'เนชั่นโพล' สำรวจ 1,222 คน พบ 72.46% เห็นด้วยกับนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท 54.73% ให้ 'รัฐบาลเศรษฐา' สอบผ่าน
เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ รายงานเมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 2566 ว่าเนชั่นโพล ร่วมกับ สถาบันอนาคตศึกษาเพื่อการพัฒนา เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง นโยบาย"เงินดิจิทัล 10,000 บาท" ซึ่งสำรวจประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจาย 6 ภูมิภาค จำนวน 1,222 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 30 พ.ย.- 4 ธ.ค.2566 เป็นการลงพื้นที่สำรวจ 100%
ผลการสำรวจ มีดังนี้
1. เห็นด้วยกับนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาทหรือไม่
ผลสำรวจในภาพรวมพบว่า ประชาชนเห็นด้วย ร้อยละ 72.46
เมื่อวิเคราะห์โดยจำแนกตามเพศ พบว่า กลุ่มอายุที่ไม่เห็นด้วยมากที่สุดคือ กลุ่มอายุ 18-25 ปี รองลงมาคือ 36-45 ปี อาชีพที่ไม่เห็นด้วยมากที่สุดคือ ข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ รองลงมาคือ นักเรียน/นักศึกษา และประกอบธุรกิจส่วนตัว/ค้าขาย ตามลำดับ ส่วนระดับการศึกษาที่ไม่เห็นด้วยมากที่สุดคือ สูงกว่าปริญญาตรี รองลงมาคือปริญญาตรี
2. เหตุผลที่ประชาชนเห็นด้วยกับนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท พบว่า
ประชาชน ร้อยละ 46.64 ตอบว่า เพื่อช่วยเหลือให้ประชาชนผ่านภาวะเศรษฐกิจตกต่ำนี้ไปได้
ร้อยละ 21.25 เพื่อให้ประชาชนมีเงินไปลงทุน
ร้อยละ 21.40 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของไทยให้ดีขึ้น
ร้อยละ 10.71 เป็นนโยบายที่พรรคเพื่อไทยหาเสียงไว้เมื่อช่วงเลือกตั้งที่ผ่านมาที่ต้องทำให้สำเร็จ ตามลำดับ
3. เหตุผลที่ประชาชนไม่เห็นด้วยกับนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท พบว่า
ประชาชน ร้อยละ 31.93 ตอบว่า ทำให้ประเทศเป็นหนี้เพิ่มขึ้น
ร้อยละ 23 ควรนำงบไปใช้กระตุ้นเศรษฐกิจด้วยวิธีการอื่นที่ทำให้ประชาชน มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
ร้อยละ 21.60 ไม่ได้กระตุ้นเศรษฐกิจได้จริง
ร้อยละ 18.74 เงินดิจิทัลใช้จ่ายยาก ใช้ไม่เป็น ได้มาก็ไม่มีที่จะไปใช้เงิน เพราะสถานที่/แหล่งที่จะใช้จ่ายเงินได้มีจำกัด เช่น ไม่ค่อยมีร้านค้ารับ ไม่สามารถนำเงินดิจิทัลไปจ่ายเป็นค่าเทอมได้ ฯลฯ
ร้อยละ 4.74 ไม่ได้ช่วยอะไรมาก 10,000 น้อยเกินไป/ไม่เพียงพอ ตามลำดับ
นอกจากนี้ ยังสำรวจในหัวข้อผลงานรัฐบาล และความพึงพอใจ ดังนี้
4. ผลงานของ "รัฐบาลเศรษฐา 1" สอบผ่านหรือไม่
ผลสำรวจในภาพรวม พบว่า ประชาชน ร้อยละ 54.73 ให้ความเห็นว่าสอบผ่าน เมื่อวิเคราะห์โดยจำแนกตามเพศ พบว่า เพศ ที่ให้ความเห็นว่าสอบไม่ผ่าน คือ เพศทางเลือก กลุ่มอายุ ที่ให้ความเห็นว่าสอบไม่ผ่านคือ กลุ่มอายุ 18-25 ปี และ อายุ 46-59 ปี อาชีพ ที่ให้ความเห็นว่าสอบไม่ผ่าน คือ กลุ่มนักเรียน/นักศึกษา ข้าราชการ/พนักงาน และ ประกอบธุรกิจส่วนตัว/ค้าขาย ตามลำดับ และระดับการศึกษา ที่ให้ความเห็นว่าสอบไม่ผ่านคือ สูงกว่าปริญญาตรี รองลงมา คือ ปริญญาตรี และอนุปริญญา/ปวส. ตามลำดับ
5. พึงพอใจในผลงานของรัฐบาลชิ้นใดมากที่สุดในรอบ 3 เดือน ผลสำรวจพบว่า
(1) ลดค่าพลังงาน ไฟฟ้า ก๊าซหุงต้ม และน้ำมัน 56.47%
(2) เติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet 40.88%
(3) ยกระดับโครงการ 30 บาท บัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทุกพื้นที่ มะเร็งครบวงจร ฯลฯ 34.48%
(4) ยังคงให้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 32.36%
(5) เงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท 28.66%
(6) ขยายโอกาสทางการค้า เช่น ขยายตลาดใหม่ ๆ เปิดตลาดใหม่ให้เกษตรกร เสนอตัวเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมต่าง ๆ เจรจาการเปิดเสรีการค้า ฯลฯ 27.27%
(7) ปลุกท่องเที่ยวกระตุ้นเศรษฐกิจ 19.26%
(8) แก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน หนี้นอกระบบ 14.97%
(9) พักหนี้เกษตรกร 13.31%
(10) ปรับเงินเดือนข้าราชการบรรจุใหม่ 18,000 บาท 10.51%
(11) ลดความเหลื่อมล้ำ ได้แก่ เกณฑ์ทหารแบบสมัครใจ สมรสเท่าเทียม สุราชุมชน ฯลฯ 6.94%
(12) ขยายโครงสร้างพื้นฐาน ในกรุงเทพฯ และจังหวัดท่องเที่ยว และสนามบิน 5.87%
(13) ผลักดัน Soft Power เพื่อสร้างรายได้และชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก 4.31%
(14) แก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ผู้มีอิทธิพล 3.42%
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)