Skip to main content
sharethis

'วีรนันท์' พรรคก้าวไกล  ฝากคำถามถึงรัฐบาล ขอความชัดเจนแนวทางนิรโทษกรรมคดีการเมือง หลังคดี 112 ล่าสุด จำคุกประชาชน 50 ปี สูงสุดในประวัติศาสตร์ ชี้ถึงเวลาทุกฝ่ายพูดคุยในสภาฯ หาทางออก

 

19 ม.ค. 2567 สื่อพรรคก้าวไกล รายงานวันนี้ (19 ม.ค.) วีรนันท์ ฮวดศรี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ขอนแก่น เขต 1 พรรคก้าวไกล แสดงความเห็นกรณีการนิรโทษกรรมคดีทางการเมือง หลังเมื่อวานนี้ (18 ม.ค.) ศาลจังหวัดเชียงรายอ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 5 ในคดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ลงโทษจำคุก มงคล ถิระโคตร หรือ บัสบาส นักกิจกรรมในจังหวัดเชียงราย เป็นเวลารวม 50 ปี

วีรนันท์ ฮวดศรี

วีรนันท์ กล่าวด้วยว่า โทษจำคุก 50 ปี ถือเป็นโทษสูงสุดที่ศาลได้พิพากษาความผิดตามมาตรานี้ ถึงเวลาแล้วหรือยังที่ภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง จะหารือเพื่อหาทางออกของปัญหาความขัดแย้งเหล่านี้ เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าหลายคดีที่อยู่ในศาล หลายคดีที่อยู่ชั้นตำรวจ และอีกหลายคดีที่จบไปแล้วนั้น มูลเหตุจูงใจของการกระทำมาจากมูลเหตุทางการเมือง เมื่อปัญหาเกิดขึ้นจากมูลเหตุทางการเมือง เราก็ควรใช้การเมืองคลี่คลายและหาทางออกของสถานการณ์นี้ เป็นโอกาสเหมาะที่จะนำวาระเรื่องนี้เข้ามาถกเถียงในพื้นที่แห่งการพูดคุยนั่นคือพื้นที่ของรัฐสภา

ก่อนหน้านี้ ช่วงหาเสียงเลือกตั้งปี 2566 หลายพรรคมีความเห็นเกี่ยวกับการนิรโทษกรรมนักโทษทางการเมือง ซึ่งขณะนั้นโดยหลักการมองไปทิศทางเดียวกัน ตนจึงขอย้อนเตือนความจำและฝากคำถามไปยังพรรคเพื่อไทยที่เป็นแกนนำรัฐบาล 2 ข้อว่า

1. จะเอาอย่างไรกับร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เพื่อตั้งกรรมาธิการพิจารณาศึกษาแนวทางการนิรโทษกรรมนักโทษทางการเมือง พรรคเพื่อไทยจะยื่นหรือไม่ และ 2. หากยื่นร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เพื่อตั้งกรรมาธิการพิจารณาศึกษาแนวทางการนิรโทษกรรมนักโทษทางการเมือง พรรคเพื่อไทยจะยื่นเมื่อไร และมีแนวทางต่อเรื่องนี้อย่างไร

วีรนันท์ กล่าวว่า ถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะพูดคุยเรื่องการนิรโทษกรรมนักโทษทางการเมืองอย่างจริงจัง และใช้พื้นที่สภาฯ ร่วมกันพิจารณากฎหมายเพื่อหาทางออกเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้น เนื่องจากการตัดสินโทษที่เกิดขึ้นถูกตั้งคำถามอย่างกว้างขวาง

"ผมและพรรคก้าวไกลยังคงรอ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เพื่อตั้งกรรมาธิการพิจารณาศึกษาแนวทางการนิรโทษกรรมนักโทษทางการเมืองจากทางพรรคเพื่อไทยหรือรัฐบาลที่จะยื่นเข้ามาในสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาเนื้อหารายละเอียด และถอดสลักความขัดแย้งทางการเมืองไทยไปด้วยกัน" วีรนันท์ ระบุ

สส.ก้าวไกล ทิ้งท้ายว่า ตนไม่อาจทนเห็นผู้ที่มีความเห็นต่างทางการเมือง ที่ใช้เสรีภาพในการแสดงออกต้องเดินเข้าคุกและจากไปทีละคน และหากไม่มีความชัดเจนเรื่องการนิรโทษกรรม เมื่อวันนั้นมาถึงก็สายเกินกว่าจะมาคุยกันในเรื่องนี้แล้ว

วานนี้ (18 ม.ค.) ศาลอุทธรณ์ภาค 5 อ่านคำพิพากษาคดีมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมฯ มาตรา 14(3) สั่งจำคุก มงคล ถิระโคตร หรือบัสบาส พ่อค้าขายของออนไลน์ วัย 27 ปี จำคุกเพิ่มรวมเป็น 50 ปี กรณีโพสต์โซเชียลถึงกษัตริย์อดีตและปัจจุบัน รวม 27 ข้อความ จากเดิมศาลชั้นต้นพิพากษา จำคุก 28 ปี จาก 14 กระทง

'บัสบาส' มงคล ถิระโคตร

ทั้งนี้ คดีนี้นับได้ว่าเป็นคดีมาตรา 112 ที่ถูกลงโทษสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยเท่าที่ทราบข้อมูลก่อนหน้านี้ คดีที่ถูกลงโทษจำคุกสูงที่สุด คือ อัญชัญ ปรีเลิศ ศาลอาญาลงโทษจำคุกรวม 87 ปี จากการเผยแพร่คลิปเสียงของ 'บรรพต' ดีเจผู้จัดรายการใต้ดิน จำนวน 29 กรรม โดยเธอให้การรับสารภาพ ศาลจึงลดโทษเหลือจำคุก 29 ปี 174 เดือน (คิดเป็นประมาณ 43 ปี 6 เดือน) โทษจำคุกที่ถูกลดหย่อนแล้วในกรณีของบัสบาส จึงสูงกว่าคดีของอัญชัญ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net