Skip to main content
sharethis

ประชาไท -วานนี้ (9 พ.ย.2549)   ความเคลื่อนไหวเพื่อขับไล่คณะกรรมการบริหาร(บอร์ด)บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ชุดใหม่ออกจากตำแหน่ง ยังไม่มีวี่แววว่าจะได้ข้อยุติ ล่าสุด พนักงาน อสมท ที่รวมตัวกันในนาม "กลุ่มพลัง อสมท" ออกแถลงการณ์ฉบับที่3 เรื่อง "เมื่อความจริงปรากฏ" เนื้อหาระบุถึงการประชุมร่วมกันระหว่าง พนักงาน อสมท กับนายพงษ์ศักดิ์ พยัฆวิเชียร รองประธานบอร์ดและรักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ เมื่อวันที่ 8พ.ย.ที่ผ่านมา โดยชี้ว่าเป็นอีกครั้งหนึ่งที่เพื่อนพนักงานออกมาร่วมกันแสดงจุดยืนเพื่อรักษาศักดิ์ศรีของชาว อสมท ด้วยการรวมตัวสอบถามข้อเท็จจริงจาก นายพงษ์ศักดิ์ ซึ่งจากการซักถามของพนักงานในที่ประชุมดังกล่าว ทำให้ความจริงประเด็นสำคัญต่างๆ ปรากฏ โดย นายพงษ์ศักดิ์ ยอมรับว่า ได้สั่งให้ฝ่ายข่าวไปทำข่าวรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ของ นายสนธิ ลิ้มทองกุล จริง


 


แถลงการณ์บอกว่า นายพงษ์ศักดิ์ พยายามเลี่ยงว่าไม่ได้สั่ง แต่ให้เป็นวิจารณญาณ หากฝ่ายข่าวเห็นว่าไม่มีความไม่เหมาะสม ก็ไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตาม แถลงการณ์ระบุอีกว่า ในการชี้แจงยังยอมรับว่า มีความพยายามในการวางผังรายการโมเดิร์นไนน์ด้วยช่องทางที่ไม่ถูกต้องชอบธรรม โดย นายชิตณรงค์ คุณะกฤดาธิการ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ชี้แจงว่า ได้เข้าหารือกับ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยมีผู้ประกอบการสื่อ 3-4รายอยู่ด้วย ซึ่งมีการหารือถึงการปรับผังรายการบางรายการ โดย นายพงษ์ศักดิ์ ไม่สามารถทำความเข้าใจให้เกิดขึ้นได้ ในการชี้แจงกับพนักงาน เมื่อวันที่ 8พฤศจิกายนที่ผ่านมา


 


นอกจากนี้ พนักงานคาใจถึงเหตุผลที่ทำให้ นายพงษ์ศักดิ์ ยอมลาออกจากบอร์ดมติชนที่สร้างมากับมือ เพื่อที่จะคงตำแหน่งในบอร์ด อสมท ทั้งที่ได้ประจักษ์แล้วว่า พนักงาน อสมท ให้การยอมรับนับถือมากน้อยแค่ไหน


 


"จากปัญหาข้างต้น อยากบอกให้เพื่อนพนักงานรู้ว่า ปัญหาที่พวกเรากำลังเผชิญ กำลังถูกบิดเบือนเจตนาจากความพยายามในการรักษาบ้านของเรา เป็นการปกป้องผลประโยชน์และลิ่วล้อรัฐบาลทักษิณ มีการปลุกระดมให้เราถูกมองเป็นศัตรู ผลักให้พวกเราอยู่ตรงข้ามกับประชาชน ซึ่งปราศจากข้อเท็จจริง ซึ่งสิ่งที่จะทำให้ข้อเท็จจริงปรากฏ จำเป็นต้องใช้เวลาและความร่วมมือร่วมใจสมัครสมานสามัคคีของพวกเราต่อไป" แถลงการณ์ระบุ


 


ต่อมา เวลา 15.30น.กลุ่มพลัง อสมท นำโดย นางอรวรรณ กลิ่มวิรัตน์กุล แกนนำพนักงาน ได้อ่านแถลงการณ์ฉบับที่4 ประกาศย้ำจุดยืนว่า การเคลื่อนไหวของชาวอสมท.ที่ผ่านมา เพื่อเป็นการปกป้องการแสวงหาผลประโยชน์อันมิชอบและถูกมองว่ายืนตรงข้ามกับประชาชน โดยการแสดงพลังที่ผ่านมาถูกมองว่าเป็นกลุ่มที่เห็นแก่ตัวกลัวหุ้นตกและเป็นลิ่วล้อของระบอบ "ทักษิณ"  ซึ่งที่ผ่านมาคำชี้แจงของ นายพงษ์ศักดิ์ พยัคฆวิเชียร ตอกย้ำให้เห็นถึงวุฒิภาวะการเป็นผู้นำ ด้วยคำพูดที่ไร้ความน่าเชื่อถือ โดยกลืนน้ำลายตัวเอง พลิ้นลิ้นกลับคำ 180องศาโดยเฉพาะการปฏิเสธนโยบายสังคมอุดมปัญญากับสัมมาปัญญา


 


ทั้งนี้ ชาวอสมท ตกอยู่ในวงจรอุบาทว์มานาน ทุกครั้งมีการเปลี่ยนรัฐบาล อสมท.หนีพ้นเป็นแหล่งผลประโยชน์นักการเมืองและลิ่วล้อ ถูกรุมทึ้งจนได้รับฉายาว่าเป็นแดนสนธยา แต่ก็ไม่มียุคสมัยใดที่มีการแสวงผลประโยชน์อย่างชัดเจนและรวดเร็วเหมือนครั้งนี้ จนกระทั่งเราลบสโลแกน"แดนสนธยา" พร้อมกับก้าวเป็นสื่อทางเลือกใหม่ ซึ่งสถานการณ์เลวร้ายในอสมท.เป็นแรงกระตุ้นให้ชาวอสมท.ผนึกกำลังย้ำจุดยืนให้เห็นว่าเราลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่ออุดมการณ์ในฐานะสื่อของประเทศและไม่ได้หลงไปกับอำนาจทุนนิยม หรือระบอบใดๆตามที่ถูกกล่าวอ้าง ซึ่งชาว อสมท.พร้อมประกาศจุดยืนและพร้อมใจกันเพื่อปกป้อง อสมท.ให้ทำหน้าที่สื่ออย่างแท้จริง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การแถลงข่าวดังกล่าวมีพนักงาน อสมท.กว่า 100คนมายืนให้กำลังใจด้วย


 


จากนั้น นางอรวรรณ แถลงข่าวอีกครั้งถึงการเคลื่อนไหวต่อต้าน นายพงษ์ศักดิ์ พยัคฆวิเชียร โดยยืนยันว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้ไม่มีอคติต่อ นายพงษ์ศักดิ์ เพียงต้องการสร้างเกราะให้กับตัวเองเพื่อไม่ให้คนที่คิดแสวงหาผลประโยชน์เข้ามาดำเนินการอย่างหนึ่งอย่าง ใดได้ แต่เราต้องการให้เกิดความโปร่งใส เท่าเทียมกันและตรวจสอบได้ ซึ่งคน อสมท ไม่ได้มองว่า นายพงษ์ศักดิ์ ไม่เหมาะสมที่จะมาดูแล อสมท แต่อสมท ไม่เหมาะกับ นายพงษ์ศักดิ์ ส่วนการกล่าวหาว่าคน อสมท ปกป้องผลประโยชน์ ไม่ป็นความจริง เพราะคน อสมท โดยเฉพาะตนทำงานใน อสมท 13 ปี ปัจจุบันได้รับเงินเดือนเพียง 34,000บาทและมีหุ้นที่แบ่งให้เพียงน้อยนิด ซึ่งไม่ว่าหุ้นจะขึ้นหรือลงก็ไม่ส่งผลกระทบต่อชาว อสมท ขณะที่ชาว อสมท พยายามกวาดบ้านตัวเองให้สะอาด แต่อยู่ๆก็มีขโมยแอบเข้าฉกทรัพย์สินในบ้าน ซึ่งเราต้องปกป้องและร้องเรียนผู้ใหญ่ให้เข้ามาแก้ปัญหา 


 


วันเดียวกัน นายพงษ์ศักดิ์ พยัฆวิเชียร รองประธานกรรมการ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ทำหน้าที่รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท ออกหนังสือชี้แจงนโยบายใน 11ประเด็น สรุปคือ บอร์ด อสมท มุ่งเสริมสร้างองค์กรให้แข็งแกร่งและเป็นอิสระ จะคงความเป็นสังคมอุดมปัญญา ที่ถูกต้อง ชอบธรรมและเสริมสร้างสังคมให้เป็นสุข ซึ่งจะสร้างความสมดุลระหว่างการสร้างกำไรให้กับสังคมและการสร้างกำไรตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้น


 


ส่วนผังรายการยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงและยืนยันว่าไม่มีผู้ใดเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ในองค์กร แหล่งข่าวจากที่ประชุมระหว่าง นายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น กับอดีตกลุ่มผู้จัดการรายการในช่อง9 ระบุว่า ข้อกล่าวหาเรื่องแบ่งเค้กกับผู้จัดรายการเดิมนั้น ไม่เป็นความจริงอย่างสิ้นเชิง เพราะการหารือวันนั้นพูดถึงการนำรายการเก่าของช่อง9 ที่ถูกถอดออก กลับมาเข้าผังรายการใหม่อีกครั้ง เช่น รายการของ นายสมเกียรติ อ่อนวิมล,นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทองและนายสุทธิชัย หยุ่น แต่ไม่ได้ข้อสรุป โดยไม่ได้พูกถึงการถอดรายการ"ถึงลูกถึงคน"และ"กบในกะลา"แต่อย่างใด ส่วนการหาผู้จัดรายการก็เน้นความเป็นกลาง ไม่ได้ให้เข้ามาเชียร์รัฐบาลชุดปัจจุบัน 


 


ด้าน นายบุญปลูก ชายเกตุ ประธานกรรมการ บมจ.อสมท (MCOT) กล่าวว่า วันที่ 10พฤศจิกายนนี้ บอร์ดจะหารือกรณีพนักงาน อสมท เรียกร้องให้ปลด นายพงษ์ศักด์ พยัฆวิเชียร และหารือเรื่องการปรับผังรายการ อย่างไรก็ตาม จะไม่มีการปรับผังรายการ เพื่อให้คนจากกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเข้ามาทำรายการตามที่เป็นข่าว "เราจะคุยกันในประเด็นว่า ปัญหาทั้งหมดอยู่ที่รักษาการหรือเปล่า ถ้าใครรักษาการแล้วมันจะดีขึ้นหรือเปล่า แต่ผมเชื่อว่ากรรมการแต่ละคนต้องการทำให้ อสมท ดีขึ้นและต้องการทำประโยชน์เพื่อ อสมท ผู้ถือหุ้นและประชาชน" นายบุญปลูก กล่าว


 


 


 ที่มา: http://www.naewna.com

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net