Skip to main content
sharethis
  • 'พิม' แทนฤทัย นักกิจกรรม 'โมกหลวงริมน้ำ' รับทราบข้อกล่าวหา ม.112 ปมปราศรัยหน้า BACC ม็อบ14กรกฎา66 และนับเป็นคดีมาตรา 112 แรกของเธอ
  • 'พิม' เผยถูกคุกคามบนสื่อโซเชียลมีเดีย เอารูปไปดิสเครดิต มีคนโทร.หาแม่ พูดว่าระวังลูกจะติดคุก จากการถูกดำเนินคดี


7 ส.ค. 2566 เวลา 9.42 น. ที่ สน.ปทุมวัน ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (7 ส.ค.) ติดตามการรายงานตัวคดีมาตรา 112 ของ 'พิม' แทนฤทัย แท่นรัตน์ นักกิจกรรมการเมือง และสมาชิกภาคีSaveบางกลอน ตามที่มีการประชาสัมพันธ์บนเพจเฟซบุ๊ก "โมกหลวงริมน้ำ"

เบื้องต้น อ้างอิงจากเพจเฟซบุ๊ก "โมกหลวงริมน้ำ" ระบุว่ามาจากการปราศรัยเมื่อ 14 ก.ค. 2566 ซึ่งเป็นกิจกรรมปราศรัยแสดงความไม่พอใจต่อสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) หลังเมื่อ 13  ก.ค.ที่ผ่านมา ที่ประชุมรัฐสภาโหวตลงมติไม่รับรอง พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จากพรรคก้าวไกล ที่หน้าหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร (BACC) 

บรรยากาศที่ สน.ปทุมวัน เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการล้อมรั้ว ทั้งหน้าอาคาร ป้าย และทางเข้า สน. มีการตั้งจุดคัดกรองสำหรับผู้ที่จะเข้าไปใน สน.อีกด้วย 

เวลา 10.16 น. แทนฤทัย แท่นรัตน์ นักกิจกรรม ได้เดินทางมาที่ สน.ปทุมวัน เพื่อรายงานตัวรับทราบข้อกล่าวหา

แทนฤทัย ใช้เวลาใน สน.ปทุมวัน เกือบ 1 ชั่วโมง จึงเสร็จสิ้นการรายงานตัว และให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ด้านหน้า สน. เมื่อเวลาประมาณ 11.08 น. พิม ระบุว่า วันนี้เธอมารับทราบข้อกล่าวหามาตรา 112 จากการปราศรัยหน้า BACC เพียงอย่างเดียว โดยคดีนี้มีผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ คือ อานนท์ กลิ่นแก้ว ประธานศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.)

แทนฤทัย แท่นรัตน์

"ทางเจ้าหน้าที่ ตร. เขาถอดเทป แต่ยืนยันว่าคำพูดของเราเป็นไปเพื่อการพัฒนา อยากจะพัฒนาประเทศ พัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทย เราไม่ได้เจตนาร้ายต่อประเทศ" แทนฤทัย กล่าว และระบุต่อว่า ส่วนตัวไม่กังวลใจ แต่เนื่องจากเป็นครั้งแรกที่โดนคดีมาตรา 112 ทำให้สับสนเรื่องกระบวนการทางกฎหมาย เนื่องจากตามที่ได้รับทราบก่อนหน้านี้ กระบวนการของการดำเนินคดีมาตรา 112 แตกต่างจากขั้นตอนตามปกติ

สำหรับกระบวนการหลังจากนี้ แทนฤทัย กล่าวว่า ทางตำรวจยังไม่แจ้งว่าจะต้องทำอย่างไรต่อ

ถูกคุกคามมีคนโทร.หาสมาชิกครอบครัว

นักกิจกรรมจาก 'ภาคี Saveบางกลอย' เล่าให้ฟังด้วยว่า หลังเธอถูกแจ้งความ จนถึงก่อนที่จะมารายงานตัว เธอถูกคุกคาม มีการเอารูปเราไปแขวนบนพื้นที่ของโซเชียลมีเดีย และก็คอมเมนต์ในเชิงโจมตี และมีคนโทร.ไปหาแม่ กล่าวในเชิงว่า "เห็นแม่บอกว่า ทางปลายสายแจ้งว่า ระวังลูกจะติดคุกหัวโตนะ" 

ส่วนเรื่องดำเนินคดี พิม ระบุต่อว่า ยังลังเลสองจิตสองใจอยู่ เนื่องจากการกระทำบางอย่าง ถ้าเกิดอย่างแขวนในเฟซบุ๊ก หรือโซเชียล เราไม่ค่อยสนใจเท่าไร แต่ถ้าคุกคามมากขึ้น อาจจะพิจารณา 

สำหรับผลกระทบ พิม ระบุต่อว่าเธอไม่มีปัญหาเรื่องการใช้ชีวิตส่วนตัว ส่วนมากจะแบบโจมตีคนรอบข้างมากกว่า ถ้ามันอยู่ในเส้นที่รับได้ ก็โอเค แต่ถ้าล้ำเส้น ก็คงต้องมีมาตรการจัดการ
 

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net