Skip to main content
sharethis

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนเผยศาลตัดสินจำคุก 'แม็กกี้' 50 ปี คดี ม.112-พ.ร.บ.คอมฯ กรณีทวีต 18 ข้อความเมื่อปี 65-66 รับสารภาพ ลดเหลือจำคุก 25 ปี - 'บัสบาส' อดอาหารเข้าวันที่ 17 ยังเรียกร้องปล่อยตัวผู้ต้องขังคดีการเมือง และทวนเรื่องสิทธิของนักโทษในเรือนจำอีก

14 มี.ค. 2567 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่าเมื่อเวลา 9.00 น. ศาลอาญากรุงเทพใต้นัดฟังคำพิพากษาในคดีของ “แม็กกี้” (สงวนชื่อสกุล) ผู้มีความหลากหลายทางเพศวัย 26 ปี ผู้ถูกกล่าวหาในคดี “หมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 จากกรณีที่ถูกกล่าวหาว่าทวีต 18 ข้อความเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ ในช่วงเดือนธันวาคม 2565 ถึงเดือนตุลาคม 2566 ศาลพิพากษาว่าแม็กกี้มีความผิดตามฟ้อง รวม 18 กระทง จำคุก 50 ปี จำเลยรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 25 ปี ไม่รอลงอาญา

คดีนี้ เมื่อวันที่ 20 ต.ค. 2566 แม็กกี้ถูกจับกุมโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาล ในชั้นจับกุมตำรวจได้ทำการตรวจยึดโทรศัพท์มือถือของแม็กกี้ไปด้วย ทำให้เธอไม่สามารถติดต่อใครได้ ต่อมาแม็กกี้ถูกนำตัวไปยัง สน.ทองหล่อ เพื่อทำบันทึกจับกุม โดยมีการกล่าวหาในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 เธอถูกสอบปากคำโดยที่ไม่มีทนายความอยู่ร่วมด้วย

ต่อมาแม็กกี้ทราบว่า ข้อกล่าวหาเกิดจากการทวีตข้อความในทวิตเตอร์จำนวน 18 ข้อความในช่วงเดือน ธ.ค. 2565 ถึงเดือน ต.ค. 2566 เธอระบุว่าตำรวจได้เอาข้อความข้อกล่าวหามาให้ดู และเธอก็ได้เซ็นรับรองไป เพราะความกลัว 

แม็กกี้ถูกควบคุมตัวไว้ที่ สน.ทองหล่อ เป็นเวลาสองคืน จนกระทั่งช่วงบ่ายของวันที่ 22 ต.ค. 2566 เธอถูกตำรวจนำตัวไปขอฝากขังที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ต่อมาศาลได้อนุญาตให้ฝากขังและไม่อนุญาตให้ประกันตัว ทำให้แม็กกี้ถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มาตั้งแต่วันนั้น

'บัสบาส' อดอาหารเข้าวันที่ 17 ยังเรียกร้องปล่อยตัวผู้ต้องขังคดีการเมือง และทวนเรื่องสิทธิของนักโทษในเรือนจำอีก

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ยังรายงานอีกว่าวันนี้ (14 มี.ค.) ที่เรือนจำกลางเชียงราย ทนายความเดินทางเข้าเยี่ยม “บัสบาส” มงคล ถิระโคตร นักกิจกรรมในจังหวัดเชียงรายวัย 30 ปี ที่ถูกศาลอุทธรณ์ภาค 5 พิพากษาลงโทษจำคุก 50 ปี ในคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 จากกรณีการโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กที่ศาลเห็นว่ามีความผิดจำนวน 25 ข้อความ และศาลฎีกามีคำสั่งไม่อนุญาตให้ประกันตัวระหว่างฎีกา ทำให้เขาถูกคุมขังมาตั้งแต่วันที่ 18 ม.ค. 2567 โดยกรณีของบัสบาสนับเป็นคดี มาตรา 112 ที่ถูกลงโทษสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์

บัสบาส เริ่มอดอาหารในเรือนจำเพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ต้องขังคดีทางการเมืองทั้งหมด มาตั้งแต่วันที่ 27 ก.พ. 2567 รวมเป็นระยะเวลา 17 วันแล้ว และเริ่มอดน้ำมาได้ 5 วัน

บัสบาสทบทวนว่าหลังจากเขาเริ่มอดอาหารมาได้ 2-3 วัน ได้มีหนังสือของกรมราชทัณฑ์เกี่ยวกับการอดอาหารของผู้ต้องขังมาให้เขาลงชื่อ โดยเบื้องต้น เขาได้ให้ความยินยอมให้มีการให้น้ำ นม กาแฟ หรือผลไม้ และให้มีการกระตุ้นหัวใจที่โรงพยาบาล หากมีอาการช็อค แต่ปฏิเสธไม่รับสารอาหารทางสายยาง ต่อมาเขาได้รับการตรวจสุขภาพ เช่น ตรวจวัดความดัน ในทุกวัน

ข้อเรียกร้องของเขามีประการเดียว คือให้ปล่อยตัวนักโทษการเมืองทุกคนโดยไม่มีเงื่อนไข  บัสบาสระบุว่า ไม่อยากให้มีใครต้องถูกจำคุกเหมือนเขา ระยะเวลา 50 ปี ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุกเขา คือ ความหวังที่เขาจะอยู่ต่อไปเพื่อรอดูและได้เห็นความเสมอภาค เสรีภาพ และภราดรภาพ ที่ดีขึ้นในสังคมไทย แต่หากร่างกายเขาสู้ไม่ไหว เขาก็จะแจ้งให้ทราบ

บัสบาสยังพูดคุยถึงความสนใจ ในเรื่องการเรียกร้องสิทธิผู้ต้องขังในเรือนจำเหมือนก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะสิทธิในการได้รับประทานอาหารที่มีคุณภาพ หาใช่เป็นเพียงผัก กับน้ำแกง เขาอยากให้กรมราชทัณฑ์และกระทรวงยุติธรรมปรับปรุงในเรื่องนี้ที่สุด

ในเรื่องสิทธิในการได้รับรู้ข้อมูลข่าวสาร โดยเขาเห็นว่าหากเรือนจำไม่อยากให้ผู้ต้องขังดูข่าวสารบ้านเมืองทั้งหมด อาจจะทำเป็นคลิปคัดสรรข่าวสารสำคัญให้ผู้ต้องขังได้รับชมรับฟังในเบื้องต้นก็ได้

ในเรือนจำเชียงราย ยังมีข้อจำกัดเรื่องสถานที่ในการออกกำลังกาย เพราะในแดน 1 มีพื้นที่ประมาณ 1 ไร่ แต่มีจำนวนผู้ต้องขังประมาณ 200 คน โดยไม่มีสถานที่สำหรับออกกำลังกายให้เลย

นอกจากนั้นผู้ต้องขังยังควรมีสิทธิในการติดต่อกับหน่วยงานยุติธรรม เช่น สภาทนายความฯ โดยพบว่าเคยมีผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดีบางคนเขียนคำร้อง คำขอต่าง ๆ ออกไป แต่ถูกเก็บไว้ที่เรือนจำ โดยไม่มีการส่งคำร้องออกไป ทำให้เข้าไม่ถึงความยุติธรรม หากไม่มีคนภายนอกช่วยประสานงานให้เลย ก็เป็นเรื่องยากลำบากในทางคดี จึงอยากให้เรือนจำมีช่องทางดูแลเรื่องเหล่านี้

ในเรื่องการส่งจดหมาย บัสบาสบอกว่าหลังจากครอบครัวและเพื่อนของเขามาเยี่ยมที่เรือนจำเมื่อวานนี้ ทราบว่ามีอาจารย์ท่านหนึ่งส่งโปสการ์ดมาให้เขาประมาณหนึ่งเดือนแล้ว แต่บัสบาสพบว่าเขายังไม่ได้รับ จึงไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น โปสการ์ดมาถึงเรือนจำแล้ว แต่ไม่ได้ถูกส่งต่อมาให้เขาหรือไม่อย่างไร ถ้าติดตามไม่ได้ ก็น่าจะต้องให้เพื่อน ๆ คนอื่น ๆ ลองช่วยกันส่งจดหมายหรือโปสการ์ดเข้ามาอีกครั้ง

ในส่วนเรื่องคดี บัสบาสยังยืนยันในการฎีกาคำพิพากษาต่อ โดยอยู่ระหว่างการจัดทำฎีกา ทั้งเขายังสอบถามเรื่องสถานการณ์การนิรโทษกรรมทางการเมือง และข่าวสารอื่น ๆ โดยเขาฝากให้กำลังใจทุก ๆ คนที่ช่วยกันผลักดันในเรื่องนี้
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net