Skip to main content
sharethis

ศูนย์ทนายความฯ รายงานศาลนครศรีธรรมราชมีคำสั่งให้ “สุรชัย แซ่ด่าน” เป็นคนสาบสูญ จากเหตุการณ์ถูกอุ้มหายไประหว่างลี้ภัยทางการเมืองเมื่อช่วงธันวาคมปี 2561

เมื่อ 12 ก.พ.2567 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า ที่ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชมีการไต่สวนคำร้องขอให้สุรชัย แซ่ด่าน (ด่านวัฒนานุสรณ์) เป็นคนสาบสูญตามที่ปราณี ด่านวัฒนานุสรณ์ หรือป้าน้อย ภรรยาตามกฎหมายเป็นผู้ยื่นคำร้องต่อศาลไว้เมื่อ 22 ธ.ค.2566

การยื่นคำร้องของปราณีครั้งนี้สืบเนื่องมาจากกรณีสุรชัยที่เป็นสามีของเธอถูกบังคับสูญหายไปตั้งแต่วันที่ 12 ธ.ค.2561 และไม่มีบุคคลใดพบตัวสุรชัยอีกเลยมาตลอด 5 ปี จึงขอให้ศาลมีคำสั่งให้สุรชัยเป็นบุคคลสาบสูญ เพื่อให้มีสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมายต่อไป

ในคำร้องของปราณีที่ยื่นต่อศาลระบุว่า เมื่อวันที่ 20 พ.ค. 2557 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะผู้บัญชาการทหารบกขณะนั้นประกาศกฎอัยการศึกทั่วประเทศ ในวันดังกล่าวสุรชัยได้เดินทางไปที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) เพื่อลี้ภัยทางการเมือง ต่อมาภายหลังเหตุการณ์รัฐประหารของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2557 สุรชัยถูกเรียกให้ไปรายงานตัวตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 57/2557 ฉบับลงวันที่ 13 มิ.ย. 2557  แต่สุรชัยไม่ได้ไปรายงานตัว ทำให้ถูกศาลทหารกรุงเทพออกหมายจับในความผิดฐานฝ่าฝืนคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

ขณะลี้ภัยสุรชัยพักอาศัยอยู่ร่วมกับชัชชาญ บุปผาวัลย์ และไกรเดช ลือเลิศ ซึ่งเป็นผู้ลี้ภัยทางการเมืองและผู้ติดตามของสุรชัย ปรากฏว่าในวันที่ 12 ธ.ค. 2561 มีผู้ติดต่อสุรชัยและผู้ติดตามได้เป็นครั้งสุดท้าย ต่อมาในวันที่ 13 ธ.ค. 2561 พลเอกประยุทธ์ นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะได้เดินทางมาเยือน สปป.ลาว เพื่อประชุมร่วมนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอย่างไม่เป็นทางการ ไทย-ลาว ครั้งที่ 3 โดยตั้งแต่วันดังกล่าวเป็นต้นไป ก็ไม่มีผู้ใดพบเห็นหรือสามารถติดต่อสุรชัยได้อีกเลย

ต่อมาในวันที่ 27 และ 29 ธ.ค. 2561 ปรากฏพบศพของชัชชาญและไกรเดชตามลำดับ ที่ริมฝั่งแม่น้ำโขง จังหวัดนครพนม ซึ่งถูกฆาตกรรมและอำพรางศพในลักษณะเดียวกัน ส่วนสุรชัยถูกบังคับให้สูญหายไปในเหตุการณ์เดียวกันโดยไม่ทราบชะตากรรม

นับตั้งแต่วันที่ 13 ธ.ค. 2561 ปราณีได้ติดตามสืบหาตัวสุรชัย ตลอดจนแจ้งเรื่องร้องเรียนต่อหน่วยงานต่างๆ เพื่อขอความช่วยเหลือในการติดตามหาสุรชัยมาโดยตลอด แต่ก็ไม่พบตัวและไม่ทราบข่าวคราว (รายละเอียดตามไทม์ไลน์การยื่นร้องเรียนกรณี ‘สุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์’) จนถึงวันยื่นคำร้องเป็นเวลาเกินกว่า 5 ปีแล้ว

ต่อมาคณะผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติส่งหนังสือ (Joined Allegation Letter) ถึงรัฐบาลไทย รัฐบาลลาว รัฐบาลเวียดนาม และรัฐบาลกัมพูชา เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 2563 ระบุว่า นับตั้งแต่ปี 2559 ถึงปี 2563 มีนักกิจกรรมไทยหลายคนรวมถึงสุรชัย ชัชชาญ และไกรเดช ถูกบังคับให้สูญหายในประเทศเพื่อนบ้าน สิ่งนี้เป็นการแสดงถึงรูปแบบการบังคับให้สูญหาย โดยในจำนวนบุคคลที่หายตัวไปมีความเกี่ยวข้องในทางการเมืองที่ทำให้เชื่อได้ว่าเจ้าหน้าที่รัฐไทยมีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของบุคคลเหล่านั้น และหนังสือยังระบุถึงการสืบสวนสอบสวนเพื่อค้นหาความจริงและชะตากรรมของผู้ถูกบังคับให้สูญหายที่ไม่มีความคืบหน้า ถึงแม้จะมีการยื่นเอกสารต่อองค์กรที่มีหน้าที่ในการสืบสวนสอบสวนแล้วก็ตาม

ศูนย์ทนายความฯ ระบุว่า ในการไต่สวนทนายความได้ถามปราณีถึงลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในกรณีของสุรชัย และต่อมาศาลได้ถามว่าปราณีไม่พบเจอและไม่สามารถติดต่อสุรชัยได้ตั้งแต่เมื่อใด ปราณีตอบว่าตั้งแต่เดือนธันวาคม ปี 2561 จนถึงปัจจุบันเกินกว่า 5 ปีแล้ว ศาลจึงระบุว่าการไต่สวนเสร็จสิ้น

หลังการไต่สวนศาลมีคำสั่งให้สุรชัยเป็นคนสาบสูญ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 61

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net