ฟินแลนด์ประกาศระงับคำร้องขอ VISA ของแรงงานไทยเก็บเบอร์รีป่า ที่สถานทูตฟินแลนด์ กรุงเทพฯ แล้ว หลังถูกร้องเรียนเรื่องการค้ามนุษย์ โดยเริ่มฤดูเก็บเกี่ยวช่วงหน้าร้อนปี 2567

16 มี.ค. 2567 เพจเฟซบุ๊ก "Royal Thai Embassy, Helsinki" โพสต์โซเชียลวานนี้ (15 มี.ค.) ระบุว่า กระทรวงการต่างประเทศฟินแลนด์ระงับคำร้องขอตรวจลงตรา หรือ 'วีซ่า' ผู้สมัครที่เป็นแรงงานเก็บเบอร์รีป่าทุกคนที่ยื่นคำร้องขอตรวจลงตราที่สถานทูตฟินแลนด์ในกรุงเทพฯ ซึ่งครอบคลุมทั้งไทย กัมพูชา และเมียนมา ซึ่งอีกนัยหนึ่งจะไม่มีการพิจารณาตรวจลงตราประเภทเชงเก้นให้แก่คนเก็บเบอร์รีป่าที่มาจากไทย กัมพูชา และเมียนมา ในฤดูเก็บเกี่ยวช่วงหน้าร้อนปี 2567 

เมื่อเดือน ก.พ. 2566 กระทรวงการต่างประเทศฟินแลนด์ ได้เพิ่มความเข้มงวดเกี่ยวกับแนวปฏิบัติการพิจารณาวีซ่าคนเก็บเบอร์รีป่า และหลังจากฤดูเก็บเกี่ยวปี 2566 ได้มีการประเมินเงื่อนไขการพิจารณาวีซ่าประเภทเชงเก้นใหม่อย่างละเอียด หลังมีข้ออาชญากรรมร้ายแรงที่เกิดขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ปี 2566 และเกี่ยวพันกับการเก็บเบอร์รีป่าปี 2566 

ที่ผ่านมาการตรวจลงตราวีซ่าคนเก็บเบอร์รีป่าได้รับการพิจารณาอุนมัติบนข้อสันนิษฐานว่า คนเก็บเบอร์รีป่าเดินทางเข้าประเทศฟินแลนด์โดยมีวัตถุประสงค์เทียบเคียงกับการท่องเที่ยว และการเก็บเบอร์รีป่าอย่างเสรีภายใต้สิทธิการเข้าถึงทรัพยากรธรรมชาติของทุกคน (Eeveryman’s Rights) และสามารถเลือกที่จะขายผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่คนเก็บได้ให้กับผู้ซื้อรายใดก็ได้ อย่างไรก็ตาม เห็นได้ชัดว่าแนวปฏิบัติในปัจจุบันของภาคส่วนนี้ขัดแย้งกับสมมติฐานดังกล่าว และกระทรวงการต่างประเทศฟินแลนด์ได้รับทราบว่า โดยทั่วไปแล้ว คนเก็บเบอร์รีป่ามีสัญญาจ้างงาน

เนื่องจากประเด็นข้อกล่าวหาและข้อสงสัยเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น และมีเหยื่อหลายร้อยรายเกี่ยวข้อง การพิจารณาคำร้องวีซ่าจึงต้องคำนึงความเสี่ยงอย่างชัดเจน และความร้ายแรงในการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบและการค้ามนุษย์ ในฐานะที่กระทรวงการต่างประเทศฟินแลนด์ เป็นหน่วยงานรับผิดชอบด้านตรวจลงตราวีซ่า จึงมีอำนาจในการกำหนดแนวทางพิจารณาตรวจคำร้องขอวีซ่า จึงต้องให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับกรณีการแสดงหาประโยชน์โดยมิชอบจากคนเก็บเบอร์รีป่าของไทย