นราธิวาส-17 มี.ค.48 เมื่อเวลา 13.00 น. ที่โรงแรมมารีน่า อำเภอสุไหงโก - ลก จังหวัดนราธิวาส นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยแกนนำพรรค และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้เปิดเวทีประชาธิปัตย์พบประชาชน เพื่อรับฟังข้อมูลสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีผู้เข้าร่วมกว่า 500 คน

ผู้เข้าร่วมประชุมส่วนใหญ่ ต้องการให้พรรคฝ่ายค้านเสนอรัฐบาลยกเลิกกฎอัยการศึก และไม่เห็นด้วยกับการแบ่งโซนพื้นที่ ส่วนภาคเอกชนและธุรกิจการท่องเที่ยว ต้องการให้ช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจชายแดน เพราะขณะนี้ตัวเลขความเคลื่อนไหวทางธุรกิจในจังหวัดนราธิวาสเป็นศูนย์ การจ้างงานน้อยลง เพราะนักท่องเที่ยวไม่เข้า ร้านค้าเริ่มทยอยปิดตัวเอง กลุ่มนี้จึงต้องการให้พรรคประชาธิปัตย์ระดมความเห็น เพื่อหาทางให้ธุรกิจอยู่รอด

ตัวแทนโต๊ะอิหม่าม ต้องการให้ตั้งงบประมาณด้านพัฒนาจิตใจเยาวชน เพื่อให้รู้ถึงบาปบุญคุณโทษ มากกว่าพัฒนาด้านวัตถุอย่างเดียว ขณะที่ตัวแทนกลุ่มสตรี ระบุว่าการเรียนการสอนศาสนาในโรงเรียนต่างๆ อ่อนมาก หากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ จะทำให้เด็กเปลี่ยนไป มีสิ่งอื่นเข้ามาแทนที่

นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อที่ประชุมว่า การแก้ปัญหาต้องเข้าใจถึงต้นตอ อย่าเอาอารมณ์ หรือผลประโยชน์เฉพาะหน้าเป็นที่ตั้ง เพราะจะสถานการณ์จะบานปลาย ถึงแม้พรรคจะเป็นฝ่ายค้าน ก็สามารถทำให้รัฐบาลมองเห็นข้อเท็จจริงได้ หากทำไม่ได้ จะเป็นการทำลายทุนของประเทศ คือ ความมั่นคง ความปลอดภัยในชีวิต และความสามัคคี ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรค จะทำทุกวิถีทางเพื่อกอบกู้สถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ โดยจะไม่นำเรื่องนี้มาเล่นการเมือง

ระหว่างการประชุม นายเจะอามิง โตะตาหยง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนราธิวาส พรรคประชาธิปัตย์ ได้นำผู้ต้องหาและผู้ร่วมชุมนุมหน้าสถานีตำรวจภูธรอำเภอตากใบกว่า 10 คน มาพบนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ในจำนวนนี้เป็นเด็กชายที่ถูกยิงจนตาบอด และพี่ชายเสียชีวิตบนรถจีเอ็มซีทหาร ขณะนำตัวไปยังค่ายอิงคยุทธบริหาร จังหวัดปัตตานี

กลุ่มผู้ต้องหาเล่าเหตุการณ์ล่าสุดให้นายสุเทพฟังว่า เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2548 มีข้าราชการระดับสูงในจังหวัดนราธิวาสเรียกไปคุย บอกให้สารภาพจะได้ไม่เสียเวลา โดยจะขอรอลงอาญาให้ จึงยอมเซ็นชื่อรับสารภาพทั้งๆ ที่ไม่ผิด ต่อมาภายหลังได้หารือกับตัวแทนสภาทนายความ จึงทราบว่าคดีนี้เป็นคดีอาญา มีโทษจำคุกถึง 10 ปี รอลงอาญาไม่ได้ ทนายความจึงให้ปฏิเสธ และขอต่อสู้คดี จึงต้องการให้พรรคประชาธิปัตย์ช่วยเหลือ นายสุเทพรับว่า จะนำข้อมูลที่ได้รับไปเสนอต่อนายอภิสิทธิ์

นายอภิสิทธิ์ เปิดเผยว่า ในวันที่ 21 - 22 มีนาคม 2548 จะสรุปผลการลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้แล้วเสร็จ เพื่อกำหนดเป็นแนวทางการแก้ปัญหาเสนอต่อรัฐบาล ในช่วงเปิดประชุมสภาแถลงนโยบายรัฐบาล วันที่ 23 มีนาคม 2548 และในการประชุมรัฐสภา วันที่ 30 - 31 มีนาคม 2548 ขณะนี้เรื่องตัวบุคคลคงไม่สำคัญเท่ากับนโยบาย เพราะการมีทิศทางนโยบาย และการบริหารที่สอดคล้องกันสำคัญที่สุด รัฐบาลจะต้องปรับนโยบายให้สอดรับกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่

นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงคณะกรรมการสมานฉันท์ว่า ต้องให้โอกาสกับทุกกระบวนการ พรรคพร้อมจะให้ความร่วมมือ แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่ออย่างเป็นทางการ โจทย์อยู่ที่คณะกรรมการต้องการให้พรรคช่วยอย่างไร จะได้ตอบสนองตรงตามความต้องการ ซึ่งคงต้องรอคณะกรรมการ กำหนดแนวทางให้ชัดเจนก่อน