Skip to main content
sharethis

กองทัพพม่าที่เคยทำการกดขี่ทารุณชาวโรฮิงญาในระดับการกวาดล้างเผ่าพันธุ์มาก่อน หันกลับมาบังคับเกณฑ์ชาวโรฮิงญาไปเป็นทหาร บางกรณีมีการลักพาตัวเอาไปเข้าค่ายฝึก ขู่ว่าจะทำร้ายครอบครัวคนที่หนี และมีการอ้างว่าจะให้สัญชาติคนที่มาเป็นทหาร แต่เมื่อถึงเวลาจริงกลับไม่ให้สัญชาติแก่พวกเขา

 

18 เม.ย. 2567 องค์กรสิทธิมนุษยชนฮิวแมนไรท์วอทช์ ระบุว่า กองทัพพม่าทำการลักพาตัวและบังคับเกณฑ์ทหาร ชาวมุสลิมโรฮิงญาทั้งผู้ชายและเด็กชายมากกว่า 1,000 ราย จากทั่วรัฐยะไข่ นับตั้งแต่เดือน ก.พ. 2567 เป็นต้นมา กองทัพเผด็จการพม่าอ้างใช้กฎหมายเกณฑ์ทหารในการบังคับเกณฑ์แม้กระทั่งชาวโรฮิงญา ทั้งๆ ที่กฎหมายดังกล่าวนี้ระบุครอบคลุมถึงพลเมืองสัญชาติพม่าเท่านั้น แต่ชาวโรฮิงญาเป็นกลุ่มคนที่ถูกปฏิเสธสถานะพลเมืองมาเป็นเวลานานแล้วภายใต้กฎหมายพลเมืองปี 2525

กองทัพพม่าได้ทำการกวาดต้อนชาวโรฮิงญาจากการบุกทลายช่วงเวลากลางคืน บีบให้เข้าร่วมกองทัพโดยสัญญาว่าจะให้สัญชาติ และมีการข่มขู่คุกคามว่าจะทำการจับกุม, ลักพาตัว และทุบตีทำร้าย กองทัพพม่าได้ส่งตัวชาวโรฮิงญาที่เกณฑ์หรือลักพาตัวมาให้ไปฝึกซ้อมรบในแบบที่ลิดรอนสิทธิมนุษยชนอีกเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ก่อนที่จะมีการวางกำลังของพวกเขาในสนามรบ มีจำนวนมากที่ถูกส่งไปเป็นแนวหน้าในสนามรบในช่วงที่มีการสู้รบระหว่างกองทัพพม่ากับกองกำลังอาระกันอาร์มี (AA) มากขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่เดือน พ.ย. 2566 และมีทหารจำนวนหนึ่งที่ถูกสังหารหรือได้รับบาดเจ็บ

ทางฮิวแมนไรท์วอทช์ได้ทำการสัมภาษณ์ชาวโรฮิงญา 25 ราย เพื่อบันทึกเหตุการณ์ 11 กรณีเกี่ยวกับการบังคับชาวโรฮิงญาให้ไปเป็นทหาร โดยมีกลุ่มตัวอย่างเป็นผู้พักพิงในรัฐยะไข่หลายเมือง รวมถึงจากคนที่อยู่ในบังกลาเทศด้วย

เชย์นา เบาช์เนอร์ นักวิจัยเอเชียจากฮิวแมนไรท์วอทช์ กล่าวว่า "มันเป็นเรื่องน่าสะพรึงที่กองทัพพม่าผู้ที่ก่อเหตุโหดร้ายทารุณต่อโรฮิงญามาเป็นเวลาหลายสิบปีไปพร้อมๆ กับการปฏิเสธสัญชาติพวกเขา ในตอนนี้กลับหันมาบีบบังคับพวกเขาให้สู้รบแทน ... เผด็จการทหารพม่าควรจะเลิกการบังคับเกณฑ์ทหารโดยทันทีและอนุญาตให้ชาวโรฮิงญาที่ถูกบังคับเกณฑ์ทหารอย่างผิดกฎหมายเช่นนี้กลับบ้านได้"

เคยกดขี่ทารุณ แต่ตอนนี้หันมาเกณฑ์ไปเป็นทหาร

เป็นเวลาเกือบ 7 ปี มาแล้วที่กองทัพเผด็จการพม่าสังหารประชาชนชาวมุสลิมโรฮิงญาหลายพันคนในแบบที่สหประชาชาติเรียกว่าเป็น "การกวาดล้างเผ่าพันธุ์ตามแบบฉบับ" มีอย่างน้อย 150,000 รายถูกบีบให้ต้องอาศัยอยู่ในค่ายผู้พลัดถิ่นภายในประเทศ แต่ในตอนนี้กองทัพเผด็จการพม่ากลับต้องการความช่วยเหลือจากชาวโรฮิงญา

โมฮัมเหม็ด (นามสมมุติ) ชาวโรฮิงญาในรัฐยะไข่ที่มีลูก 3 คน ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อว่า ในช่วงกลางเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา มีผู้นำค่ายผู้พลัดถิ่นมาหาเขาตอนกลางคืน แล้วบอกเขาว่าเขาจะต้องเข้ารับการฝึกทหาร บอกว่ามันเป็น "คำสั่งจากกองทัพ" และ "ถ้าหากคุณปฏิเสธพวกเขาก็ขู่ว่าจะทำร้ายครอบครัวของคุณ"

นอกจากนี้ยังมีชาวโรฮิงญารายอื่นๆ ที่บอกกับสื่อว่ามีเจ้าหน้าที่กองทัพคอยเดินไปมาอยู่รอบๆ ค่ายผู้พลัดถิ่นแล้วก็สั่งให้คนหนุ่มอายุยังน้อยให้ไปรายงานตัวเพื่อเข้ารับการฝึกทหาร เรื่องนี้ชวนให้รู้สึกย้อนแย้งกันเองเพราะชาวโรฮิงญาอย่างโมฮัมเหม็ดยังคงถูกปฏิเสธสัญชาติและถูกกีดกันเลือกปฏิบัติในหลายเรื่อง เช่นการถูกสั่งห้ามไม่ให้เดินทางออกนอกชุมชนของตัวเอง

เรื่องข้ออ้างการให้สัญชาตินั้นก็ดูเหมือนจะไม่เป็นจริง เพราะถึงแม้ฝ่ายกองทัพพม่าจะหลอกล่อชาวโรฮิงญาว่าผู้ที่ไปเป็นทหารจะได้รับอาหาร ค่าจ้าง และได้สัญชาติ แต่เมื่อมีการทวงถามเรื่องให้สัญชาติแล้วกลับได้รับคำตามจากกองทัพพม่าว่า "พวกคุณเข้าใจผิด" ฝ่ายกองทัพอ้างว่าชาวโรฮิงญาเหล่านี้ถูกเกณฑ์ให้มาเป็นทหารอาสา ไม่ใช่ทหารอาชีพ

ในปี 2555 ชาวโรฮิงญาหลายหมื่นคนถูกเบียดขับออกจากชุมชนหลายเชื้อชาติที่อาศัยอยู่ร่วมกันในรัฐยะไข่แล้วถูกบังคับให้ต้องอาศัยอยู่ในค่ายซอมซ่อ ต่อมาในเดือน ส.ค. 2560 กองทัพพม่าได้ทำการกวาดล้างอย่างโหดเหี้ยมต่อชาวโรฮิงญา โดยมีทั้งการฆ่าและข่มขืนผู้คนจำนวนมากรวมถึงเผาหมู่บ้านพวกเขา เป็นเหตุให้มีชาวโรฮิงญา 700,000 ราย หนีไปยังประเทศใกล้เคียงที่บังกลาเทศ ในตอนนี้กองทัพพม่ากำลังเผชิญกับการดำเนินคดีในศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ที่กรุงเฮก ในสิ่งที่พวกเขาทำกับชาวโรฮิงญา

มีชาวโรฮิงญาอยู่ราว 630,000 รายที่ยังคงอาศัยในรัฐยะไข่ ในจำนวนนี้มีอยู่ราว 150,000 ราย ที่ อยู่ในค่ายกักกันแบบพื้นที่โล่ง นับตั้งแต่ที่มีการรัฐประหารปี 2564 เผด็จการทหารก็สั่งกักบริเวณจำกัดการเดินทางของชาวโรฮิงญาอย่างมาก รวมถึงมีการปิดกั้นไม่ให้ความช่วยเหลือเข้าถึง เป็นการเพิ่มความเปราะบางให้กับพวกเขาด้วยการบังคับเกณฑ์ทหาร

กองทัพพม่าลักพาตัวเยาวชนไปเป็นทหาร

นอกจากการบีบบังคับเกณฑ์ทหารแล้วยังมีบางกรณีที่เป็นการลักพาตัวด้วย เช่นในช่วงปลายเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา กองทัพพม่าได้ทำการลักพาตัวชาวโรฮิงญามากกว่า 150 รายในการบุกทลายหมู่บ้านหลายแห่งในเมืองบู้ตี้ดอง มีชายอายุ 22 ปีชาวโรฮิงญาเล่าว่า ทหารจากกองพันทหารราบเบาใช้ปืนจี้เพื่อลักพาตัวคนหนุ่มและเด็กชายคนอื่นๆ 30 ราย เมื่อเวลา 5 ทุ่มของคืนวันที่ 25 ก.พ. ที่ผ่านมา

ชายโรฮิงญาอายุ 22 ปีรายนี้เล่าว่ามีเด็กชายที่อายุน้อยที่สุดที่ถูกลักพาตัวไปอายุได้ 15 ปี มีอยู่ 3 รายในหมู่คนที่ถูกลักพาตัวอายุน้อยกว่า 18 ปี หลังจากที่พวกเขาถูกนำตัวไปที่กองพันทหารแล้วพวกเขาก็เห็นรายชื่อชาวโรฮิงญาที่กำลังจะถูกเกณฑ์เข้ามาเป็นทหาร รวมถึงเยาวชนชาวโรฮิงญาทุกคนในภูมิภาคด้วย

มีเหตุการณ์บุกทลายเพื่อลักพาตัวชาวโรฮิงญาเกิดขึ้นอีกกรณีหนึ่งในเดือน มี.ค. ที่เมืองมองดอ มีชายชาวโรฮิงญาอายุ 24 ปี ผู้ที่ถูกลักพาตัวพร้อมกับคนอื่นๆ อีกราว 20 กว่าคน จากหมู่บ้าน Ka Nyin Tan มีเจ้าหน้าที่บอกกับพวกเขาว่า "การป้องกันมองดอขึ้นอยู่กับพวกคุณแล้ว"

เจ้าหน้าที่ทหารมักจะขู่ว่า จะทุบตีชาวโรฮิงญาจนเสียชีวิตถ้าหากพวกเขาไม่ยอมเข้าร่วมกองทัพ หรือจะลงโทษครอบครัวพวกเขา มีชาวโรฮิงญาจำนวนมากที่พยายามจะหนีออกจากรัฐยะไข่หรือไปซ่อนตัวในป่าเพื่อหนีการถูกเกณฑ์ทหาร แต่ทางการก็ทำการกวาดต้อนและทุบตีชาวโรฮิงญาราว 40 ราย ผู้ที่สมาชิกครอบครัวของพวกเขาหลบหนี

ชายอายุ 22 ปี ชาวโรฮิงญาที่ถูกลักพาตัวไปเป็นทหาร ก็พูดถึงการฝึกทหารที่ทารุณเป็นเวลา 2 สัปดาห์ภายใต้การถูกข่มเหงไม่หยุดหย่อน มีการบังคับทหารฝึกหัดให้ขุดบังเกอร์และผ่าฟืน มีการให้อาหารและน้ำจำกัดจำเขี่ย ทหารฝึกหัดเหล่านี้อ่อนแอลงภายในเวลาไม่กี่วัน และบางส่วนก็เป็นลมสลบ มี 3 คนที่เลือดออกทางจมูกและปาก นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังใช้คำเหยียดชาวมุสลิมเรียกพวกเขา และพูดเหยียดแม่กับลูกสาวของพวกเขาด้วย

 

หรือที่ทำแบบนี้เพราะกองทัพพม่ากำลังเข้าตาจน

สื่อต่างประเทศมองว่า การที่กองทัพพม่าซึ่งเคยทำการกดขี่และพยายามล้างเผ่าพันธุ์ชาวโรฮิงญามาก่อน กลายเป็นผู้ที่บังคับเกณฑ์ทหารคนชาติพันธุ์นี้เป็นเครื่องสะท้อนว่ากองทัพพม่ากำลังดิ้นรนแบบเข้าตาจน หลังจากที่สูญเสียพื้นที่ในรัฐยะไข่จำนวนมากเมื่อไม่นานนี้ให้กับการโจมตีของกองกำลังอาระกันอาร์มี โดยที่ฝ่ายกองทัพได้ใช้ปืนใหญ่และการโจมตีทางอากาศใส่พื้นที่รัฐยะไข่จนเป็นเหตุให้ชาวโรฮิงญาหลายสิบรายเสียชีวิต

 

 

เรียบเรียงจาก

Myanmar: Military Forcibly Recruiting Rohingya, Human Rights Watch, 09-04-2024

https://www.hrw.org/news/2024/04/09/myanmar-military-forcibly-recruiting-rohingya

Myanmar's army massacred Rohingyas. Now it wants their help, Yahoo, 08-04-2024

https://sg.news.yahoo.com/myanmars-army-massacred-rohingyas-now-234108546.html

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net