา (William Medina) พนักงานส่งผ่านแพลตฟอร์ม Uber สวมหน้ากากอนามัยขับมอเตอร์ไซค์ฝ่าหมอกควันหนาทึบที่ทำให้หายใจลำบาก แม้แผนกแรงงานของรัฐ จะสนับสนุนให้นายจ้างสามารถจำกัดหรือระงับการทำงานกลางแจ้งได้ แต่การปฏิบัติต้องเป็นไปโดยความสมัครใจของนายจ้าง (หมายถึงไม่มีการบังคับ)

“พวกเขาเตือนเราเมื่อมีพายุ” เมดินา กล่าวถึงแอปพลิเคชันที่เขาทำงานให้ “แต่ไม่มีการแจ้งเตือนเกี่ยวกับคุณภาพอากาศและไม่มีการเตรียมการสำหรับเรื่องนี้”

ผู้สนับสนุนสิทธิแรงงานและความปลอดภัยในการทำงานระบุว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นบ่อยขึ้น ในขณะที่โลกกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ  ไฟป่ากำลังขยายวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ และหมอกควันไฟป่าก็ปกคลุมพื้นที่ของรัฐต่างๆ ในสหรัฐฯ มากขึ้น

เมื่อปี 2022 รายงานจาก National Academy of Sciences สรุปว่า “คนทำงานจำนวนมากไม่ได้รับการป้องกัน" จากหมอกควันไฟป่า

เดวิด ไมเคิลส์ (David Michaels) อดีตผู้ช่วยเลขาธิการฝ่ายแรงงานของสำนักงานบริหารความปลอดภัยและอาชีวอนามัย (Occupational Safety and Health Administration - OSHA) กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับ Stateline ว่า “อันตรายในที่ทำงานกลายเป็นภัยคุกคามอย่างกะทันหันและรวดเร็วมากขึ้น เนื่องจากวิกฤตสภาพภูมิอากาศ”

เมื่อคุณทำงานกลางแจ้ง คุณต้องภาวนาให้สภาพอากาศเมตตาปราณีคุณ


ไฟป่าในทวีปอเมริกาเหนือรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ | ที่มาภาพ: USFWS Mountain-Prairie (CC BY 2.0)

นับตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1980 เป็นต้นมา ไฟป่าในทวีปอเมริกาเหนือแผ่ขยายเป็นวงกว้างและรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ สถานการณ์เลวร้ายลงเนื่องจากภัยแล้ง หิมะละลายเร็ว ความร้อนจัด และผลกระทบอื่นๆ จากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แม้จะถูกมองว่าเป็นปัญหาระดับภูมิภาคมานานหลายทศวรรษ แต่หมอกควันไฟป่าก็กำลังแผ่ขยายเพิ่มขึ้นไปในพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศ

จากการศึกษาที่ตีพิมพ์ในปี 2023 ใน American Journal of Public Health พบว่า 87% ของชาวอเมริกันเผชิญกับหมอกควันหนาทึบในปี 2021 มากกว่าในปี 2011 การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นในรัฐต่างๆ ทางตะวันออกของแม่น้ำมิสซิสซิปปี เช่น นิวเจอร์ซีย์ นิวยอร์ก โอไฮโอ และเพนซิลเวเนีย เช่นเดียวกับในรัฐทางตะวันตก เช่น แอริโซนา แคลิฟอร์เนีย โคโลราโด และวอชิงตัน

การเพิ่มขึ้นของหมอกควันดังกล่าวก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพของประชาชน เนื่องจากหมอกควันไฟป่าประกอบด้วยสารเคมีที่ระเหยเป็นไอและอนุภาคขนาดจิ๋วที่ไม่อาจคาดเดาได้ มันสามารถเข้าสู่กระแสเลือดเมื่อสูดดมเข้าไปแม้ในระดับต่ำ มลพิษจากหมอกควันไฟป่ายังสร้างความระคายเคืองตาและอาการทางเดินหายใจของผู้ที่แพ้ง่าย เช่น เด็ก ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีอาการเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจหรือหัวใจและหลอดเลือดอยู่ก่อนแล้ว การสูดดมหมอกควันในระดับที่สูงขึ้นอาจทำให้หัวใจวายและทำลายปอดได้

เนลลี บราวน์ (Nellie Brown) นักสุขศาสตร์อุตสาหกรรมและผู้อำนวยการโครงการสุขภาพและความปลอดภัยในที่ทำงาน ของคณะวิชาอุตสาหกรรมและแรงงานสัมพันธ์แห่งมหาวิทยาลัยคอร์เนลล์ กล่าวว่าการหายใจเอาหมอกควันไฟป่าเข้าไปอาจทำให้ผู้คนรับเอาจุลินทรีย์และสารก่อมะเร็งหลายชนิดเข้าสู่ร่างกาย ขึ้นอยู่กับวัสดุที่เผาไหม้ ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายอย่างร้ายแรงต่อคนทำงานก่อสร้าง คนทำงานในไร่ ผู้ปฏิบัติการฉุกเฉิน และชาวอเมริกันอีกจำนวน 11 ล้านคน ที่ทำงานกลางแจ้ง ตามตัวเลขปี 2022 จากสำนักสถิติแรงงานสหรัฐฯ 

“บางครั้งเราพูดกับคนอื่นว่า 'ปรับชั่วโมงทำงาน อย่าทำงานข้างนอกเมื่ออากาศมันแย่จริงๆ' — แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะจัดการได้เช่นนั้น” บราวน์ กล่าว “เมื่อคุณทำงานกลางแจ้ง คุณก็ต้องภาวนาให้สภาพอากาศข้างนอกนั่นเมตตาปราณีคุณ”

เพื่อช่วยให้นายจ้างและคนทำงานรับมือกับอันตรายที่เพิ่มขึ้นเหล่านี้ สถาบันแห่งชาติเพื่อความปลอดภัยและอาชีวอนามัย (National Institute for Occupational Safety and Health - COSH) ซึ่งเป็นหน่วยงานหนึ่งของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา (U.S. Centers for Disease Control and Prevention - CDC) แนะนำให้นายจ้างตรวจสอบคุณภาพอากาศในพื้นที่ และดำเนินการมาตรการปกป้องคนทำงาน

ตัวอย่างเช่น นายจ้างสามารถจัดตารางใหม่หรือย้ายคนทำงานกลางแจ้ง กำหนดให้มีการหยุดพักบ่อยขึ้นและจัดหาอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล เช่น หน้ากาก N95 (หน้ากากอนามัยและหน้ากากผ้าไม่สามารถกรองอนุภาคขนาดเล็กในมลพิษจากหมอกควันไฟป่าได้)

อย่างไรก็ตาม นายจ้างไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้ อาร์เดน โรเวลล์ (Arden Rowell) ศาสตราจารย์แห่งวิทยาลัยกฎหมายแห่งมหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ ผู้ศึกษากฎข้อบังคับด้านความปลอดภัยของระบบทางเดินหายใจ ชี้ว่าในความเป็นจริงแล้ว ไม่มีมาตรฐานเฉพาะของรัฐบาลกลางในการปกป้องคนทำงานกลางแจ้งจากหมอกควันไฟป่า มีเพียง 3 รัฐ ได้แก่ แคลิฟอร์เนีย โอเรกอน และวอชิงตัน ที่อยู่ระหว่างการสรุปกฎระเบียบของตนอยู่ 

“การรับประกันการคุ้มครองคนทำงาน ที่เราหลายคนคิดว่าเรามีดูเหมือนจะไม่มีประสิทธิภาพ” โรเวลล์ กล่าว “เมื่อเราเห็นไฟมากขึ้น เราจะเห็นความเสี่ยงมากขึ้น ทุกรัฐจำเป็นต้องเติมเต็มช่องว่างนี้หรือไม่”

กฎระเบียบข้อบังคับของรัฐที่มีอยู่เป็นรูปแบบหนึ่งที่เป็นไปได้ ในการปกป้องคนงานจากหมอกควันไฟป่า แม้ว่ารายละเอียดเฉพาะจะแตกต่างกัน แต่โดยทั่วไปแล้วกฎระเบียบของรัฐแคลิฟอร์เนียและโอเรกอนกำหนดให้นายจ้างต้องฝึกอบรมเรื่องความเสี่ยงด้านสุขภาพและความปลอดภัยให้แก่พนักงาน และจัดให้มีการเปลี่ยนแปลงตารางเวลา การย้ายงาน หรือการแทรกแซงอื่นๆ ในวันที่คุณภาพอากาศแย่

ในงานที่ไม่สามารถเลื่อนเวลาหรือย้ายพนักงานได้ กฎระเบียบของรัฐกำหนดให้นายจ้างจัดเตรียมหน้ากากคุณภาพสูง เช่น หน้ากาก N95 เมื่อระดับมลพิษสูงขึ้น และพนักงานจะต้องสวมหน้ากากดังกล่าว

ข้อถกเถียงเรื่องการบังคับใช้


ในบางรัฐมีกฎระเบียบที่ว่านายจ้างต้องตรวจสอบมลพิษทางอากาศ และจัดหาอุปกรณ์ป้องกันให้คนทำงาน เช่น หน้ากาก N95 ในวันที่ระดับคุณภาพอากาศต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนด | ที่มาภาพ: CDC (CC0)

เช่นเดียวกับการคุ้มครองคนทำงานทั้งหมด กฎระเบียบเหล่านี้อาจไม่สามารถป้องกันได้ ทั้งกลุ่มสนับสนุนสิทธิแรงงานและภาคธุรกิจต่างวิพากษ์วิจารณ์แง่มุมของการนำไปปฏิบัติ 

มาร์ซี โกลด์สตีน-เกลบ์ (Marcy Goldstein-Gelb) ผู้อำนวยการบริหารของ COSH ซึ่งอยู่ฝ่ายสนับสนุนสิทธิแรงงานกล่าวว่า ทั้งแคลิฟอร์เนียและโอเรกอนไม่ได้กำหนดให้นายจ้างเสนอการหยุดพักโดยได้รับค่าจ้างในวันที่คุณภาพอากาศต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ตามที่สหภาพแรงงานเรียกร้อง

ส่วนผู้สนับสนุนสิทธิแรงงานในแคลิฟอร์เนีย ยังตำหนิรัฐที่ใช้กลไกการรายงานต่อหน่วยงานภาครัฐมากเกินไป โดยโต้แย้งว่าชาวแคลิฟอร์เนียจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ไม่พูดภาษาอังกฤษ จะลังเลที่จะรายงานต่อหน่วยงานของรัฐของเพราะกลัวว่าจะถูกตอบโต้จากนายจ้าง

การกำหนดเกณฑ์ที่แน่นอนในการดำเนินการของนายจ้างยังท้าทายหน่วยงานกำกับดูแลของรัฐอีกด้วย รัฐแคลิฟอร์เนียกำหนดให้นายจ้างจัดหาเครื่องป้องกันเมื่อมลพิษถึงระดับ "ไม่ดีต่อสุขภาพ" ตามดัชนีคุณภาพอากาศของสำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมแห่งสหรัฐอเมริกา (U.S. Environmental Protection Agency - EPA) เป็นต้น ส่วนกฎระเบียบของโอเรกอนและวอชิงตัน นั้นเริ่มต้นที่ระดับ "ไม่ดีต่อสุขภาพสำหรับกลุ่มที่เปราะบาง" (ซึ่งเป็นระดับเบากว่าแคลิฟอร์เนีย)

โฆษกแผนกแรงงานและอุตสาหกรรมของวอชิงตัน กล่าวว่ารัฐเลือกเกณฑ์ดังกล่าวตามคำแนะนำจากองค์การอนามัยโลก (WHO) และกระทรวงสาธารณสุขของรัฐ หลังจากการประกาศในเดือน ม.ค. 2023 ว่า EPA จะลดเกณฑ์ของตนเองในไม่ช้า

แจน ฮิมเมบอห์ (Jan Himebaugh) กรรมการผู้จัดการฝ่ายกิจการภายนอกของสมาคมอุตสาหกรรมอาคารแห่งวอชิงตันกล่าวว่า แต่การนำมาตรฐานที่ต่ำกว่ามาใช้บังคับให้ธุรกิจต้องจ่ายเงินซื้อหน้ากาก N95 ให้กับคนทำงานที่ไม่ต้องการหน้ากากดังกล่าว

อดัม แอร์โรลดี (Adam Airoldi) ผู้ดูแลโครงการเพาะเลี้ยงรุกขชาติของคณะกรรมาธิการสวนสาธารณะและนันทนาการแห่งรัฐวอชิงตัน ระบุว่ามันยังเสี่ยงต่อการทำให้พนักงานแปลกแยก แผนกของแอร์โรลดี ได้ให้การฝึกอบรมเรื่องอันตรายจากหมอกควันไฟป่าและแจกจ่ายหน้ากาก N95 แก่เจ้าหน้าที่ดูแลต้นไม้ ซึ่งดูแลต้นไม้ในสวนสาธารณะของวอชิงตัน แต่กลับพบว่าการใช้หน้ากาก N95 กลับไม่แพร่หลาย คนทำงานจำนวนมากคุ้นเคยกับการทำงานในสภาพคุณภาพอากาศที่ “ไม่ดีต่อสุขภาพสำหรับกลุ่มที่เปราะบาง” โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางตะวันออกของเทือกเขาคาสเคด 

"มีความเสี่ยงที่รับรู้ได้" แอร์โรลดี กล่าว “ผมต้องการให้คนที่ทำงานให้ผมปลอดภัยและทำงานได้ดี แต่หากมีการวางกฎระเบียบที่พวกเขารู้สึกว่าไม่จำเป็น พวกเขาก็จะไม่ปฏิบัติตาม”

ผู้เชี่ยวชาญบางคนโต้แย้งว่า การใช้โวหารประเภทนี้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการดำเนินการเพิ่มเติมโดย OSHA ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐบาลกลางที่มีหน้าที่ควบคุมและบังคับใช้อุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน รัฐส่วนใหญ่ปฏิบัติตามกฎของ OSHA แม้ว่า 22 รัฐ จะดำเนินแผนด้านสุขภาพและความปลอดภัยแยกต่างหาก ซึ่งอาจเข้มงวดกว่าหรือครอบคลุมกว้างกว่าของ OSHA ด้วยซ้ำ

ในปี 2022 National Academy of Sciences แนะนำให้ OSHA ออกมาตรฐานเกี่ยวกับการสัมผัสฝุ่นละอองในสถานที่ทำงานใหม่ รวมถึงหมอกควันไฟป่า และกำหนดให้นายจ้างใช้มาตรการป้องกัน เช่น จัดหาหน้ากากคุณภาพสูง ณ ระดับมลพิษที่กำหนด

โกลด์สตีน-เกลบ์ จาก OSHA  กล่าวว่า แต่มาตรฐานดังกล่าวจะใช้เวลาอีกหลายปีกว่าจะเสร็จสมบูรณ์ เนื่องจากปัญหาการขาดบุคลากรที่เรื้อรังในหน่วยงานและกระบวนการกำหนดกฎเกณฑ์ที่ยาวนาน OSHA ยังไม่ได้ออกมาตรฐานหลายฉบับที่ดำเนินการมาเป็นเวลาหลายปี รวมถึงกฎเกี่ยวกับความร้อนจัด โรคติดเชื้อ และความรุนแรงในที่ทำงาน

OSHA ไม่ได้รวมมาตรฐานสำหรับคุณภาพอากาศโดยรอบไว้ในวาระการกำกับดูแลในปัจจุบัน โฆษกของหน่วยงานให้ข้อมูลกับ Stateline ทางอีเมล

“โอกาสที่รัฐบาลกลางจะสร้างมาตรฐานการป้องกันหมอกควันไฟป่านั้นไม่เพียงแต่ต่ำเท่านั้น แต่ยังต้องใช้เวลาอย่างน้อย 4-7 ปี เป็นอย่างน้อย” โกลด์สตีน-เกลบ์ ผู้แนะนำให้คนทำงานสนับสนุนมาตรการความปลอดภัยในสถานที่ทำงานกล่าว “เราไม่สามารถรอการดำเนินการได้นานขนาดนั้น”

ที่สำคัญ แม้ว่า OSHA จะนำระบบป้องกันหมอกควันไฟป่ามาใช้อย่างรวดเร็ว เช่น ผ่านมาตรฐานชั่วคราวในกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยังไม่ครอบคลุมคนทำงานกลางแจ้งหลายล้านคน ตามกฎหมายแล้ว กฎระเบียบของ OSHA ไม่ได้ครอบคลุมถึงคนทำงานภาครัฐ คนทำงานในฟาร์มขนาดเล็ก หรือในระบบเศรษฐกิจขนาดใหญ่ เช่น เมดินา แรงงานแพลตฟอร์มส่งของในนครนิวยอร์ก


วิลเลียม เมดินา กับสภาพอากาศที่ย่ำแย่จากหมอกควันไฟป่าข้ามแดน ในนครนิวยอร์ก

ในช่วงที่คุณภาพอากาศแย่ลงเมื่อเดือน มิ.ย. 2023 เมดินา หยุดรถมอเตอร์ไซค์ของเขาบนสะพานที่มีคนพลุกพล่านระหว่างส่งสินค้าเพื่อถ่ายรูปกลุ่มหมอกควัน เขายังเป็นผู้นำกลุ่มแรงงาน Los Deliveristas Unidos ซึ่งสนับสนุนสิทธิแรงงานส่งของในนิวยอร์ก กล่าวว่าเขาต้องการแสดงให้เห็นว่าแรงงานแพลตฟอร์มจำนวนมากต้องเผชิญกับปัญหาต่างๆ ทั้งการไม่ได้รับผลประโยชน์จากค่าจ้างขั้นต่ำ ไม่มีการประกันหรือการคุ้มครองสุขภาพขั้นพื้นฐาน

เมื่องานของวันนี้เสร็จสิ้นลง เขาและเพื่อนร่วมงานก็มุ่งหน้ากลับบ้านเพื่อแจกจ่ายหน้ากาก N95 ให้กับพนักงานส่งของคนอื่นๆ

“มีปัจจัยอันซับซ้อนอยู่เบื้องหลังให้แต่ละคนตัดสินใจเกี่ยวกับเรื่องความเสี่ยง” โรเวลล์ ศาสตราจารย์ด้านกฎหมายแห่งมหาวิทยาลัยอิลลินอยส์กล่าว “ซึ่งพวกเขากำลังตัดสินใจโดยปราศจากการสนับสนุน การวิจัย และความเชี่ยวชาญ ที่พวกเขาหวังว่าจะได้รับจากรัฐบาลกลาง”


ที่มา:
Workers lack protections when wildfire smoke makes the air dangerous (Caitlin Dewey, Stateline, 18 July 2023)


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net