ปี 2566 จำนวนคนทำงานในสหรัฐฯ ที่เกี่ยวข้องกับการนัดหยุดงานประท้วงเพิ่มขึ้น 141% จากปี 2565 เหตุผลหนึ่งเพราะตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้การสนับสนุนสหภาพแรงงานและการรวมกลุ่มของแรงงานเพิ่มขึ้น 

แฟ้มภาพ Joe Piette (CC BY-SA 2.0)

จากรายงาน Labor Action Tracker 2023 โดย School of Industrial and Labor Relations (ILR) แห่งมหาวิทยาลัยคอร์เนล ที่ได้รวบรวมการนัดหยุดงานในสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2566 พบว่าแม้จำนวนการนัดหยุดงานประท้วงโดยรวมในปี 2566 จะเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปี 2565 แต่กลับมีจำนวนแรงงานเข้าร่วมการนัดหยุดงานประท้วงมากขึ้น โดยเพิ่มขึ้นเป็นสัดส่วนถึง 141% จากปี 2565

เหตุผลที่สำคัญที่ทำให้เกิดปรากฎการณ์นี้เกิดจากตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ส่งเสริมการสนับสนุนสหภาพแรงงานและการรวมตัวของแรงงาน ทำให้กลุ่มแรงงานกล้าที่จะกดดันนายจ้างมากขึ้น นำไปสู่การนัดประท้วงหยุดงาน

รายงานยังระบุว่า ในด้านผลลัพธ์สำหรับคนทำงานนั้น ถือว่าค่อนข้างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการนัดหยุดงานประท้วง 4 ครั้งใหญ่ที่สุดของปี 2566 พวกเขาได้รับการปรับเงินเดือนสองหลัก โบนัส สวัสดิการที่ดีขึ้น และผลตอบแทนอื่นๆ อีกมากมาย

การนัดหยุดงานประท้วง 4 ครั้งใหญ่ที่สุดของปี 2566 เกิดขึ้นในหลายอุตสาหกรรม ได้แก่ บริการด้านสุขภาพ (พนักงาน Kaiser Permanente) การผลิต (สหภาพแรงงานยานยนต์แห่งสหรัฐอเมริกา) สื่อ (สหภาพแรงงานนักแสดงและนักเขียน) และการศึกษา (พนักงานโรงเรียน L.A.)

การประท้วงใหญ่ทั้ง 4 ครั้งนี้ มีแรงงานเข้าร่วมทั้งหมด 350,100 คน จากทั้งหมด 539,000 คน ที่นัดหยุดงานประท้วงในปี 2566 ตามการรวบรวมข้อมูลจาก ILR

ข้อเรียกร้อง 3 อันดับแรก ของแรงงานที่ประท้วงหยุดงาน ได้แก่ ค่าตอบแทนที่ดีขึ้น, การคุ้มครองสุขภาพและความปลอดในการทำงาน, และการเพิ่มบุคลากร (2 ข้อเรียกร้องหลังเป็นข้อกังวลสำคัญของพนักงาน Kaiser Permanente ที่กล่าวว่า การขาดแคลนบุคลากรส่งผลกระทบต่อการดูแลผู้ป่วย)

แนวโน้มที่น่าสังเกตอีกประการ คือ แรงงานหยุดงานประท้วงเพื่อเรียกร้องให้มีข้อตกลงสภาพการจ้างฉบับแรกเพิ่มขึ้น นี่ถือเป็นภารกิจแรกของสหภาพแรงงานที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นใหม่ - การต่อรองเงื่อนไขเงินเดือนและสวัสดิการ โดยในปี 2566 มีการนัดหยุดงานประท้วงเพื่อเรียกร้องข้อตกลงสภาพการจ้างฉบับแรก 74 ครั้ง เพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าเมื่อเทียบกับปี 2565

ข้อตกลงสภาพการจ้างเป็นเรื่องสำคัญ "แรงงานจะไม่ได้รับผลประโยชน์ใด ๆ เว้นแต่พวกเขาจะได้ข้อตกลงสภาพการจ้าง" อะเล็ก คอลวิน (Alex Colvin) คณบดีวิทยาลัย ILR ของ Cornell กล่าว ทั้งนี้กฎหมายแรงงานของสหรัฐฯ ไม่มีกลไกในการบังคับให้บริษัทเจรจากับพนักงานที่รวมตัวกันเป็นสหภาพแรงงาน

จนถึงช่วงต้นปี 2567 มีพนักงาน Starbucks, Trader Joe's และ Amazon ที่เพิ่งลงคะแนนเสียงให้รวมตัวกันเป็นสหภาพแรงงาน แต่ก็ยังไม่สามารถเจรจาข้อตกลงสภาพการจ้างฉบับแรกได้

ที่มา:
Labor Action Tracker 2023 (School of Industrial and Labor Relations, Cornell University, February 2024)
The number of striking U.S. workers more than doubled in 2023 (Emily Peck, Axios Markets, 15 February 2024)